เกิดเหตุสุดอุกอาจขึ้นหน้าค่ายทหาร ในพื้นที่ จ.นครพนม เป็นเหตุที่ทหารนายหนึ่งถูกเพื่อนรักที่เป็นรุ่นพี่ทหารด้วยกัน ขับรถจักรยานยนต์มาพูดคุยกันก่อนจะชักอาวุธปืนออกมากระหน่ำยิงถึง 16 นัด จนหมดแม็กกาซีนเสียชีวิตคาป้อม ทั้ง ๆ ที่ตัวของผู้เสียชีวิตกำลังจะออกเวรอีกเพียงแค่ 13 นาทีเท่านั้น แต่ก็ต้องมาจบชีวิตลง ส่วนรุ่นพี่ทหารที่ก่อเหตุพอยิงเสร็จก็ขี่จักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างใจเย็น
ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพทหารนายหนึ่ง ที่เพิ่งจะก่อเหตุยิงทหารเสียรุ่นน้องเสียชีวิตคาป้อมยาม ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หนีไปอย่างใจเย็น โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งมีเหตุยิงกันเสียชีวิตบริเวณหน้าป้อมยามค่ายทหารใน อ.เมืองนครพนม โดยที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต นอนหงายในสภาพสวมเครื่องแบบสารวัตรทหาร หรือ สห.
จากการตรวจสอบพบว่า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนมากกว่า 10 นัด ทราบชื่อผู้ตายคือ สิบตรี วัชระ อายุ 29 ปี และเจ้าหน้าที่ยังพบปลอกกระสุนปืนตกในที่เกิดเหตุ จำนวนกว่า 10 นัด
จากการสอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน-ดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน สวมหมวกกันน็อกครึ่งใบ ไม่ปิดแมสก์ ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากในค่ายทหาร ก่อนที่จะมาจอดรถพูดคุยกับผู้เสียชีวิตที่ยืนเข้าเวร แต่เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เมื่อคนที่ขี่รถจักรยานยนต์ ได้ชักอาวุธปืนออกมากระหน่ำยิงมากกว่า 10 นัด จนเสียชีวิตคาที่
เบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนในหน่วยทหารด้วยกัน และรู้จักกับผู้เสียชีวิตมากก่อน ขณะที่ปมสังหารคาดว่า เป็นเรื่องของความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งเหตุการณ์นี้ นับเป็นเหตุการณ์อุกอาจที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ที่เกิดเรื่องขึ้นในหน่วยทหารนี้ เพราะเมื่อช่วงเดือน ก.พ.64 ได้เกิดเหตุนายทหารยศร้อยโท ถูกยิงตายใกล้บ้านพัก และยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ตัวของผู้เสียชีวิต คือ สิบตรี วัชระ ได้เข้าเวร สห.ในช่วงเวลา 15.00 น. ซึ่งเตรียมกำลังจะออกเวรในตอน 18.00 น. และเหลือเวลาอีกเพียง 13 นาทีเท่านั้น ตัวของสิบตรีวัชระ ก็จะผลัดเปลี่ยนเวรแล้ว แต่มาเกิดเหตุสลดเสียก่อน
ขณะที่ความคืบหน้าในการไล่ล่ามือปืนที่ก่อเหตุ โดนทางเจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้ว คือ สิบโท มานิตย์ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นรุ่นพี่ทหารร่วมค่าย ซึ่งสิบโทปืนโหดรายนี้ มีบ้านพักอยู่ภายในค่าย
ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพัก ก่อนจะมาจอดตรงจุดที่สิบตรีวัชระ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ จากนั้นก็ชักอาวุธปืนขนาด 9 มม. แบบแม็กกาซีน และได้กระหน่ำยิงแบบไม่ยั้งถึง 16 นัด โดยเข้าที่ลำตัวและศีรษะรวม 12 นัด อีก 4 นัดพลาดเป้าไปถูกกระจกและผนังป้อมยาม
ส่วนชนวนเหตุที่นำไปสู่การสังหารในครั้งนี้ อาจจะมาจากการมีปากเสียงกันที่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่สิบตรีวัชระ ที่เพิ่งจะย้ายมาประจำค่าย เมื่อประมาณ 2 ปีเศษ ส่วนสิบโทมานิตย์ เป็นพลทหารอาสาที่มีฐานะยากจน แต่สามารถสอบเข้าเป็นนายสิบได้ ประกอบกับนิสัยส่วนตัวของสิบตรีวัชระ เป็นคนพูดจาโผงผาง ถ้าใครไม่รู้นิสัยจะกล่าวหาว่าเป็นคนก้าวร้าว แต่ความจริงเป็นคนที่รักพวกพ้องและมีน้ำใจ ในขณะที่ สิบโทมานิตย์ เป็นคนที่ไม่ค่อยคุยและสุงสิงกับใคร อาจจะคิดว่าสิบตรีวัชระ ไม่เคารพรุ่นพี่ จึงเก็บความคับแค้นไว้ในใจ ก่อนจะตัดสินใจก่อเหตุยิงเพื่อนเสียชีวิตคาป้อมยาม
ล่าสุด ทางด้าน พลตรี สถาพร บุญชู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 นครพนม ประสานงานร่วม กับ พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม ได้เร่งระดมทีมสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐาน เบื้องต้นพบหลักฐานสำคัญเป็นภาพจากกกล้องวงจรปิด ในที่เกิดเหตุ ขณะคนร้ายขับรถจักรยานยนต์มาพูดคุยก่อนจ่อยิงผู้เสียชีวิต และเป็นหลักฐานสำคัญมัดตัวคนร้าย ซึ่งคาดว่ายังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ โดยจะประสานทางกับครอบครัวให้ไปเกลี่ยกล่อมเข้ามอบตัว
ขณะที่ความคืบหน้าในการจับกุมตัวทหารปืนโหด ล่าสุด พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้สั่งการให้ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม เร่งรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่าง เพื่อเสนอศาลมณฑลทหารบกที่ 24 จ.อุดรธานี เพื่อขออนุมัติออกหมายจับ สิบโท มานิตย์ คนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้แล้ว
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับภรรยาของผู้เสียชีวิต คือ นางสาว สกาวเดือน และญาติของผู้เสียชีวิตคือ นายพิทักษ์ ซึ่งเดินทางมารอรับศพที่โรงพยาบาลนครพนม ที่กำลังอยู่ในอาการโศกเศร้า
โดยภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สามีปกติเป็นคนใจเย็น ได้แต่งงานกันมา 4-5 ปี ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับใคร ซึ่งครอบครัวตนได้ย้ายมาจากกรุงเทพมหานครและมาอยู่ จ.นครพนม ได้ประมาณ 2 ปีแล้ว แต่ถ้ามีปัญหาขัดแย้งกับใครสามีก็จะเล่าให้ฟังทุกเรื่อง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนก็ไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุอะไร เพราะคนก่อเหตุเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกันมานาน และไม่คิดว่า จะทำกันได้โหดร้ายขนาดนี้
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35