คู่สามี-ภรรยา ถูกเจ้าของร้านทำผมแทงดับ อุกอาจกลางห้าง ครอบครัวเชื่อ ไตร่ตรองไว้แล้ว หวั่นไม่เป็นธรรม หลังผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัว
วันที่ 25 ส.ค. 65 ปิงปอง ลูกสาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนรู้เรื่องจากที่ น้องสาววัย 8 ขวบ โทรมาบอกตนว่า ปะป๊ากับแม่จ๋าโดนแทง ตอนนั้นก็ตกใจมาก จึงรีบขับไปหาที่เกิดเหตุ แต่ไม่ทัน มาทราบระหว่างทางว่าพ่อกับแม่เสียแล้ว สำหรับเรื่องที่คุณแม่มีปัญหากับร้านทำผม ตนไม่รู้มาก่อนเลย รู้แต่เพียงว่าเขาไปตัดผมมา เขาก็ไม่ได้มาบ่นให้ฟัง หรือบอกว่าจะไปเอาเรื่อง แค่แซวกันเรื่องทรงผมเฉย ๆ
ทั้งนี้ ตนคิดว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจมาทำร้ายร่างกายอยู่แล้ว เพราะเขาพกมีดเข้ามาในห้างแถมยังได้ยินมาว่า เขาทำการจอดรถไว้หน้าประตูห้างโดยที่ไมได้เอากุญแจออก เหมือนเขาเตรียมการว่าจะหนีอยู่แล้ว ส่วนคลิปหลักฐานก็มีทั้งจากกล้องวงจรปิด และจากที่พ่อถ่ายไว้ก่อนเสียชีวิต ทำให้ทราบว่าตอนเกิดเหตุเขาคุยอะไรกันบ้าง ซึ่งผู้ก่อเหตุก็มีข่มขู่ว่าจะเอาให้ถึงตาย
อย่างไรก็ตาม ตนหวั่นใจว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัวออกมา ทั้งที่เป็นเหตุการณ์อุกฉกรรจ์ขนาดนี้ ซึ่งตนมาทราบว่าเขาถูกประกันตัวออกมาจากสื่อ ทางตำรวจไม่ได้แจ้งอะไรเลย ทำให้ไม่ได้ไปคัดค้านการประกันตัว
สำหรับตัวผู้ก่อเหตุยังไม่มีการติดต่อกัน มีเพียงทนายโทรมาถามว่า งานศพตั้งอยู่วัดไหน และได้ส่งพวงหรีดมาให้ และเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 65 ทางญาติผู้ก่อเหตุเข้ามาที่งานศพ นำซองมาให้ร่วมทำบุญ แต่ว่ายังไม่มีการพูดคุยเรื่องเยียวยากัน เห็นเขาบอกว่ารอเสร็จงานศพก่อน
ด้าน ชูชาติ วิมูลรักชาติ พ่อผู้เสียชีวิต เผยว่า ตนมีความกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเขาได้รับการประกันตัว เพราะคิดว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์ไม่น่าได้รับการปล่อยตัว อย่างไรก็ตาม ตนไม่ขอรับการขอขมาจากเขา ตนแค้นมาก แต่ถ้าการอโหสิกรรมจะทำให้ลูกของตนที่เสียไปได้บุญกุศลก็จะทำ
ขณะที่ สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า คดีนี้ผู้ก่อเหตุมีการไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะเขาแอบพกมีดมา อีกทั้งตำแหน่งที่เขาแทงเป็นจุดตายทั้งสิ้น ทั้งใต้ราวนม และลำคอ ดังนั้น พนักงานสอบสวนต้องตั้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยไต่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 โทษสูงสุดคือประหารชีวิตสถานเดียว และตำรวจควรเร่งประสานสหวิชาชีพมาสอบสวนตัวของน้อง 8 ขวบ ที่เห็นเหตุการณ์ เพราะหากปล่อยไว้นานจะมีผลต่อรูปคดีได้ ทำให้ความน่าเชื่อถือน้อยลง
ขณะเดียวกัน ณ ตอนนี้ก็สามารถขอเพิกถอนการประกันตัวได้ ถ้าตัวผู้ต้องหา หรือพรรคพวกของเขา มาข่มขู่ตน ไม่ว่าจะเป็นทาง แชต หรือโทรศัพท์มา เก็บหลักฐานไว้แล้วนำไปร้องต่อศาลฯ ให้ศาลฯไต่สวน ประกอบการเพิกถอน การปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนเรื่องการเยียวยา แนะนำให้ รอเข้าไปเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการ แล้วเขียนคำร้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 ขอให้ศาลฯมีคำพิพากษาในส่วนแพ่ง ไปกับคดีอาญาได้เลย ไม่ต้องไปยอมไกล่เกลี่ย เพราะเขาจะสามารถนำไปแถลงต่อศาลฯให้ลดโทษได้
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35