พ่อร้องสื่อ หลังลูกชายถูกดีเจดัง กระทืบฟันหัก 1 เดือนคดีไม่คืบ : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

พ่อร้องเรียนสื่อ หลังลูกชายถูกกระทืบหน้าห้องน้ำผับ จนฟันหัก 2 ซี่ ผ่านมา 1 เดือน คดีไม่คืบหน้า สืบทราบผู้ก่อเหตุเป็นดีเจดัง อ้างทำเพราะถูกคุกคามทางเพศ ผู้เสียหายลั่น ตนไม่ใช่เกย์ พร้อมเดินหน้าคดีให้ถึงที่สุด 

 

            วันที่ 12 ส.ค. 65 หนึ่ง (นามสมมติ) ลูกชาย เล่าว่า ตนไปดื่มกินที่ผับแห่งหนึ่ง ระหว่างที่กำลังจะกลับก็แวะเข้าห้องน้ำ ยืนปัสสาวะข้าง ๆ ผู้ก่อเหตุ ตนก็ทำธุระปกติ มีหันซ้ายหันขวาบ้าง หลังออกจากห้องน้ำ ผู้ก่อเหตุเขาเห็นเพื่อนมา เขาก็ชี้หน้า และเข้าทำร้ายตนเลย ตนไหว้ขอร้องให้เขาหยุด เขาก็ไม่หยุด เพื่อนของเขาก็ไม่ได้ห้ามอะไร 

 

 

            ทั้งนี้ ตนมีอาการบาดเจ็บ ฟันหน้าหัก 2 ซี่ และฟันด้านข้างต้องรอการรักษารากเทียม และต้องรอดูว่าระบบของฟันมันเชื่อมกับระบบประสาทหรือเปล่า แล้วก็มีพูดจาไม่ชัด พูดลำบาก รวมทั้งอาการปวดศีรษะ คุณหมอบอกว่าระยะเวลาการรักษาอาจใช้เวลาถึง 7-8 เดือน    

 

 

            ด้าน วิษณุ ไทยเจริญพร พ่อของผู้บาดเจ็บ เผย สิ่งที่ตนรับไม่ได้ คือลูกชายของตนยกมือไหว้ขอโทษแล้ว แต่เขาก็ยังทำต่อไม่หยุด และจากหลักฐานที่ตำรวจส่งมาให้ ตัวผู้ก่อเหตุหลังจากทำร้ายเสร็จแล้ว เขาก็ยังกลับไปนั่งกินดื่มต่อได้ ตนว่าคนแบบนี้แปลก ทั้งนี้จากการสอบสวน ตำรวจแจ้งว่าตัวผู้ก่อเหตุเป็นดีเจ

 

            ตั้งแต่เกิดเหตุ เขาก็ยังไม่เคยติดต่อเข้ามา จนกระทั่งหลังเกิดเหตุประมาณ 1 เดือน เป็นข่าว ดีเจผู้ก่อเหตุ ได้จึงติดต่อมจึงให้คุยกับคุณแม่ เขาก็ขอโทษขอขมา นอกจากนี้เขายังถามกับคุณแม่ว่า ลูกทำงานอะไร ใช้หน้าตาทำงานไหม ตนก็ไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกับคดี    

 

 

            อย่างไรก็ตาม ตัวดีเจผู้ก่อเหตุ ออกมาเผยถึงเหตุผลที่กระทำดังกล่าวว่า ระหว่างที่ปัสสาวะ น้องเขามองตนปัสสาวะบ่อย และเกิดมีปากเสียงกัน เลยเข้าไปบันดาลโทสะ และที่ตนเข้าไปทำแบบนั้นเพราะ ตนรับไม่ได้กับเรื่อง Sexual Harrassment หรือการคุกคามทางเพศ และมองว่าตนเป็นผู้ถูกกระทำ เลยต้องปกป้องตัวเอง  

 

            หนึ่ง (นามสมมติ) กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนขอยืนยันว่าตนไม่ได้มองเขาปัสสาวะ และตนไม่ได้เป็นเกย์ ยังคงชอบผู้หญิง และไม่ได้รู้จักไม่เคยมีเรื่องกับเขามาก่อน  

 

            วิษณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนไม่เข้าใจในเหตุผลของเขา เพราะผู้ชายเวลาปัสสาวะก็ยืนข้างกันหมด และตาก็ต้องมองไปข้างซ้ายข้างขวาบ้าง ไม่ว่าประเทศไหนก็เป็นแบบนี้หมด อีกทั้ง ห้องน้ำก็เป็นห้องน้ำสาธารณะ ทุกคนเขาใช้กันหมด แต่ถ้ามีคนแบบนี้อยู่ มันไม่ปลอดภัยแน่นอน ทั้งนี้ ตนอยากดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จะไม่มีทางยอมความแน่นอน 

  

 

            ฟาก พ.ต.ท.นพดล โพธิ์ศรี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.หัวหมาก เผยว่า ผู้ก่อเหตุติดต่อมาว่า สัปดาห์หน้าจะเข้ามามอบตัว โดยเบื้องต้น แจ้งข้อหา มาตรา 295 ทำร้ายร่างกาย ที่เหลือต้องรอใบชันสูตรบาดแผล และสอบปากคำจากหมอ ว่าแผลประมาณนี้ จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตอย่างไรบ้าง 

 

 

            ขณะที่ ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า ตนคิดว่าตัวผู้ก่อเหตุเขาได้ปรึกษากับทนายแล้ว เพราะคำว่า "บันดาลโทสะ" เป็นศัพท์ของนักกฎหมาย โดยเขาจะอ้างเหตุบันดาลโทสะ เพื่อขอให้ศาลฯ ลดโทษ นอกจากนี้ แนะนำให้ผู้เสียหาย ดำเนินคดีฐาน ทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ตามมาตรา 297 เพราะรักษาก็เกิน 20 วันแล้ว จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี ปรับตั้งแต่ 1 หมื่น ถึง 2 แสนบาท และเป็นความผิดที่ไม่อาจยอมความได้ จากนั้นพออัยการนำตัวมาฟ้องต่อศาลฯ ไปเขียนคำร้อง ตามป.วิอาญา มาตรา 44/1 ขอให้ศาลฯมีคำพิพากษาในส่วนแพ่งไปกับคดีอาญาได้เลย ไม่ต้องฟ้องใหม่ ส่วนเรื่องที่เขาถามถึงหน้าตาผู้เสียหาย ใช้ทำงานหรือไม่ ตนมองว่าเขาหัวหมอ เพราะจะจ่ายค่าเสียหายน้อยเนื่องจากไม่ได้ใช้หน้าตาทำงาน