เจ้าภาพแสบ จ้างออแกไนซ์จัดงานบวชสุดปัง แต่เบี้ยวไม่จ่าย แถมแจ้งข้อหาบุกรุก !

ออแกไนซ์สุดซวย ถูกจ้างให้จัดงานบวช แต่จบงานเจ้าภาพชักดาบไม่จ่ายเงิน แจ้งความคดีไม่คืบ ซ้ำร้ายเจ้าภาพหลอกนัดให้ไปเอาเงินที่บ้าน ดันแจ้งความข้อบุกรุก 

 

 

            วันที่ 29 ส.ค. 65 ปิยะนัฐ หุ่นทรัพย์ (ฟลุ๊ก) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ ข่าวเย็นประเด็นร้อน ในช่วง "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เจ้าภาพจ้างตนให้ไปจัดงานอุปสมบท โดยจัดพิธีสงฆ์ จัดฉากปลงผม และจัดฉากงานเลี้ยงด้านนอก คุยตกลงกันที่ราคา 17,000 บาท ซึ่งตนให้เจ้าภาพวางมัดจำก่อน 5,000 บาท ต่อมาก็มีการคุยแบบกัน ซึ่งก็ตกลงกันได้ไม่มีปัญหาอะไร ตนก็ทำตามแบบที่เขาต้องการหมด วันงานเขาก็ไม่ได้บ่นอะไร มีแต่ให้มาขยับฉากก่อนเริ่มงาน ซึ่งก็มีทีมงานประสานไปทางเจ้าภาพ เขาก็ไม่ได้ตำหนิอะไรมา 

 

            หลังจากจบงานตนก็เข้าไปรับเงินที่บ้านของเจ้าภาพ พอไปถึงเขาก็พูดเลยว่า "ใครให้เธอตั้งฉากตรงนั้น เขาเสียใจมากงานบวชลูกทั้งที ต้องมาติดนั่งร้าน" ตนก็เลยถามกลับไปว่า แล้วทำไมเขาถึงไม่มาบอกกันก่อนงานจะเริ่ม เขาก็ตอบกลับมาว่า "ขี้เกียจจะพูดแล้ว" จากนั้นก็โต้เถียงกัน ตนจึงบอกเขาไปว่า เดี๋ยวจะไปเอารูปจากช่างภาพมาดูว่ามันจะติดนั่งร้านไหม จะได้จัดแจงอะไรต่อถูก แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ให้ดูรูป และก็ไม่จ่ายเงิน เขายังบอกอีกว่าถ้าอยากได้เงินก็ให้ไปฟ้องเอา  

 

 

            นอกจากนั้น หลังจากตนไปร้องกับสื่อ เป็นข่าวไปประมาณ 2-3 สัปดาห์  วันที่ 25 ส.ค. 65 เจ้าภาพติดต่อมาจะขอจ่ายเงินวันที่ 26 ส.ค. 65 ตอนแรกตนนัดเขาไปที่ สภ.บ้านนา เพื่อให้ตำรวจเป็นพยาน แต่เขามาช้า เลยนัดให้ตนเข้าไปเอาเงินที่บ้าน ตนจึงให้ตำรวจเข้าไปที่บ้านกับตนด้วย เพื่อเป็นพยาน โดยมีตนและเพื่อน พร้อมตำรวจ 2 นาย พอไปถึงกลับไม่มีใครออกมา และยังโทรเข้าไปที่ศูนย์วิทยุของ 191 แจ้งว่ามี ผู้ชายมาบุกรุก 4 คน      

 

 

            ส่วนเรื่องค่าเสียหาย ยังมีอุปกรณ์ของทางทีมงานเสียหายด้วย ซึ่งเป็นดอกไม้ที่ทีมเตรียมมาเพื่อเอาไว้จัดงาน และเขานำไปตัดโดยที่ไม่บอกเรา จึงคิดค่าเสียหายกับเขา 580 บาทรวมกับที่ค้างอยู่อีก 12,580 บาท  หลังจากเกิดปัญหาขึ้นมาก็มีค่าใช้จ่ายงอกขึ้นมา อาทิเช่น ค่าทนาย 2,800 บาท ค่าดอกไม้เสียหาย 1,700 บาท และค่าวงดนตรีที่ยกเลิกกะทันหัน 2,000 บาท ถ้าเกิดเขาจ่ายเงินค่าเสียหายคืนมา ตนก็จะไม่ติดใจเอาความ  

 

 

            ด้าน ดอกส้ม เพื่อนผู้เสียหาย เผยว่า เรื่องที่มีประเด็น เกิดจากฉากฉากหนึ่ง มันไม่ตรงใจเขา เพราะว่าเราเอานั่งร้านไปยึดไว้หลังฉาก ทั้งนี้ตอนแรกตามแผนงาน เราจะยึดฉากไว้กับเต้นท์ แต่เจ้าภาพมาขอเอาเต้นท์ออก ตนก็เลยบอกให้ทีมงานประสานเจ้าภาพเพื่อเอานั่งร้านมาให้ จะได้เอาฉากมายึด เพราะว่ามันเป็นงานกลางแจ้ง มีลมแรง ยังไงก็ต้องหาอะไรมายึด สุดท้ายทีมงานก็ต้องไปหามาเอง 

 

            อย่างไรก็ตาม ตอนจัดงานก็ไม่ได้มีใครมาตำหนิหรือบอกอะไร ว่านั่งร้านมันโผล่ แล้วจะไม่พอใจ ทำให้เราคิดว่าทุกอย่างมันโอเคแล้ว เขาเพิ่งจะมาพูดตอนจบงานแล้ว ตอนไปรับเงิน 

 

 

"งานมันจบไปแล้ว ถ้าจะติติงอะไร ก็ควรพูดก่อนจะจัดฉาก แต่ว่าก็ไม่มีใครพูด ณ ตอนนี้เสร็จงานแล้ว ถึงเวลาต้องจ่ายเงินค่ะ ไม่ใช่เวลามาติ" ดอกส้ม กล่าว 

 

            ขณะเดียวกัน สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า คดีนี้ ผู้เสียหายเขาทำงานตามที่เจ้าภาพสั่งไว้เรียบร้อย โดยที่ไม่มีใครมาโต้แย้ง หรือคัดค้านอะไร แสดงว่าผู้เสียหายไม่ได้ไปฝ่าฝืนคำสั่งเขาเขาเลย อย่างไรก็ตามให้รวบรวมหลักฐาน ไปใช้สิทธิ์ฟ้อง ตามคดีผู้บริโภคได้ ต่อศาลฯประจำจังหวัด และอยากแนะนำเจ้าภาพว่าถ้าโดนฟ้องขึ้นมาไม่คุ้มแน่ เอาเงินไปจ่ายผู้เสียหายดีกว่า    

 

 

            ส่วนที่เขาให้เข้าไปเอาเงินที่บ้าน ตนมองว่า มันมีนัยยะสำคัญ เพราะโทษการบุกรุกตอนกลางวันกับกลางคืนมันต่างกัน แม้จะมีตำรวจไปด้วยถ้าเขาแจ้งความตำรวจก็โดนด้วย