โรงน้ำแข็งเดือด ! เปิดศึกไล่ยิงกลางเมืองอยุธยา ปมวิ่งทับเส้นแย่งลูกค้า

เกิดศึกโรงน้ำแข็ง 2 แห่ง ไล่ยิงกันสนั่นเมืองกรุงเก่า โดยชนวนเหตุมาจากการวิ่งทับเส้นแย่งลูกค้ากัน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 3 ราย

 

เกิดเหตุสุดอุกอาจขึ้นกลางเมืองกรุงเก่าใน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเหตุการณ์กราดยิงกันบนถนน เส้นทางเจดีย์–วัดพนัญเชิง จากคลิปเราจะเห็นได้ว่า ก่อนที่จะมีการกราดยิงกัน ได้มีรถกระบะสีขาวขับข้ามเส้นทาง จนชนกับรถยี่ห้อแฮมเมอร์ สีแดง ที่วิ่งมาด้วยความเร็วพอสมควร ซึ่งรถแฮมเมอร์ลักษณะคล้ายกับขับหนีรถตู้สีดำที่ขับตามมา

 

หลังจากรถแฮมเมอร์ชนกับกระบะสีขาวแล้ว คนขับรถแฮมเมอร์เหมือนจะพยายามขับหนีรถตู้สีดำต่อ แต่ไม่สามารถขับรถไปได้ ทำให้คนในรถแฮมเมอร์ ได้ออกจากตัวรถและวิ่งหนีตายอย่างสุดชีวิต ซึ่งทางรถตู้สีดำคู่อริ ได้เปิดประตูรถลงมา โดยมีกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 คน ได้ชักอาวุธปืนออกมาไล่ยิงคนที่วิ่งหนีตายไป (หากสังเกตดี ๆจะเห็นว่า 1 ใน 3 ของกลุ่มชายฉกรรจ์ มีการใช้อาวุธปืนที่ดูคล้าย ๆ อาวุธสงครามด้วย) ซึ่งชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คน ได้กราดยิงกลุ่มคนจากรถแฮมเมอร์ที่วิ่งหนีไป แต่ในรถแฮมเมอร์คันนี้ ยังเหลือคนขับรถอีกหนึ่งคน ทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ ได้เดินมุ่งตรงไปที่รถ แต่คนขับรถแฮมเมอร์ไหวตัวทัน ได้เร่งเครื่องรถที่อยู่ในสภาพชนกับกระบะสีขาวออกไปอย่างรวดเร็ว

 

แค่นั้นยังไม่พอ หลังจากที่รถแฮมเมอร์ได้ขับหนีออกไปแล้ว ยังมีกลุ่มคนที่คาดว่า น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มชายฉกรรจ์ของรถตู้คันสีดำวิ่งกรูเข้ามาอีก ซึ่งมีการชักปืนจากกระเป๋าสะพาย และอีกคนที่ใส่เสื้อสีแดง ก็ชักปืนที่เหน็บไว้ด้านหลังขึ้นมา

 

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาวตอนเดียว ทะเบียน บว 8200 พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นรถส่งน้ำแข็งของโรงน้ำแข็งอโยธยา อยู่ในสภาพด้านหน้ารถถูกชนพังเสียหาย และมีรอยกระสุนปืนบริเวณฝากระโปรงรถ ใกล้กันพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ป้ายแดง ทะเบียน ก 9037 นครราชศรีมา จอดอยู่

 

นอกจากนี้ ยังพบชายวัยรุ่น 4 คน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวอยู่ภายในรถ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้น โดยพบอาวุธปืนขนาด .38 อยู่ภายในรถ 2 กระบอก และอาวุธปืนขนาด 9 มม.อีก 1 กระบอก และปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่นอกรถอีก 1 กระบอก เบื้องต้นทราบว่าชายวัยรุ่นทั้ง 4 ราย เป็นคนงานของโรงน้ำแข็งพันล้าน ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า รถคันสีแดงในที่เกิดเหตุยี่ห้อแฮมเมอร์ เลขทะเบียน กจ 9 สิงห์บุรี ได้ไปจอดอยู่ที่บริเวณ สภ.นครศรีอยุธยา ในสภาพที่กระจกหน้ารถถูกยิงเป็นรูพรุน และยางล้อรถ ด้านซ้ายแตก กันชนหน้า และไฟหน้าแตกเสียหาย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ฝ่ายใดเป็นฝ่ายที่เริ่มเปิดฉากยิงก่อน

 

ทีมข่าวได้สอบถามนายไชยณรงณ์  จันทร์สีดา กำนันตำบลเกาะเรียน เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้รับแจ้งเหตุว่า โรงน้ำแข็งทั้ง 2 แห่ง มีเรื่องทะเลาะบาดหมางกันมาอยู่แล้ว กระทั่งวันนี้ได้รับแจ้งเหตุว่า มีการก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันอีกครั้ง บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลเกาะเรียน อำเภอบางปะอิน จึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไประงับเหตุ 

 

แต่เมื่อไปถึงบริเวณที่โรงน้ำแข็งทั้ง 2 ฝ่ายทำการทะเลาะวิวาทนั้น ปรากฏว่าทั้ง 2 ฝ่าย ได้แยกย้ายกันไปแล้ว จากนั้นจึงได้ขับขี่ติดตามมามาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่า รถกระบะโตโยต้า คันสีขาว ได้ขับออกมาจากซอยอโยธยา 1/8 ก็พุ่งชนกับรถแฮมเมอร์สีแดง ซึ่งเป็นฝั่งของคู่กรณี และได้มีการเปิดฉากยิงกันขึ้นจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยจะทำการตรวจสอบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ หรือว่าถูกลูกหลงจาก เหตุการณ์ดังกล่าว 

 

จากคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สรุปได้ว่า คู่กรณีที่ก่อเรื่องขึ้น ก็คือ คนจากโรงน้ำแข็งทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งฝ่ายแรกขับรถกระบะสีขาว และอีกฝ่ายขับรถแฮมเมอร์สีแดง ส่วนรถตู้สีดำ เป็นรถของกำนันตำบลเกาะเรียน ที่ขับติดตามทั้งสองฝ่าย หลังได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท