อัจฉริยะ อัด อาหารเสริมแบรนด์ดัง ลงทุน 3 เดือน กำไร 15 ล้าน มันใช่หรอ !? : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

อัจฉริยะ ร้อง ตำรวจไซเบอร์ สอบเอาผิด อาหารเสริมลดหุ่นแบรนด์ดัง หลังชวนลงทุน อ้าง 6 พัน 3 เดือน กำไร 15 ล้าน 

 

 

            วันที่ 22 ส.ค. 65 อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เล่าว่า ตนเฝ้าดูเคสนี้มานานแล้ว เขาจะมีพฤติกรรม โพสต์โชว์ความร่ำรวยลงสื่อโซเชียลออนไลน์ พร้อมทั้งชักชวนให้มาลงทุนด้วยเงินน้อย ก็จะรวยเป็นเศรษฐีได้ ตนมองว่ากลยุทธ์เหล่านี้ เล่นกับความโลภของคน ลักษณะจึงคล้ายกับแชร์ลูกโซ่  แม้เคสนี้จะยังไม่มีผู้เสียหาย ตนก็ไม่อยากปล่อยไว้  

 

            จากกรณีที่มีตัวแทนออกกมาโพสต์ ลงทุน 6 พันบาท ทำงาน 3 เดือน ได้กำไร 15 ล้าน ตนตั้งขอสังเกตุว่ามันเป็นไปได้หรอ เพราะขนาดเจ้าของบริษัทฯ ยังไม่มีกำไรขนาดนั้นเลย โดยบริษัทฯ อาหารเสริมดังกล่าว มีกำไร ปี 60 611 บาท ปี 61 กำไร 4.5 แสนบาท ปี 62 กำไร 4.7 แสนบาท ปี 63 กำไร 1.3 ล้านบาท ปี 64 กำไร 8 ล้านบาท ซึ่งมันขัดแย้งกันกับที่เขาโฆษณามา ว่ามีรถหรู และ เพนท์เฮ้าส์ มูลค่ารวมกันกว่า 200 ล้านบาท    

 

 

            ทั้งนี้ตนต้องการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ถ้าปล่อยให้เขามีเครือข่ายมากกว่านี้ ความเสียหายจะต้องตามมาแน่ ๆ ส่วนตัวเขาก็ไม่ต้องมารับผิดชอบ เพราะ เขาถือว่า คุณซื้อของเขาไปและขายไม่ได้เอง รวมทั้งเรื่องที่ บริษัทฯเองก็อยู่ระหว่างการดำเนินคดีเรื่องที่ใช้สาร "ไซบูทรามีน" เป็นสารอันตราย ห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก ซึ่งเขาก็เอาสินค้าที่มีสารพวกนี้มาขาย ตนจึงปล่อยไม่ได้ สำหรับคดี อยากให้ ดำเนินการกับกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ และผู้เกี่ยวข้อง หน้าม้าต่าง ๆ ฐานความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และฉ้อโกงประชาชน และถ้าหากสืบทราบว่ามีการฟอกเงิน ก็อยากให้ดำเนินคดีด้วย

 

 

            ด้าน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (บช.สอท.) เผยว่า ธุรกิจแบบนี้ มีค่อนข้างเยอะในโลกออกไลน์ โดยจะสร้างเรื่องขึ้นมาให้ร่วมลงทุน ซึ่งจะใช้ผลกำไรจำนวนมาก มาเป็นสิ่งจูงใจ ในเรื่องคดี ตอนนี้กำลังเร่งดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง ว่ามีมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนอย่างไร ซึ่งมันก็อาจจะเข้าข่าย ทั้งนี้ใช้เวลาดำเนินการไม่นาน รอการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนตัวแทนหน้าม้า ก็อาจจะถูกดำเนินคดีด้วย หากเขาพึงรู้ว่ากำไรมหาศาลอย่างที่เขากล่าวอ้าง มันเป็นไปไม่ได้ ก็จะเข้าข่ายด้วย

 

 

            ขณะเดียวกัน ทีมงาน "ถกไม่เถียง" ได้ติดต่อบริษัทฯดังกล่าวไปแล้วตลอดทังวัน โดย มีความตั้งใจจะเปิดพื้นที่ ให้เจ้าของธุรกิจนี้ชี้แจงถึงประเด็นข้อกังขาต่าง ๆ เพื่อคลายความแคลงใจของสังคม โดยทีมงานได้พยายามติดต่อไปยังคนใกล้ชิดของ เจ้าของบริษัทฯ รายนี้ไม่ว่าจะเป็นมือขวา หรือแม้แต่จะทักแชทเฟซบุ๊ก ไลน์ข้อความไป มีการกดอ่าน แต่ไม่มีการตอบกลับใดๆ ซึ่งทีมงานก็ได้ติดต่อไปยังเบอร์ของบริษัท โดยมีเจ้าหน้าที่รับสายแจ้งว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงรวบรวมข้อมูลหลักฐาน จึงยังไม่สามารถให้ข้อมูลกับนักข่าวได้ หากได้ข้อสรุปจากที่ประชุมอย่างไรจะมีการแจ้งให้ทราบในภายหลัง