มีเงิน 100,000 ลงทุนอะไรดี ให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ไม่เสียเงินฟรี !
เงิน 100,000 ถือว่าไม่ได้เยอะมาก แต่ก็ไม่น้อย อยากให้มีการแบ่งเงินเป็นส่วน ๆ เก็บเป็นเก็บเป็นเงินสำรอง เผื่อฉุกเฉิน โดยปกติต้องสำรองเงินเก็บไว้ประมาณ 6 เท่า ของค่าใช้จ่าย
ถ้าเกิดเอาเงิน 100,000 ไปลงทุนหมด หากจำเป็นต้องใช้เงินก็ต้องไปขายเงินที่เรากำลังลงทุนไป ถ้าตอนนั้นเงินลงทุนกำลังขึ้นมันก็น่าเสียดาย ก็ต้องไปหยุดการเติบโตของเงินลงทุน
อยากให้ดูเพิ่มเติมในเรื่องของความเสี่ยง อาจจะต้องมองในเรื่องของประกันต่าง ๆ ถ้าทางบริษัทมีให้อยู่แล้ว อาจจะไม่ต้องซื้อ ถ้าทำฟรีแลนซ์ ก็ต้องดูประกันเพิ่มไว้
เรื่องของการเงิน จำเป็นจะต้องดูแลพื้นฐานความปลอดภัยทางการเงิน เงินสำรองก็คือการจัดการความเสี่ยงอีกรูปแบบหนึ่ง เรื่องเจ็บป่วยก็จำเป็น เรื่องเงิน ถ้าไม่เจ๊งมีโอกาสเจี๊ยะได้
ถ้ามีส่วนเหลือที่สามารถเอาไปลงทุนได้ อยากให้เริ่มลงทุนในสิ่งที่รู้จัก และเข้าใจก่อน ไม่อยากรีบร้อน อาจจะต้องค่อย ๆ ศึกษาการลงทุน อาจจะเริ่มจากสลากออมทรัพย์ ไปที่กองทุนรวม ตราสารหนี้ ตลาดเงิน เป็นการลงทุนในพวกพันธบัตร หุ้นกู้ ผลตอบแทนจะมีความสม่ำเสมอ
หลักคิดในการจัดสรร เป้าหมายแรกที่อยากให้เก็บออม มีเงินสำรองฉุกเฉิน 3-6 เดือนแรกของค่าใช้จ่าย ซื้อประกันสุขภาพไว้ดูแลตัวเอง และเริ่มลงทุนในสิ่งที่เรารู้จัก
บัตรเครดิตเหมือนจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้วสำหรับคนยุคใหม่ ในวัยเริ่มต้นทำงานใคร ๆ ก็อยากที่จะมีบัตรเครดิตกันทั้งนั้นแต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน กลัวไปยื่นแล้วจะไม่ผ่าน เราจะพาไปเรียนรู้เรื่องของการทำบัตรเครดิตใบแรก สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่เริ่มต้นทำงานกัน
การจะทำบัตรเครดิตใบแรก สำหรับมนุษย์เงินเดือนให้ผ่านฉลุย ต้องเข้าใจตนเองว่า มีความจำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตมากแค่ไหน เงินเดือนเข้ามาอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ สามารถจ่ายค่าบัตรเครดิตในแต่ละเดือนได้หรือไม่ โดยเงินเดือนขั้นต่ำของธนคาร ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 15,000 บาท ขึ้นไป รวมทั้งต้องมองถึงค่าใช่จ่ายรายเดือนอื่น ๆ ของตนเองด้วย
สำหรับเอกสารเบื้องต้นที่ต้องเตรียมเพื่อการทำบัตรเครดิตใบแรก สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สลิปเงินเดือน สำเนาบัญชีธนาคารผู้สมัครย้อนหลัง 3-6 เดือน พร้อมหน้าสมุดที่ระบุชื่อ – เลขที่บัญชีเอกสารรับรองงาน (บางธนาคาร) เอกสารอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับธนาคารที่ต้องการทำบัตรเครดิต -เลือกธนาคาร สิทธิประโยชน์
สำหรับเคล็ดลับการขอบัตรเครดิตยังไงให้ผ่าน อย่างแรก จะต้องไม่มีหนี้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าบ้าน ค่ารถ หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ
อย่างที่สองคือ ถ้าเรามีรายได้เสริมที่เป็นในลักษณะรายได้ประจำ ก็สามารถนำมายื่นให้ธนาคารพิจารณาร่วมได้เช่นกัน
และสุดท้าย ค่าใช้จ่ายของเราไม่ควรเกิน 50-70 ของรายได้ แค่สามอย่างนี้ก็จะช่วยให้ธนาคารพิจารณาอนุมัติบัตรเครดิตให้เราได้ง่ายขึ้น
หลายคนอาจจะมองว่าการมีบัตรเครดิตเหมือนกับจุดเริ่มต้นของการเป็นหนี้ แต่ถ้าเรารู้จักวิธีการใช้และการจัดการที่ถูกต้อง บัตรเครดิตก็สามารถสร้างผลตอบแทนให้เราได้เช่นกัน
ติดตาม รายการ “เงินทองของจริง” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35