หนุ่มชีวิตพัง ถูกกระบะซิ่งชน ขาหัก 2 ข้าง กว่า 4 เดือน คู่กรณีชิ่งไม่เหลียวแล ! : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

หนุ่มโชคร้าย ถูกกระบะซิ่งชนไถลข้ามเลนมาชน ขาหัก 2 ข้าง กลายเป็นคนพิการ ทำงานไม่ได้ ด้านคู่กรณีอ้างไม่มีเงินจ่ายเยียวยา ก่อนชิ่งเงียบ 

 

 

             วันที่ 9 ส.ค. 65 วรพงษ์ ศรีลาปาว (เต้ย) ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุตนขับรถจักรยานยนต์มากับแฟนสาว กำลังจะไปทำสวน กลางทาง ตนถูกรถกระบะหนึ่งคันขับมาเร็วมากแซงไป ซึ่งรถคันนั้นไปเฉี่ยวกับรถกระบะคันสีดำ ที่สวนมาอีกเลนหนึ่ง โดยที่กระบะคันสีดำก็กำลังแซง รถกระบะสีขาวเลนเดียวกันขึ้นมาเช่นกัน ทำให้กระบะสีดำต้องหลบ และไปเกี่ยวกับกระบะสีขาว ก่อนจะเสียหลักไถลข้ามเลนมาชนตน 

 

             ทำให้ขาของตนหักทั้ง 2 ข้าง และบาดเจ็บบริเวณสะโพก ตนต้องดามเหล็กที่ขาทั้ง 2 ข้าง ไม่สามารถเดินได้ โดยหมอบอกว่าต้องพักรักษาตัว 6-9 เดือนให้กระดูกสมานกัน ถึงจะสามารถกายภาพบำบัดได้ แต่ถ้าจะให้กลับมาเดินได้ ต้องใช้เวลาอีก 3-4 ปี และถึงแม้จะเดินได้ ก็ยังไม่รู้ว่าจะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ 

 

 

             ขณะที่ค่ารักษาต่าง ๆ ครอบครัวตนเป็นคนจ่ายเองทั้งหมด เพราะคู่กรณีไม่มาเยียวยา มีแต่กระบะคันสีขาว เข้ามาเยียวยาเบื้องต้น 2 หมื่นบาท หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนกระบะคันสีดำ บอกว่าไม่มีเงิน และเงียบหายไปเช่นกัน 

 

 

             ด้าน นัทธพงศ์ ศรีลาปาว พี่ชายผู้บาดเจ็บ เผยว่า ตอนตนไปถึงที่เกิดเหตุ คนขับกระบะสีดำไม่อยู่แล้ว แถมในรถยังพบขวดเหล้าอีกด้วย คนที่มาด้วยกันเขาก็บอกว่าก่อนหน้านี้ไปดื่มเหล้ากันมา ตอนที่ตำรวจตามตัวคู่กรณีมา เขาก็บอกแต่ว่าไม่มีเงิน ทำให้ตกลงค่าเสียหายกันไม่ได้ ตำรวจจึงนัดมาใหม่อีก 2 ครั้ง แต่เขาก็ไม่มา 

 

             เคยโทรไปสอบถามความคืบหน้ากับตำรวจ เขาบอก "ไม่ว่าง ดำนาอยู่" และเคยถามว่าคดีไปถึงไหนแล้ว เขาบอกว่า "ไม่ได้ไปไหนหรอก อยู่ที่โรงพักนี่แหละ" ตนเจอแบบนี้ก็ทำอะไรไม่ถูก เลยต้องมาร้องเรียนกับทางรายการ  

 

 

             ขณะที่ พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า เราสันนิษฐานกันว่า กระบะคันสีดำ ยี่ห้อนิสสัน เป็นฝ่ายที่ประมาท จึงต้องดำเนินคดีทางอาญา ใน 2 ฐานความผิด คือ ขับรถเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี และขับรถอันตรายสาหัส เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ส่วนเรื่องการตรวจแอลกอฮอล์นั้น วันที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาทำการหลบหนี ทำให้ไม่ได้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ แต่ข้อนี้ก็มีความผิดฐานชนแล้วหนีเช่นกัน 

 

             ขณะที่การเยียวยาต่อผู้เสียหายนั้น เป็นเรื่องของทางแพ่ง ตำรวจไม่ได้มีอำนาจไล่บี้ขนาดนั้น หากมีการเยียวยากัน ทำได้เพียงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเป็นเหตุบรรเทาโทษเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ยังไม่ได้นำตัวผู้ต้องหามาฟ้องนั้น เพราะว่าต้องรอใบชันสูตรบาดแผลก่อน ล่าสุดตนได้กำชับไปแล้วว่า ให้นำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้ภายใจ 7 วัน และสุดท้ายตนต้องขอโทษแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีการพูดจาไม่เหมาะสมด้วย     

 

 

             ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ความเห็นว่า ตัวผู้ต้องหา ผิดฐาน ประมาททำให้บุคคลได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งอาการสาหัสนั้นเขาดูจากตรงที่ ระยะเวลารักษาเกินกว่า 21 วัน แล้วเหตุเกิดตั้งแต่เดือน เม.ย. ตนคิดว่า มันไม่ควรจะปล่อยให้นานขนาดนี้ 

 

             อย่างไรก็ตาม ให้ผู้เสียหาย รวมรวมหลักฐานการรักษา ใบเสร็จต่าง ๆ ทุกอย่างยื่นต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้พนักงานสอบสวนส่งต่อให้พนักงานอัยการ ในคราวเดียวกับที่ดำเนินคดีอาญา เพื่อเรียกค่าเสียหาย ผู้ต้องหาจะมีหรือไม่มี เราก็มีสิทธิ์เรียกค่าเสียหาย อีกทั้งยังสามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ด้วย เป็นค่าทุกขเวทนา ที่เราต้องใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปตลอดชีวิต