ความคืบหน้าคดีกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนบุกไปถล่มยิงใส่บ้านคู่อริในย่านเพชรเกษมถึง 16 นัด จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว “มอส คลองขวาง” และสมุนคู่ใจ พร้อมแถลงข่าวปิดคดีอุกฉกรรจ์นี้แล้ว
เรามาย้อนไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงดึกคืนวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเหตุการณ์ขณะที่ 2 คนร้ายบุกไปกราดยิงถล่มบ้านของคู่อริ เหตุการณ์กราดยิงครั้งนี้ทำให้บ้านพักของคู่อริเต็มไปด้วยร่องรอยความเสียหายจากกระสุนปืนเป็นจำนวนมาก
น.ส.กัส เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนกับนายมอสเป็นเพื่อนสนิทกัน ทำธุรกิจขายรถมือสองด้วย ซึ่งทั้งตนเอง นายมอส และเพื่อนอีกคนที่ชื่อนายธนพล หรือ “บุ๊ค” เป็นเพื่อนที่อยู่กลุ่มเดียวกัน ไปมาหาสู่กันถึงบ้านแบบว่าเข้าออกบ้านกันได้อย่างสบายใจ โดยในวันเกิดเหตุตนคิดว่า เขาจะมาเคลียร์ปัญหาที่เคยมีการติดใจกันดีๆ แต่เขากลับเปิดฉากยิงถล่มบ้านของตนเองจนได้รับความเสียหายและมีคนได้รับบาดเจ็บ โดยขณะที่ยิงเขาก็พูดว่า “มึงเก่งมากใช่ไหม มึงออกมา”
ทีมข่าวได้รับข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถเคลียร์กันได้ จนกลายเป็นชนวนเหตุให้นายมอส พร้อมด้วยสมุนคู่ใจ เดินทางมาก่อเหตุกราดยิงในครั้งนี้ โดยมีด้วยกัน 4 ข้อ คือ
ประเด็นแรก กรณีที่รุ่นน้องของ น.ส.กัส ซึ่งเคยไปนั่งเล่นที่บ้านของนายมอส และได้ถูกสุนัขของนายมอสกัดที่ใบหน้าจนแผลถึง 6 รู แถมนายมอสไม่ยอมดูแลค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
ประเด็นที่สอง เป็นกรณีนายมอสได้ไปซื้อรถยนต์ต่อจากเพื่อนกลุ่มนี้ แต่ยังติดค้างเงินที่ต้องจ่ายอีก 2 หมื่นบาท จึงทำให้รถคันดังกล่าวไม่สามารถโอนเป็นชื่อนายมอสได้
ประเด็นที่สาม เป็นเรื่องผู้หญิง โดยแฟนเก่าของนายธนพล หรือ “บุ๊ค” ที่กลายเป็นแฟนใหม่ของนายมอส ได้ทราบว่านายบุ๊คติดโควิด และนอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านของ น.ส.กัส จึงได้ส่งข้อความไปสอบถามอาการ แต่ปรากฎว่า นายมอส ได้มาพบข้อความแชทดังกล่าว จึงเกิดความไม่พอใจ
และประเด็นสุดท้าย คือ ปัญหาจากการเล่นแชร์ที่ไม่สามารถตกลงเรื่องเงินกันได้
ด้านแม่ของนายบุ๊ค บอกว่า นายมอสโหดร้ายมาก ไม่คิดว่าจะทำกันขนาดนี้ พอทราบข่าวว่าลูกโดนยิงก็เป็นห่วงมาก เพราะไม่รู้ว่าลูกกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่ กลัวว่าลูกจะกลายเป็นเจ้าชายนิทรา
หลังผ่าตัดหมอบอกให้แม่ทำใจ เพราะกระโหลกแตกมีเศษกระสุนฝังกระจายอยู่ในแกนสมอง ต้องดูอาการ 5 วัน ให้มีการตอบสนองก่อน ถ้ารอดก็อาจจะไม่เหมือนเดิมอาจเป็นเจ้าชายนิทรา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
ขณะที่ความคืบหน้าการล่าตัวนายมอสนั้น ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัว “ไอ้มอส คลองขวาง” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันได้แล้ว ในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ส่วนเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมตัวได้เช่นกัน ซึ่งทั้งสองได้พยายามหลบหนี และเปลี่ยนสถานที่กบดานไปมา แต่สุดท้ายก็ถูกตำรวจรวบตัวไว้ได้ บริเวณพื้นที่ปริมณฑลติดกับกรุงเทพมหานคร ก่อนจะคุมตัวทั้งสองส่งศาลอาญาตลิ่งชันดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่ความคืบหน้าด้านพี่สาวของนายมอส ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมเปิดหลักฐานเป็นข้อความที่นายบุ๊ค ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้เป็นผู้คุกคามน้องชายของตนเองมาตลอด ซึ่งทางครอบครัวทราบเรื่องตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยน้องชายมักจะมาระบายให้ฟังว่า ถูกนายบุ๊คบุกไปถึงบ้านพักและถ่ายรูปที่บริเวณบ้านพักและส่งแชทมาเพื่อเรียกให้น้องชายลงไปเจรจาเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวที่อดีตแฟนของนายบุ๊คมาติดพันตัวน้องชาย รวมถึง น้องชายยังเคยถูกนายบุ๊คใช้อาวุธปืนบุกมาถึงบ้านพัก และจ่อที่ศีรษะ ซึ่งนายบุ๊คได้คุกคามน้องชายอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าเป็นเหตุทำให้น้องชายขาดสติและตัดสินใจลงมือก่อเหตุ
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35