สาวพิการ ดำเนินการร้องสื่อ หลังแจ้งความแต่คดีไม่คืบหน้า เหตุนายกฯแรงงาน หลอกโกงเงินค่าสลากกินแบ่งรัฐบาล เสียหายนับล้านบาท ร่ำไห้เป็นเงินเก็บมาทั้งชีวิต
วันที่ 18 ส.ค. 65 อรินทรา เจริญทอง (รอด) สาวพิการผู้เสียหาย เล่าว่า ตนรู้จักนายกสหพันธ์แรงงานคนพิการ มา 2-3 ปีแล้ว แต่ไม่เคยทำธุรกรรมใด ๆ ร่วมกัน และไม่เคยมีปัญหากัน จนกระทั่งได้มาลงทุนซื้อโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลจากเขา ซึ่งในครั้งแรก ๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร มามีปัญหาตอนงวด 2 พ.ค. ที่ตนโอนเงินให้เขาตั้งแต่ 10 กับ 13 เม.ย. เป็นลอตเตอรี่ 150 เล่ม จำนวนเงินประมาณ 1 ล้านบาท พอถึงเวลากลับติดต่อไม่ได้ และมีหญิงสาวรับสายแทน อ้างว่า เขาประสบอุบัติเหตุอยู่ห้องไอซียู ตนจึงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะว่ามีเงินที่ลูกค้าโอนมาเพื่อเอาลอตเตอรี่ไปขายต่อด้วยเช่นกัน จึงต้องไปซื้อสลากฯ ที่ ศูนย์การค้าสลากไทย ที่สนามบินน้ำเองเลย โดยกู้เงินจากญาติมาก่อน คิดไว้ว่าถ้าเขาหาย คงได้เงินคืน แต่ก็เงียบหาย
จากนั้นเขาส่งจดหมายมาโดยเป็นจดหมายลาตาย มาทางไลน์ ใจความว่า "ณ เวลานี้ข้าพเจ้ากราบขอโทษทุก ๆ คน ที่มีส่วนนำเงินมาลงทุนขายสลากกับข้าพเจ้า ตอนนี้ข้าพเจ้าสู้ดอกเบี้ย สู้ให้กำไรให้กับทุกคนไม่ไหวแล้ว เอาทุนหน้ามาปะทุนหลัง ทำให้เสียหาย มิหนำซ้ำข้าพเจ้าถูกโกง 30 ล้าน แม้แต่ชีวิตจะจากไปในไม่กี่ชั่วโมง ขอให้ทุกคนนำจดหมายฉบับนี้ยืนยันว่าความผิดอยู่ที่ข้าพเจ้าคนเดียว ซึ่งข้าพเจ้าแอบอ้างชื่อเขา ซึ่งชาตินี้ขอลาก่อน ขอไปชดใช้ในชาติหน้า" ตนจึงรู้ว่าเขาตั้งใจจะฆ่าตัวตายหนีหนี้ ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุจริง ซึ่งตนก็เครียดมาก เพราะเงินที่เสียไปก็เป็นเงินเก็บทั้งหมดของตน ได้มาจากตอนทำงานโรงงาน เป็นเงินกองทุนของบริษัทฯ ที่เก็บมา 14 ปี มาเจอแบบนี้มันไม่เหลืออะไรเลย แถมยังเป็นหนี้เขาอีก
ทั้งนี้ลอตเตอรี่ดังกล่าว เป็นโควตาของคนพิการ เขาจัดสรรเพื่อให้คนพิการได้ขาย จะมีการทำสัญญาก่อนจะซื้อขายกันเป็นระยะเวลา 3 งวด แต่ล๊อตที่มีปัญหาไม่ได้ทำสัญญากัน เพราะสัญญามันหมดไปแล้วก่อนหน้านี้ ส่วนตำรวจบอกว่า มันเป็นคดีอาญาไม่ได้ ต้องเป็นคดีแพ่ง เขาเลยแค่ลงบันทึกประจำวันไว้ และแนะนำให้ไกล่เกลี่ยกัน อย่างไรก็ตามเขาเขาอ้างว่า ถ้าใครไม่แจ้งความเขาก็จะทำงานหาเงินมาคืน แต่ใครแจ้งความเขาก็จะยอมติดคุกใช้หนี้ ทั้งนี้ก่อนจะออกรายการ มีคนโทรเข้ามาหาตน บอกว่าเคยโดนกรณีแบบนี้เหมือนกัน เรื่องโกงลอตเตอรี่ แต่ศาลฯก็สั่งให้ยกฟ้องหมด ถ้าเราดิ้นรนไปก็ไม่มีประโยชน์
ด้าน ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า เคสนี้ ตนมองว่า ตำรวจคงมองว่าเป็นการซื้อขายกันทั่วไปจึงลงว่าเป็น คดีแพ่ง แต่ว่าโควตาที่เขาอ้างว่ามี มันมีจริงไหม ถ้ามันไม่มีก็อาจจะเข้าข่ายในความผิดฉ้อโกงได้ เพราะปกปิดข้อเท็จจริง ซึ่งก็ต้องพิสูจน์กันก่อน ทั้งนี้แนะนำให้ไปร้องเรียน ที่ "ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข" ได้เลย และเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมท่านจะมารับเรี่องเอง และจะพิจารณาส่งเรื่องต่อไป เพื่อให้พนักงานสอบสวนเขาไปตรวจสอบว่ามันไม่ใช่การผิดสัญญาทางแพ่งทั่วไป และถ้าเขาหลอกอีกหลายคน ก็จะเป็นการฉ้อโกงประชาชน และถ้าเป็นอย่างนั้นก็เป็นความผิดมูลฐานความผิดฟอกเงิน สามารถติดตามเรื่องฟอกเงิน และยึดทรัพย์ มาเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหายได้
ส่วน ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ความเห็นว่า ในเรื่องที่ผู้เสียหายกลัวว่าดำเนินคดีไป ก็ไม่มีประโยชน์นั้น แนะนำว่าอย่าไปกังวล เพราะมันมีความเสียหายเกิดขึ้นจริง แม้จะไม่เข้าองค์ประกอบความผิดทางคดีอาญา มันก็ผิดเรื่องของคดีแพ่งอยู่ดี อย่างไรก็ตามเราสามารถุใช้สิทธิทางศาลได้
นอกจากนี้ นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ได้ติดต่อเข้ามาว่า ได้ยินเรื่องราวแล้ว อยากให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย ให้ติดต่อไปหาตน
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35