สาวร้อง ! ถูกชายอ้างตัวเป็นตำรวจ ส่งแชตล่อลวง ทำร้ายร่างกาย-กระทำอนาจาร

190 ครั้ง

29 ส.ค. 2565

แชร์ข่าวไปที่

ประเด็นการล่อลวงเหยื่อสาวทางแอปพลิเคชันไปทำร้ายร่างกาย และกระทำอนาจาร โดยเฉพาะการอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐมาล่อลวงเหยื่อ กลายเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเกิดเรื่องลักษณะนี้ขึ้นอีกครั้งในพื้นที่ จ.นนทบุรี เป็นกรณีที่หญิงสาวรายหนึ่งถูกหนุ่มที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลอกลวง และมีการทำร้ายร่างกายและกระทำอนาจาร แถมยังกักขังหน่วงเหนี่ยวเธอไว้ในบ้านด้วย ที่สำคัญหนุ่มแสบรายนี้มีประวัติเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันจนกลายเป็นข่าวมาแล้ว

นี่คือภาพเหตุการณ์ในช่วงที่ญาติของหญิงสาวผู้เสียหาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อหญิงสาวคนนี้ผ่านทางวิดีโอคอล เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด และพยายามสอบถามถึงที่อยู่ที่หญิงสาวรายนี้อ้างว่า ได้ถูกชายหนุ่มรายหนึ่งที่รู้จักกันผ่านแอปฯ หาคู่ล่อลวงให้ไปที่บ้านและทำร้ายร่างกาย กระทำอนาจาร และกักขังเธอไว้ที่บ้าน โดยขณะที่มีการพูดคุยจะเห็นว่า ผู้เสียหายได้อยู่ในสถานที่เหมือนบ้านที่กักขังตัวเธอไว้ และระหว่างที่กำลังพูดคุย ผู้เสียหายมีอาการหวาดกลัวและร้องไห้อยู่ตลอดเวลา

หลังจากได้รับทราบข้อมูลจากทางครอบครัว และการติดต่อผ่านวิดีโอคอล เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้ทำการสืบค้นหาที่อยู่ที่หญิงสาวรายนี้ได้ถูกกักขัง พร้อมกับเดินทางไปช่วยเหลือ น.ส.มาย ผู้เสียหาย ซึ่งถูกนายวีรภัทร หรือ นายบู หนุ่มแสบที่อ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ “ร้อยตำรวจโท” ได้ทำการล่อลวงไปกระทำอนาจาร และทำร้ายร่างกาย พร้อมทั้งกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ภายในหมู่บ้านมิตรประชา หมู่ 11 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ จะช่วยเหลือผู้เสียหายออกมาได้แล้ว ยังได้ส่งตัวมายังท้องที่ที่เกิดเหตุ คือ สภ.บางบัวทอง ก่อนจะนำตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบางบัวทอง และส่งตัวนายบูไปตรวจปัสสาวะที่โรงพยาบาลเดียวกัน ซึ่งผลตรวจของนายบู พบสารเสพติดในร่างกาย

หญิงสาวผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองรู้จักกับนายบู ผ่านแอปพลิเคชั่นหาคู่ ซึ่งนายบูบอกกับตนว่าเป็นตำรวจคอมมานโด ยศร้อยตำรวจโท ซึ่งได้มีการนัดเจอกันเมื่อวันอังคารที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ตอนเวลาเที่ยงคืน

จากนั้นนายบู ได้พาตนไปที่ห้องของเพื่อนและมีเพศสัมพันธ์กัน ตอนแรกตนไม่ติดใจอะไร เพราะยังอยากสานความสัมพันธ์ต่อ หลังจากนั้นช่วงเย็นวันพุธที่ 24 ส.ค. ตนได้กลับไปที่บ้าน ซึ่งนายบูได้ขับรถจักรยานยนต์ของตนเองมาส่งที่บ้านพัก และได้ขับรถจักรยานยนต์ของตนกลับไป

แต่ในวันพฤหัสบดีที่ 25 ส.ค. ตนเองต้องกลับมาเจอกับนายบูอีกครั้ง เพราะต้องไปเอารถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ที่หอพักของเพื่อนนายบู ช่วงเวลาตอนนั้น นายบูได้บอกว่า จะพาตนออกไปข้างนอก แต่ก็ไม่ยอมออกไปสักที ตนจึงเกิดอารมณ์หงุดหงิด เพราะต้องรีบกลับบ้าน ซึ่งทำให้ตัวนายบู เกิดความโกรธ และเข้ามาทำร้ายร่างกายตนเอง

สำหรับ พฤติกรรมการทำร้ายร่างกายของนายบู มีทั้งการบีบคอ เอาปืนจี้ที่หัว ใช้เท้าถีบไปที่หน้าอก และกระชากหัว ซึ่งหลังตนเองได้ถูกทำร้าย ก็ได้หาทางหนีออกมาได้

แต่พอมาถึงวันเสาร์ที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนเองต้องไปเจอกับนายบูอีกครั้ง โดยเหตุผลที่ต้องออกไปเจอ เนื่องจากนายบู ได้ส่งข้อความมาข่มขู่ว่า ถ้าไม่ไปเจอจะมาทำร้ายถึงที่บ้าน ตนก็ไม่อยากให้ครอบครัวเกิดความวุ่นวาย และนายบูยังบอกอีกว่า “เขาเป็นตำรวจ เขาเรียนมา ถ้าอยากเจอให้ลูกน้องมาลากตนไปเมื่อไหร่ก็ได้” ซึ่งทำให้ตนเกิดความหวาดกลัว ประกอบกับรูปโปรไฟล์ในติ๊กต๊อกและเฟซบุ๊ก นายบูก็สวมชุดเครื่องแบบเต็มยศ ทั้งยังมีทั้งบัตรตำรวจ กุญแจมือ หมวกตำรวจ ปืน ชุดเกราะ จึงทำให้ตนเองเกิดความเชื่อว่า นายบูเป็นตำรวจจริงๆ และสามารถทำแบบที่ทำการข่มขู่ไว้ได้

หญิงสาวผู้เสียหายรายนี้ ยังบอกอีกว่า ในวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ไปเจอนายบู ตอนแรกก็คิดว่า เขาจะยอมปล่อยและไม่ยุ่งกับตนอีก แต่สุดท้ายนายบูก็ไม่ยอมปล่อย และไม่ให้ตนไปทำงาน และยึดโทรศัพท์มือถือตนไปด้วย ซึ่งตอนที่นายบูได้แย่งโทรศัพท์ไปนั้น ได้ชกหน้าและต่อยที่เบ้าตาจนช้ำไปหมด โดยตนถูกขังอยู่ในบ้านนายบูถึง 2 วัน แต่ทั้งๆที่ชั้นล่างของบ้านนายบู มีคนอยู่เยอะ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย จนกระทั่งทางครอบครัวตนได้เเจ้งตำรวจเข้ามาช่วยเอาไว้ได้

จากการตรวจสอบประวัติของนายบู พบว่า เคยถูกจับกุมในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เมื่อปี 2561 โดยปลอมเฟซบุ๊กชื่อ “เสมา ประจัน” ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด และเคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว

ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35