ซื้อรถมาแล้วผ่อนไม่ไหว เอากลับไปคืนได้ไหม ? - ชี้ช่องทาง คนพิการ หางานเลี้ยงชีพ

550 ครั้ง

24 ส.ค. 2565

แชร์ข่าวไปที่

ปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง และโรคระบาดทำให้สถานะทางการเงินของหลายคนไม่มั่นคง จึงเกิดคำามว่า ซื้อรถมาแล้วผ่อนไม่ไหว เอากลับไปคืนได้ไหม

data-cke-saved-src=https://backend.teroasia.com/uploads/pic_tiny/images/1(1062).jpg

จากข้อมูล เรื่องนี้เคยเป็นคดี มีการขึ้นศาลตัดสินมาแล้ว ซึ่งในภาษาทางกฏหมาย จะเรียกว่า Good Boy ก็คือเป็นคนที่ส่งค่างวดรถดี ส่งตรงมาตลอด แต่ว่าพอประเมินสถานะแล้วว่าไม่ไหวจริง ๆ ก็สามารถทำเรื่องเพื่อจะคืนรถให้กับสถาบันการเงินได้ แล้วก็สามารถจบเรื่องได้เลย ส่วนภาระหนี้จะไม่ตามมาในภายหลัง

ในกรณีที่คืนรถไปแล้ว ไม่จำเป็นผ่อนต่อ สามารถจบเรื่องได้เลย แต่ถ้าประวัติการส่งค่างวดรถที่ผ่อนมาแต่แรกไม่ดี ไม่ตรงเวลา เกินระยะเวลา 3 เดือน ไม่ต้องรอคืน เขาจะมายึดไปเอง

ในกรณีเครดิตบูโร ในอดีตยังไม่มีการคืนรถในเคสที่บอกไป แต่โดยหลักการถ้าเป็นการจบ หรือยกเลิกสัญญาแบบนี้ก็ไม่ได้มีการผิดเงื่อนไขอะไร ส่วนมากจะเป็นเรื่องของส่งไม่ไหว ก่อนที่จะเกิดการยึดรถ มันจะเริ่มจากการที่ไม่จ่ายมาก่อนหน้านั้น 3 เดือน ซึ่งข้อมูลก็จะบันทึกไว้อยู่แล้ว

เวลาผ่อนชำระรถยนต์ อยากให้มองให้รอบด้าน รถยนต์มันมีต้นทุนอื่นเยอะมาก จะมองแต่ค่าผ่อนไม่ได้ ยังมีค่าเติมน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าจอดรถ มีค่ารายปีตรวจรถ ค่าประกัน ค่าดูแล อยากให้มองต้นทุนแบบนี้

เงินทองของจริง : ซื้อรถมาแล้วผ่อนไม่ไหว เอากลับไ

อาจจะต้องทำตัวเลขทางการเงิน รวมไปถึงความจะเป็นว่าจะเป็นจริง ๆ หรือไม่ แต่ถ้าเราผ่อนรถมาแล้ว ยังเป็นคนผ่อนที่ดีอยู่ แต่คิดว่าผ่อนอีกไม่ไหวแน่ ๆ ให้รีบทำเรื่องคืนรถในตอนที่ยังเป็น Good boy แต่ถ้าปล่อยให้การชำระหนี้ผิดนัด แล้วมาคุยที่หลังว่าชำระไม่ไหว จะเสียเครดิตทันที

ในกรณีปรับขึ้นดอกเบี้ยรถยนต์กับบ้าน ก็ขึ้นด้วยเหมือนกัน แต่ถ้ามีรถไว้อยู่แล้วดอกเบี้ยก็จะไม่กระทบ

สำหรับใครที่ผ่อนรถอยู่ แล้วผ่อนดีมาตลอด รู้สึกว่าสถานะการเงินเริ่มไม่โอเค อยากให้ทบทวนการเงินอยากจริงจัง มีความจำเป็นหรือไม่ ถ้าถึงขั้นขาดไม่ได้ ก็อาจจะต้องวางแผนเจรจาต่อรองกับทางสถาบันการเงินเพื่อปรับลดยอดผ่อน แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ขอคืนรถ และยกเลิกสัญญา

ภาครัฐโดยกระทรวงแรงงาน ได้มีการจัดสรรสวัสดิการสำหรับผู้พิการ นอกจากเบี้ยเลี้ยงคนพิการที่ทราบกันอยู่แล้ว ยังช่วยผู้พิการในลักษณะของการส่งเสริมจ้างงานคนพิการ

เนื่องจาก พ.ร.บ. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 กำหนดให้หน่วยงานภาครัฐ รวมไปถึงผู้ประกอบการเอกชน ที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ต้องรับคนพิการเข้าทำงาน เพื่อเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและลดอัตราการว่างงานของผู้พิการลง

โดยกำหนดให้หน่วยงานหรือสถานประกอบการต้องส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นรายปี แต่ถ้าหากรับผู้พิการเข้าทำงานจะได้รับการยกเว้นการส่งเงินเข้ากองทุน และได้รับยกเว้นภาษี

หน่วยงานภาครัฐและสถานประกอบการเอกชนต่าง ๆ จึงเปิดรับสมัครผู้พิการเข้าทำงานหลายอัตรา ตามความสามารถของผู้พิการ ซึ่งหากท่านผู้ชมเป็นผู้พิการ หรือมีญาติพี่น้องที่เป็นผู้พิการ ที่กำลังว่างงานหรือตกงานในช่วงวิกฤตโควิดเช่นนี้ สามารถนำ สมุดประจำตัวคนพิการ เข้าไปที่ศูนย์การจัดหางานในพื้นที่ภูมิลำเนาของคุณผู้ชม และแสดงความประสงค์ที่จะหางานหรือสมัครงานได้เลย

หากผู้พิการยังไม่มี สมุดประจำตัวคนพิการ และประสงค์จะจดทะเบียนคนพิการ เพื่อนำ สมุดประจำตัวคนพิการ ไปขอรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ สามารถนำเอกสารตามตัวอย่างที่ขึ้นอยู่นี้ ไปยื่นขอจดทะเบียนได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ กรุงเทพฯ หรือสำนักงานประชาสงเคราะห์จังหวัดที่ศาลากลางจังหวัดภูมิลำเนาที่คนพิการอาศัยอยู่ได้เลย

สำหรับใครที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ สายด่วน กระทรวงแรงงาน 1506 หรือทางเว็บไซต์ของกระทรวงแรงงาน https://lb.mol.go.th/

ติดตาม รายการ “เงินทองของจริง” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35