สามีร้อง รพ.ทำคลอดภรรยา ลูกรอด แต่ภรรยาเป็นเจ้าหญิงนิทรา นาน 3 ปี ไร้คนรับผิดชอบ

สามีสุดเศร้า ออกมาร้องสื่อ วอน รพ. ออกมารับผิดชอบ หลัง รพ.ทำคลอดภรรยา จนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรากว่า 3 ปี สุดงง รพ.อ้างเป็นโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว !

 

 

            วันที่ 30 ส.ค. 65 พูนเกียรติ หุ่นดี (ตั้ม) สามี ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ ข่าวเย็นประเด็นร้อน ในช่วง "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า โรงพยาบาลนัดคลอดวันที่ 23 ธ.ค. 62 ก่อนจะคลอดก็มีการตรวจโรคตามขั้นตอนตามปกติ ก็ไม่ได้มีอะไรผิดแปลก จนกระทั่งคลอดเสร็จ พยาบาลเข็นลูกออกมา ตนก็ดีใจแล้วได้เห็นลูก แต่แปลกใจว่าทำไมภรรยาถึงยังไม่ออกมา มันนานผิดปกติ ตั้งแต่ 08.00 น. จนกระทั่ง 10.00 น. ตนเริ่มเห็นความวุ่นวายที่หน้าห้องคลอด ทีมแพทย์วิ่งวุ่นกันเอาถังออกซิเจนเข้าไปในห้องคลอดหลายถัง จนแพทย์ได้มาแจ้งว่า ภรรยาของตน เกิดปัญหา มีน้ำท่วมปอด เบาหวานขึ้น และหยุดหายใจไป 5 นาที ซึ่งทำให้สมองเสียหาย สาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ แพทย์อ้างว่า แฟนของตนอาจจะมีโรคประจำตัว ซึ่งตนอยู่กินกันมา ยืนยันแฟนไม่ได้มีโรคประจำตัวใด ๆ และภรรยาของตนก็ฝากครรภ์ที่นี่ แต่ไม่เห็นเคยบอกว่ามีโรคประจำตัว

 

 

            หลังจากเหตุการณ์นั้น ตนจึงคิดว่าต้องเปลี่ยนโรงพยาบาลที่รักษา เพราะคิดว่าโรงพยาบาลแห่งแรกไม่สามารถรักษาภรรยาเราได้แล้ว จึงย้ายไปที่โรงพยาบาลแห่งที่ 2 ก็รักษาเรื่อยมา แต่ที่โรงพยาบาลแห่งที่ 2 นี้ ค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงต้องย้ายไปที่โรงพยาบาลแห่งที่ 3 ช่วงเดือน ม.ค. 63 เพราะว่าตัวภรรยามีสิทธิ์ประกันสังคมอยู่ที่นั่น รักษาตัวอยู่ที่นี่เป็นเดือน ฟื้นฟูร่างกายเพื่อให้สามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ จนกระทั่ง ก.พ. 63  ได้พาภรรยากลับมารักษาต่อที่บ้าน  

 

            โดยอาการตอนนี้ ภรรยาไม่สามารถดูแลตัวเองได้ คุยแล้วก็ไม่ตอบ เป็นผู้ป่วยติดเตียง ส่วนลูกคนเล็ก แฟนของน้องสาวช่วยเอาเลี้ยง ตั้งแต่ช่วงที่เกิดเรื่อง เพราะตนไม่ไหวเรื่องค่าใช้จ่าย ด้านค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วยต่อเดือน ถ้าเป็นพวกแพมเพิร์สผ้าเปียก ก็เดือนละ 5 พันบาท พวกค่าอาหารทางสายยางประมาณ 9 พันบาท รวมกับค่าผ่อนรถ ดูแลลูก ค่านมลูก ตนรับภาระค่าใช้จ่าย ประมาณเดือนละ 2.5 หมื่นบาท ขณะที่ค่าใช้จ่าย ตอนทำคลอด เหมาจ่ายไป 5.3 หมื่นบาท และมีภาระหนี้กับโรงพยาบาลที่ 2 ประมาณ 2.4 แสนบาท ตอนนี้ก็ยังไม่ได้จ่าย ส่วนโรงพยาบาลที่ 3 เป็นสิทธิ์ประกันสังคมอยู่แล้ว ไม่มีค่าใช้จ่าย    

 

 

            ตั้งแต่เกิดเรื่องผ่านมา 3 ปี ตนยังไม่ได้รับการเยียวจากทางโรงพยาบาลทำคลอดเลย มีเพียงยื่นข้อเสนอ มาว่าจะคืนเงินค่าทำคลอดให้ แต่เราจะไม่สามารถไปฟ้องร้องโรงพยาบาลได้ ซึ่งตนก็ไม่ได้รับข้อเสนอนี้ โดยตอนนี้ได้จ้างทนายมาช่วยดูคดี ซึ่งตอนแรกลองไปขอไกล่เกลี่ย แต่เขาไม่ไกล่เกลี่ย เขาจะสู้คดี ครั้งหน้าก็อาจจะเป็นขั้นสืบพยาน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนต้องการมากที่สุดตอนนี้ คืออยากให้ทางโรงพยาบาลออกมาดูแลเยียวยาตนบ้าง ปล่อยลืมเราไปเลย      

 

 

            ด้าน ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่า ก่อนจะดำเนินคดี หรือเรียกร้องกับใคร ต้องเป็นผู้ที่กระทำประมาท ละเมิดกับเราก่อน ซึ่งในกรณีนี้ ก่อนจะทำคลอดโรงพยาบาลก็ต้องตรวจโรคก่อนอยู่แล้ว จะมาอ้างว่าเป็นโรคประจำตัวอะไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลจะต้องรับทราบอยู่ก่อนแล้ว โรงพยาบาลจะมาปฏิเสธมันเป็นไปไม่ได้ เพราะโรคพวกนี้ มันไม่เหนือความคาดหมายของแพทย์แน่นอน ถ้าเราเห็นว่าแพทย์กระทำการรักษา หรือดำเนินงานต่ำกว่ามาตรฐาน ถือว่าเขาประมาท

 

            ทั้งนี้ แนะนำให้ไปแจ้งความเป็นคดีอาญา ข้อหาที่เขาประมาท จนได้รับอันตรายสาหัส ส่วนการฟ้องคดีทางแพ่งมันต้องคู่ขนานกันไป แต่การจะดำเนินคดีแพ่งได้ ต้องมาดูคดีอาญาว่าจำเลยประมาทหรือไม่ จึงอยากให้ติดตามคดีกับพนักงานสอบสวน ว่าเขาได้ดำเนินการอย่างไรไปแล้วบ้าง เพราะในขบวนการของตำรวจสามารถประณีประนอมพูดคุยกันได้ และสามารถจบในส่วนแพ่งได้ด้วย