นางแบบสาว โต้ทนายดัง ยืนยันความบริสุทธิ์ กรณีมิจฉาชีพสวมรอยนำภาพตนเองไปใช้ แอบอ้าง หลอกคุณตาวัย 70 ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี่ สูญเงินกว่า 4.8 ล้านบาท
วันที่ 8 ส.ค. 65 ใบเฟิร์น นางแบบที่ถูกนำภาพไปแอบอ้าง ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ในช่วง "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนมารู้เรื่องราวจากที่ลูกเพจเขาแคปโพสต์ที่ ทนายรัชพล โพสต์เอาไว้ โดยเป็นรูปของตน และระบุว่าคนในรูปทำการหลอกให้เทรดคริปโตเคอร์เรนซี่จนสูญเงินกว่า 4 ล้านบาท ตนเลยตอบโต้โพสต์นี้ปลอม เพราะตนไม่เคยไปโกงใคร และทำการแชร์ไปที่หน้าเฟซบุ๊กของตนเอง เพื่อบอกกับสาธารณะว่าตนเองบริสุทธิ์ ซึ่งเฟซบุ๊กปลอมใช้ชื่อว่า Vina Thidavanh (Na) ไม่ใช่ชื่อของตนเอง
จากนั้นก็คุยกับทนายรัชพล ตนได้ชี้แจงว่าไม่เกี่ยวข้องไม่ได้เป็นคนทำ อย่างไรก็ตามตนติดใจ ที่ทนายรัชพล โพสต์รูปของตนโดยไม่เบลอหน้า เพราะรูปของตนแม้จะเบลอตนก็จำได้ หรือแฟนคลับตนมาเห็นก็จำกันได้ และยังติดใจว่าทำไมให้ข่าว ใช้เป็นชื่อจริง นามสกุลจริงของตน เพราะมันจะเสียหายกับตนได้ หากคนที่เขาไม่ได้ติดตามตน เขามาค้นหาชื่อ เขาก็เจอข่าวไม่ดีของตน ซึ่งตอนนี้ตนก็กำลังหารืออยู่ว่าอาจจะฟ้องทนายรัชพล หรือไม่
ส่วนในเรื่องคดีนี้ ทนายรัชพลบอกตนว่าให้ไปให้การที่ สภ.เมืองนนทบุรี แต่ตนไม่กล้าไปคนเดียว เนื่องจากไม่มีผู้ใหญ่ ตนก็ไม่รู้เรื่องราวว่ามันเป็นมายังไง จึงจะให้ ตำรวจ สน.สายไหม คุยกับทนายให้ว่าจะต้องทำยังไง และสุดท้ายได้ไปขอให้ทางเพจสายไหมต้องรอด เข้ามาช่วย
"เฟิร์นไม่ได้โกงใครเลยค่ะ ขนาดตัวเองยังถูกโกงเลยค่ะ เฟิร์นไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปโกงใครด้วยค่ะ" ใบเฟิร์น กล่าว
ด้าน ศักดิ์ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า มิจฉาชีพ ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Vina Thidavanh (Na) ทักมาหาตน จากนั้นก็เริ่มมีการคุยกันค่อนข้างบ่อย โดยเขามีพฤติกรรมเรียกตนว่าที่รักตลอด แต่ตนก็เฉย ๆ คุยกันเรื่อยมา จนสนิทสนม เขาอ้างว่าเขาอยู่ที่ จ.เชียงใหม่
จนกระทั่งตนได้ไปถามเขาว่า เขาทำงานอะไรอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เขาบอกว่ามีร้านขายของ คล้าย ๆ ร้านสะดวกซื้อ โดยเขาเป็น CEO ของร้าน ต่อมาเขาก็ถามว่าตนเล่นหุ้นหรือเปล่า ตนก็บอกว่าตนเล่น เขาก็เลยเล่าให้ฟังว่า เขายืมเงินแม่มา 7 ล้านบาท ไปลงทุนในตลาดหุ้น ปรากฏว่า มันขาดทุน 2-3 ล้านบาท จึงโดนแม่ต่อว่ามา เขาเลยหันไปเล่นคริปโตเคอร์เรนซี่ เทรดจนได้กำไร ทำให้ตนก็สนใจ เขาเลยชวนตนเล่น และส่งแอปฯที่เอาไว้เล่นคริปโตฯ มาให้ตนโหลดเอาไว้
หลังจากโหลดเอาไว้ ตนก็ได้มีการโอนเงินออกไป 9 ครั้ง รวมแล้ว 4,898,000 บาท โอนออกไปเพื่อเล่นคริปโตฯ ซึ่งเขาโน้มน้าวว่า ช่วงนี้เป็นโอกาสดี ให้เทรดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เงินที่ตนโอนออกไป มันไปเข้าบัญชีวอเล็ท โดยมิจฉาชีพจะบอกให้ตนเป็นคนโอนไปซื้อเหรียญกับบุคคลที่ 3 ซึ่งไม่ได้โอนเงินให้ตัวมิจฉาชีพโดยตรง ซึ่งเงินที่ตนโอนไป เป็นเงินเก็บของตน โอนไปให้เขาจจนหมด ไม่เหลือแล้วสักบาท
ที่ตนเชื่อว่าเขาเป็นตัวจริง เนื่องจาก เขาเคยส่งคลิปมาให้ตนดู ด้วยความที่เป็นภาพเคลื่อนไหว ตนจึงเชื่อ และยังมีที่ตนได้โทรคุยกับตัวมิจฉาชีพ ตนแปลกใจว่าเสียงของมิจฉาชีพ กับตัวจริง เหมือนกันเลย แต่ตนไม่เคยเห็นหน้าของเขาเลย
ขณะที่ ใบเฟิร์น กล่าวเพิ่มเติมว่า คลิปที่คุณลุงเปิดให้ดู มันเป็นคลิปของตนจริง แต่เป็นคลิปจากบัญชี Tiktok ของตนเอง ซึ่งมันเป็นสาธารณะ ใครก็สามารถเข้าไปบันทึกคลิปมาได้ แถมตัวมิจฉาชีพยังตัดชื่อบัญชี Tiktok ออกจากภายในคลิปด้วย
ขณะเดียวกัน รัชพล ศิริสาคร ทนายความ กล่าวว่า ที่ตนโพสต์รูป ตนก็หวังดี จะตามหา อยากพูดคุยเพื่อจะช่วยเหลือ ให้มาให้การกับตำรวจที่ สภ.เมืองนนทบุรี มาแสดงตัวว่าบริสุทธิ์ และสามารถคุยกับคุณศักดิ์ เพื่อให้เขาไม่ติดใจ และตัดตัวคุณใบเฟิร์นออกจากสำนวน เพราะตอนแรกคุณศักดิ์ เขาจะชี้ตัวให้เป็นผู้ต้องหาเลย หากเป็นแบบนั้นมันก็จะวุ่นวาย ตนเลยบอกให้คุณใบเฟิร์นเป็นพยานก่อน ตนก็เสียใจที่คุณใบเฟิร์นจะฟ้องตน เพราะว่าความตั้งใจของตน แค่อยากช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ใจจริง ๆ
ส่วนเรื่อง ที่ตนให้ข่าว โดยใช้ชื่อจริง นามสกุลจริง ของคุณใบเฟิร์น เพราะว่า จากในรูปพวกนักข่าวก็น่าจะออกมายืนยันได้ ว่าคนในรูปเป็นคุณใบเฟิร์น ไม่ใช่วีนา แต่ตนก็ยืนยันได้ว่าตนไม่ได้พูดชื่อจริง ของคุณใบเฟิร์น ต้องถามทางสำนักข่าวว่าเขาเขียนแบบนี้เพราะอะไร แต่ถ้าคุณใบเฟิร์นจะฟ้องตน ก็เป็นสิทธิ์ของเขา ตนไม่ได้ห้ามอะไร
ด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า พอตนทราบเรื่องแล้ว ก็โทรหาทนายรัชพลเลย ว่าจะพาคุณใบเฟิร์นไปพบให้ ส่วนเรื่องที่ใบเฟิร์นเขากลัวว่าจะเสียหาย เพราะเขาเจอเหตุการณ์มากับตัวว่า แม่ของเพื่อนเขาเห็นโพสต์ของทนายรัชพล แม่ของเพื่อนยังเข้าใจผิดว่าใบเฟิร์นไปโกงเงินเขาเลย ทำให้ใบเฟิร์นคิดว่า คนอื่นก็น่าจะเข้าใจผิดได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตนฝากบอกถึง คุณลุง คุณพ่อ ที่เล่นโซเชียลมีเดีย ว่าอย่าเชื่อใครง่าย ๆ หากเขามาชวนลงทุน ให้โอนเงินอะไร ให้นัดมาเจอกันตัวต่อตัวเลย อันนั้นคือปลอดภัยที่สุดแล้ว เพราะสมัยนี้โซเชียลมีเดียมันหลอกได้หมด คลิปที่เห็นมันยังสามารถไปดาวน์โหลดของใครมาส่งให้เราก็ได้
สำหรับ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เผยว่า การหลอกลวงแบบนี้คือ Romance Scam หลอกให้รักก่อน จากนั้นก็ไปร่วมลงทุน แต่ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุไม่ใช่คุณใบเฟิร์นแน่นอน เพราะเราได้ไล่เรียงจากระบบคอมพิวเตอร์แล้ว เรามีเทคโนโลยีในการตรวจสอบ จะบ่งบอกตัวบุคคลได้ ยกเว้นว่าจะเป็นพวกอวตาร จดทะเบียนเพจปลอม เอาภาพคนอื่นมาใช้
เบื้องต้น ตอนนี้ เราส่งทีมงานตำรวจไซเบอร์เราไปตรวจสอบแล้ว ให้ผู้เสียหายสบายใจได้เลย ไม่ต้องกังวล เงินที่โอน บัญชีที่โอนไปทั้งหมด ในโลกไซเบอร์ จะสามารถตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจไซเบอร์ พิสูจน์โดยไม่ได้ดูจากหน้าตาของเพจ เราดูจาก IP Address และการจดทะเบียนทั้งหมด URL หรือสถานที่ที่ใช้จดทะเบียน จะปรากฏตัวตนที่แท้จริงได้ และเราก็จะออกหมายจับ หลังจากระบุตัวตนได้
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35