เหตุซ้ำซาก ! น้ำขังผ้าใบก่อสร้างทางด่วนถนนพระราม 2 หล่นใส่รถ จนพังยับ

เหตุการณ์นี้โครงการสร้างด่วนพระราม 2 งานก่อสร้างสะพานหรือทางด่วนจะสังเกตเห็นว่าจะมีผ้าใบปิดกั้นไม่ให้เศษวัสดุก่อสร้างตกลงมาข้างล่าง โดยช่วงนี้ฝนตกทุกวันทำให้น้ำไปขังในผ้าใบ จนผ้าใบรับน้ำหนักไว้ไม่ไหว ตกลงมาใส่รถชาวบ้าน รถเสียหายหลังคาบุบ กระจกหน้าแตก

 

เมื่อคืน (11 สิงหาคม 2565) เวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.แสมดำ รับแจ้งมีเหตุรถประชาชน ถูกน้ำ ซึ่งขังอยู่บนผ้าใบโครงการก่อสร้างทางด่วน ตกใส่จนได้รับความเสียหายกระจกหน้ารถแตก บริเวณถนนพระราม 2 ขาออก  หน้าหมู่บ้านลัดดารมย์รีเจ้นท์ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร

 

ที่เกิดเหตุอยู่บนช่องทางด่วนเลนขวาสุด พบรถเก๋งยี่ห้อ Ford รุ่น Fiesta สีเทา ทะเบียน ญท 4507 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ใต้ตอม่อ โครงการก่อสร้างทางด่วน ถนนพระราม 2 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทพงษ์ภัทร เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด ในสภาพกระจกด้านหน้ารถแตก หลังคารถยุบ โดยผู้ขับขี่คือ น.ส.ทิชากร โพธิ์ทะเล อายุ 33 ปี ยืนรอเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตกใจ

 

จากการสอบสวน น.ส.ทิชากร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถออกจากบ้านพักย่านมหาชัย ไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม 2 เมื่อเลิกเรียนก็กำลังขับรถกลับบ้าน ช่วงนั้นพระราม 2 ขาออกรถน้อยเดินรถสัญจรได้คล่องตัว ตนจึงใช้ช่องทางด่วนเลนขวาสุด เพื่อขับมุ่งหน้ากลับบ้านพัก แต่เมื่อผ่านมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงวัตถุขนาดใหญ่ หล่นใส่หลังคาและกระจกด้านหน้ารถดังสนั่น จนกระจกแตกหลังคายุบลงมา ยอมรับว่าตกใจมากจึงรีบเหยียบเบรค แบบกระทันหันเลย  แต่โชคดีไม่มีรถมาชนท้าย  กระทั่งลงมาสำรวจดูพบว่า ถูกน้ำที่ขังอยู่บนผ้าใบด้านบนไซต์งานก่อสร้าง ซึ่งมีน้ำหนักน่าจะหลายกิโล  ตกลงมาใส่รถ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งแฟนและตำรวจให้มาตรวจสอบ

 

ด้าน นายนิติพันธุ์ วงษ์รักษา อายุ 38 ปี เจ้าของรถ ซึ่งให้แฟนสาวนำรถมาใช้ ตามไปที่โรงพัก เปิดเผยว่า ตนเชื่อว่าเหตุการณ์นี้น่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เพราะจากการดูด้วยสายตา พบว่า ยังมีน้ำขังในถุงผ้าใบ ด้านบนไซต์งานก่อสร้างหลงเหลืออยู่ หลังดำเนินการแจ้งความ ทางคู่กรณีซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทรับเหมา และตัวแทนจากแขวงการทางสมุทรสาคร ได้เดินทางเข้ามาเจรจาต่อหน้าพนักงานสอบสวน ด้วยเช่นกัน โดยฝั่งคู่กรณีรับปากยินดีชดใช้ค่าเสียหายที่ตัวรถให้ ซึ่งหลังจากนี้ จะต้องประเมินเวลาการจอดซ่อมที่อู่ เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนกรณีรถจอดซ่อม เนื่องจากที่ผ่านมาต้องใช้รถทุกวัน ที่สำคัญรถตนไม่ได้ทำประกันภัยเอาไว้ด้วยจึงไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากใครได้อีก

 

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน จึงลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เพื่อนำเสนอผู้บังคับบัญชา และจะนัดหมายคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้าตกลงเรื่องการชดใช้ค่าเสียหาย ก่อนสรุปสำนวนคดีตามกฎหมายต่อไป

 

จากนั้นผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "นิติพันธ์ วงษ์รักษา" ได้นำเรื่องราวดังไปโพสต์ พร้อมข้อความระบุว่า "เส้นพระราม2 มีน้ำหล่นใส่แถว ๆ แสมดำ ใครเห็นเหตุการณ์หรือมีกล้องหน้ารถจะขอบพระคุณมากครับ"  ทำให้มีพลเมืองดีส่งคลิปหน้ารถมาให้ 

 

 

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้านี้ (12 สิงหาคม 2565)  นายปรเมศฐ์ ตันมณีวัฒนา วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ กรมทางหลวงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ  

 

นายปรเมศฐ์ เปิดเผยว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุได้สั่งให้ลูกจ้างเข้าไประบายน้ำแล้ว แต่ดันมาเกิดเหตุก่อน ส่วนที่น้ำขังเป็นการน้ำผ้าใบไปคลุมเพื่อป้องกันเศษวัสดุตกหล่นจึงทำให้อุ้มน้ำไว้ ซึ่งทราบอยู่แล้วแต่มาดำเนินการไม่ทัน ซึ่งขณะได้แก้ปัญหาโดยเจาะรูให้สามารถระบายน้ำได้เพื่อไม่ให้เกิดซ้ำ ระหว่างนี้เป็นช่วงที่กำลังวางมาตรการความปลอดภัย ตรงจุดที่น้ำขังของผ้าใบตอนนี้รัดให้แข็งแรงและปลอดภัย ส่วนกรณีเหตุที่เกิดขึ้นสั่งการให้ผู้รับจ้างดูแลเรื่องซ่อมรถและค่าเสียหายอย่างเต็มที่ และจะตรวจสอบความปลอดภัยมากขึ้นและยืนยันว่าจะไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก