ไฮโซสาวสุดทน ถูกอดีตสามีโหด ลูกคนเล็กดีเจชื่อดังทำร้าย ขู่ฆ่ายกครัว เบ่งรู้จักตร.ยศใหญ่ !

"ไฮโซเบลล์" ร้อง สายไหมต้องรอด หลังถูกอดีตสามี ทำร้ายร่างกาย ตามรังควานตลอด 2 ปี ขนาดตั้งท้องก็ไม่เว้น เคยแจ้งความ แต่คดีไม่คืบ ตร.บอก ปัญหาครอบครัวไม่อยากยุ่ง !

 

 

            วันที่ 23 ส.ค. 65 ธัญญ์สมินธิ์ มหาโชติเทวากุล (เบลล์) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ ข่าวเย็นประเด็นร้อน ในช่วง "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนคบกับอดีตสามีมาประมาณ 2 ปี แต่ก่อนหน้านั้นช่วงที่คบมาได้ 6 เดือน ได้ตัดสินใจแยกทางกัน เนื่องจากเขามีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายตลอด ทั้งตบ ตี จับหัวโขก ลากลงเตียง ทุกอย่าง ตัวเขาดีแค่ตอนคบกันเดือนแรก จากนั้นก็หนักขั้นเรื่อย ๆ  ตนจึงหนีกลับไปอยู่บ้านที่เชียงราย ซึ่งในช่วงระหว่างนั้นตนได้ตั้งครรภ์ขึ้นมา และเขาก็ยังตามง้ออยู่ ตนเลยให้โอกาสเขา หวังว่าถ้าเขามีลูกแล้ว จะปรับตัวดีขึ้น กลับกลายเป็นว่าในช่วงที่ตนตั้งครรภ์อยู่ เขาไม่ได้ปรับตัวเลย แถมยังทำร้ายตนตอนท้องด้วย ทั้งด่าทอ ไล่ให้ไปทำแท้ง คำต่ำ ๆ ที่จะพูดได้ เขาพูดทุกคำ หนักที่สุดคือวันที่ตนผ่าคลอดวันสุดท้าย เขาก็ทำร้ายร่างกายตนในโรงพยาบาล ในขณะที่ตนก็เจ็บแผลผ่าคลอดอยู่ ซ้อม ดึงผม ทำร้ายร่างกาย ทั้งที่ไม่ได้มีมูลเหตุการทะเลาะกันใด ๆ เลย 

 

            ทั้งนี้ ตนไม่รู้ว่าอาการของเขาเกิดจากอะไร เกิดจากการเสพยา หรืออะไร ตนไม่เคยอยู่ในสังคมที่เขาเล่นยาเลยไม่รู้ เขาจะเป็นคนปกติ 1-2 วัน หลังจากนั้นเขาจะมีอาการพูดคนเดียว เห็นภาพหลอน ฟึดฟัด จิกขาจิกแขน พึมพำคนเดียว ตาแข็ง และก้าวร้าวขึ้น  

 

 

            ส่วนครอบครัวของเขา รับรู้ทุกเรื่องที่เขากระทำกับเรา ตนนับถือเคารพเขา รักเขา ให้เกียรติเหมือนพ่อแม่ของเรา เวลามีปัญหา หรือมีเรื่องอะไรตนจะรายงานเขาทุกครั้ง มีบาดแผลอะไรตนก็ถ่ายให้เขาดู หวังว่าเขาเป็นผู้ใหญ่จะช่วยจัดการอะไรให้ตนได้ แต่ก็ไม่มีการจัดการใด ๆ ทั้งสิ้น แม้เขาจะเห็นกับตาว่าลูกชายเขาทำอะไรกับตน ก็ไม่มีการจัดการ   

 

            สำหรับประเด็นขู่ฆ่า  ก็เป็นเรื่องจริง มันเริ่มจากคำขู่ของเขา แต่แม่เขาบอกว่าลูกชายเขาไม่ทำหรอก ตนก็เชื่อ ก็ไม่ได้คิดอะไร แต่มันเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มมีการ เอามีด เอากรรไกรมาขู่ ทำท่าจะแทง ตนเลยคิดว่ามันไม่ใช่แค่ขำขู่แล้ว เพราะเขาสามารถทำเราได้จริง ๆ และไม่ได้ขู่ฆ่าแค่ตน มีการขู่ฆ่าครอบครัว และลูกติดของตนอีก 2 คนด้วย พร้อมทั้งขู่ให้ตนไปแจ้งความได้เลย เขารู้จักตำรวจยศใหญ่ ๆ หลายคน เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ตนไม่ค่อยอยากมีปากเสียงมาก  คนอาจจะคิดว่าเราทนอยู่ทำไม ตนอยากบอกว่า ตนพยายามหนีและพยายามเลิกตลอด แต่เขามีการขู่แบล็กเมล์ตน ด้วยคลิปที่เขาแอบถ่ายตอนหลับนอนด้วยกัน       

 

 

            อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เลิกรากันมานานแล้ว แต่เขาไม่เคยจบ ยังตามรังควานไม่เลิก จะมาอ้างเรื่องลูกว่าตนกีดกันก็ไม่ได้ เพราะเราแบ่งแยกการเลี้ยงลูกอย่างชัดเจน ใน 1 เดือน จะแบ่งกันบ้านละ 2 อาทิตย์ ถ้าอยากอยู่กับลูกก็ อยู่ในเวลาของเขาได้เลย เวลาของเราเขาไม่มีสิทธิ์ 

 

            ที่ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ เพราะว่า ตนโดนขู่จนสภาพจิตใจตอนนี้แทบจะเป็นซึมเศร้าแล้ว เป็นแพนิคด้วย แค่พูดชื่อ หรือเห็นหน้าเขา เราจะสั่น จนคนรอบข้างต้องเข้ามาให้กำลังใจ และไม่ได้เป็นแค่ตน แทบจะเป็นกันทั้งบ้าน มันทำเราใช้ชีวิตลำบากมาก ฟางเส้นสุดท้ายคือวันที่เขามาอาละวาดหน้าบ้าน โดยที่ข้างหลังเราเป็นลูก ๆ หลาน ๆ และผู้หญิงในบ้าน ทุกคนต่างหวาดกลัว เพราะเขามาพังประตูหน้าบ้าน ตนเลยคิดว่า ถ้าเราไม่สู้ เราก็จะโดนแบบนี้เรื่อย ๆ และอาจจะไม่ได้เห็นหน้าลูกอีก เลยไม่ยอมแล้ว สุดท้ายเคยไปแจ้งความ แต่ทางตำรวจบอกว่าเป็นปัญหาทางครอบครัว เขาเลยไม่อยากยุ่ง  

 

 

            ด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผยว่า ตนได้รับเรื่องประสานมาจากเพื่อน พอได้ฟังยังไม่อยากเชื่อเลยว่ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ฟังแล้วสงสารเลยรับเรื่องมา ปรากฏว่าพอได้ฟังผู้เสียหายเล่าถึงพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ มันยิ่งหนักเข้าไปอีก จึงอยากบอกกับพี่น้องประชาชนว่า "พฤติกรรมของผู้ชายที่กระทำกับผู้หญิง มันเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ เลิกรากันไปแล้วก็ต่างฝ่ายต่างจบกันไป ถ้าอยากมาเจอเขาก็ต้องใช้คำพูดที่ดีกว่านี้ มันเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก"

 

            ทั้งนี้ มีการไปแจ้งความไว้แล้วในหลายท้องที่ แต่ตำรวจแจ้งว่าเป็นเรื่องของครอบครัวไม่อยากยุ่ง ให้ไปคุยกันเอา ซึ่งตนมองว่ามันไม่ใช่ เขาถูกทำร้ายไปขอความช่วยเหลือ แต่ตำรวจกลับปัดความช่วยเหลือ จนเขากลับมาแล้วก็ถูกทำร้ายซ้ำ ๆ จึงได้ประสาน ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขอให้ท่านช่วยดูเรื่องที่เขาแจ้งความแล้วเหตุใดทำไมไม่คืบหน้า ถ้าท่านไม่ช่วยผู้หญิงคนหนึ่งเหมือนตกนรก ส่วนเรื่องคลิปแบล็กเมลล์ตัวผู้เสียหายไม่ต้องกังวล ถ้าเขาปล่อยมาก็ดำเนินคดีตามกฎหมายไป     

 

 

            ขณะเดียวกัน ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนได้แจ้งไปยัง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ท่านก็รับเรื่อง และให้ทางผู้กำกับโรงพัก สภ.ปากเกร็ด เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง เข้ามาแจ้งข้อหา และได้มีการนำตู้แดงไปติดตั้งที่บ้านผู้เสียหาย เพื่อคุ้มครองพยาน และจะมีตำรวจเข้ามาตรวจเวียนอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้ง ได้สั่งการให้ทางสำนักงานยุติธรรมประจำจังหวัดนนทบุรี เข้าไปคุยในเรื่องของการคุ้มครองพยาน

 

            อย่างไรก็ตาม สื่อออกข่าวไปวันนี้ ทางครอบครัวของเขา คุณพ่อที่เป็นดีเจชื่อดัง คงจะทราบข่าวกัน ต้องฝากให้ครอบครัวตักเตือนลูก ถ้าไม่เตือน ลูกคุณเดือดร้อนแน่นอน เพราะตนจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด จะไม่ให้เรื่องเงียบแน่นอน เขามีการทำร้ายร่างกายกระทั่งตอนที่ท้อง มันผิดกฎหมายอาญา อย่างน้อยที่สุดก็ต้องโดนมาตรา 295 เขาไม่มีสิทธิ์จะไปทำร้ายภรรยา ขนาดกฎหมายยังไม่อณุญาตให้สามีข่มขืนภรรยาเลย