หลายคนเกิดอาการลังเล ! จะนำเงินไปโปะหนี้หรือว่านำไปลงทุนก่อน บางคนแบ่งเงินเป็น 2 ก้อน ก้อนแรกนำไปโปะหนี้ ก้อนถัดมานำไปลงทุน และไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนก็ไม่ผิดกติกา
ในทางทฤษฎี ดอกเบี้ยบ้านที่ผ่อนอยู่ อาจจะมีความกังวล เพราะเป็นสินเชื่อก้อนใหญ่ แต่ดอกเบี้ยก็ไม่ได้แพง ถ้าเป็นช่วงผ่อน 3 ปีแรก อาจจะมี 2 - 3% ถ้าเอาเงินก้อนไปลงทุนให้ได้มากกว่านี้ 7 - 10% ก็จะคุ้มกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว การลงทุนยังมีอีกด้านหนึ่ง คือการขาดทุน
ในเชิงปฏิบัติ มนุษย์เวลาเจอทางเลือกแบบนี้มันค่อนข้างยาก การที่มีเงินอยู่ก้อนหนึ่ง จะกันเงินส่วนนั้นเอาไปโปะเพิ่ม ถ้าหนี้บ้าน 3 ล้าน ผ่อน 18,000 โปะเพิ่มเป็นผ่อน 20,000 ในกรณีที่ผ่อนเพิ่มไปอีก 2,000 ก็จะทำให้ผ่อนเพิ่มได้เร็วขึ้นเป็น 7 ปี
ในเชิงปฏิบัติบางทีมนุษย์เจอทางเลือกแบบนี้มันยากเหมือนกัน ซึ่งไม่ต้องเลือกด้านใดด้านหนึ่งก็ได้ สามารถทำ2 อย่างพร้อมกันได้
เวลาใช้ชีวิตถ้าต้องหันหลังกลับไปจัดการกับเรื่องในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น มีหนี้บ้าน มีหนี้บัตร ทุก ๆ เดือนที่หาได้ก็ไปโปะ ซึ่งมันมีงวดปกติของมันอยู่แล้ว
แต่สามารถไปโปะเพิ่มเพื่อให้มันหมดเร็วขึ้น แล้วมันก็ไม่ได้ใช้เวลาสั้น ๆ ด้วย ชีวิตของคนที่ ยุ่งกับการจัดการเรื่องในอดีตบางทีกำลังใจมันไม่ได้
ถ้าเป็นการโปะบ้านเราอาจจะโปะในระดับที่ไม่ต้องเยอะมากจนเกินไปลองโปะเพิ่มซัก 10% ของค่างวดให้จ่ายไปในวันที่เขานัดจ่าย เช่น เขานัดจ่ายทุกวันที่ 25 ตัว 10,000 ก้อนแรกที่จ่าย มันจะเอาไปจ่ายดอกเบี้ยแล้วก็ตัดต้นในส่วนที่เหลือ ส่วนอีก1,000มันจะไปตัดต้นตรง ๆ เมื่อตัดต้นเดือนต่อเดือนมันจะทำให้ต้นในเดือนนั้นลดลงและดอกเบี้ยมี่จะคิดในเดือนถัดไปทำให้ลดลงตาม
สำหรับคนที่มีเงินออมเหลือ เรามีทางเลือกในชีวิตได้หลากหลาย อาจจะโปะบ้านหรืออาจจะทยอยลงทุนหรือจะแบ่งอย่างละนิดหน่อยทำทั้ง 2 อย่างควบคู่กันไปก็ได้ ไม่มีอะไรผิด ในเมื่อเราโปะบ้านก็คือจัดการอดีตลงทุนก็เพื่ออนาคต เหลือซักนิดนึงกินอร่อยเพื่อวันนี้
ขั้นวิกฤต ! สินค้าบริโภคต่างพากันขึ้นราคา ทำให้ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่รายได้ยังคงเท่าเดิม ขอนำเสนอ โครงการดี ๆ "โครงการพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน"
“โครงการพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน” คือ โครงการที่ทางกระทรวงพาณิชย์ นำสินค้าอุปโภคบริโภค มาลดราคากระหน่ำ เพื่อให้ประชาชนได้ซื้อของในราคาถูกลง โดยครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 20 แล้ว
โครงการพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน ในครั้งนี้ เปิดให้มีจุดจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 700 จุดทั่วประเทศไทย และระยะเวลาโครงการอยู่ที่ประมาณ 2 เดือน เริ่มตั้งแต่วันนี้ - 5 ตุลาคม 65
สินค้าที่จะนำมาลดราคามีทั้งหมด 2 หมวดใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ หมวดสินค้าทั่วไป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมัน สบู่ ยาสีฟัน และอีกหนึ่งหมวดคือ หมวดรักษาโรค เช่น ยาพารา หรือหน้ากากอนามัย ที่จำเป็นอย่างมากในตอนนี้ ทั้งนี้ยังมีสินค้าไฮไลท์อย่าง ไข่ไก่ หรือเนื้อหมู
โดยสามารถเช็กจุดจำหน่ายและข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บ ไซต์ของกรมการค้าภายใน www.dit.go.th หรือไลน์ออฟฟิเชียล @mobilepanich
ติดตาม รายการ “เงินทองของจริง” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35