สลด ! เหตุไฟไหม้ผับชลบุรี นักท่องเที่ยวแห่หนีตายชุลมุน สุดท้ายเป็นโศกนาฏกรรม ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เปิดวินาทีเกิดเหตุ กับ อาสากู้ภัย-ดีเจ-นักเที่ยว ผู้รอดชีวิต
วันที่ 5 ส.ค. 2565 พงษ์พัฒน์ ผันแปล อาสากู้ภัย สว่างโรจนฯ จุดสัตหีบ และทีมอาสากู้ภัยอีก 2 คน เผยว่า พวกตนไปถึงที่เกิดเหตุช่วยประมาณ 1.20 น. เมื่อไปถึง สิ่งที่เห็นคือคนวิ่งออกมาชุลมุนไปหมดบริเวณด้านหน้าร้าน และได้เข้าไปสนันสนุนการช่วยเหลือดูที่เกิดเหตุ ประเมินผู้บาดเจ็บ ปฐมพยาบาล และคอยลำเลียงนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งผู้บาดเจ็บส่วนมาก มีอาการแผลพุพอง หนังถลอก บางคนมีเลือดเต็มตัว ผมไหม้ บางคนก็ดำเลยเพราะถูกไฟครอก แล้วก็วิ่งหนีออกมา ซึ่งบางคนก็จะวิ่งหนีออกมาโดยการใช้น้ำฉีดตามร่างกาย บางคนก็จะนอนคลุกกับดิน
พงษ์พัฒน์ ผันแปล เผย ส่วนตัวรู้สึกว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้หนักที่สุดแล้วนับตั้งแต่เกิดเหตุสึนามิ ด้านอุปสรรคในการดำเนินการ ก็มีส่วนของญาตหรือเพื่อน ๆ ผู้ประสบเหตุ ที่มาคอยกดดันการทำงานของพวกตน ซึ่งตนก็เข้าใจว่าเป็นห่วงและวิตกกังวล แต่บางครั้งการช่วยเหลือก็ต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอน
ส่วนอุปสรรคในการเก็บกู้ด้านในตัวผับ คือ กลุ่มควัน ที่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปตรง ๆ ได้ กับตัวอาคาร ที่สามารถทรุดถล่มลงมาได้ตลอดเวลา ซึ่งก่อนหน้านั้นจะมีนักดับเพลิงชุดปฏิบัติการในตัวอาคารเข้าไปตรวจสอบให้ก่อน หลังจากนั้นทีมของตนก็จะส่งชุดตรวจสอบเพื่อเข้าไปยืนยันผู้เสียชีวิตข้างใน เพื่อยืนยันให้ชัดเจนว่ามีกี่รายที่เสียชีวิต และอยู่ตรงจุดไหนบ้าง
โยธิน โชคบุญชู กล่าวว่า สำหรับผู้บาดเจ็บ ตนก็ได้ทำการสอบถามอาการบาดเจ็บ สอบถามชื่อ เพื่อที่จะดึงสติ เนื่องจากบางคนเหมือนจะหมดสติ เจ็บปวดจากแผลไฟไหม้ ทั้งนี้ ตนได้สอบถามจากเพื่อนที่เข้าไปเที่ยวแต่รอดออกมาได้ เขาเล่าว่า น้องสาวเขาเห็นกลุ่มควัน เลยพาดึงกันออกมา แต่เพลิงลุกไหม้เร็วมาก ทำให้มีการถีบกระจกกันออกมา ชุลมุนวุ่นวายมาก
ทั้งยังเสริมว่า ตัวโครงสร้างอาคารเป็นลักษณะโครงสร้างเหล็ก และเสริมด้วยพวกโฟม ซึ่งตัวนี้ก็หยดลงมาเรื่อย ๆ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบข้างในได้ ทำได้แค่ตรวจสอบบริเวณรอบ ๆ ร้าน ว่ามีผู้บาดเจ็บหลงเหลืออยู่หรือไม่ มีจำนวนเท่าไร
ธเนศ สุวรรณน้อย อาสากู้ภัย ให้ข้อมูลว่า ตนไม่เห็นป้ายหนีไฟ เพราะตอนเข้าไปมันไหม้หมดแล้ว จึงไม่เห็นอะไรเลย ในคืนเกิดเหตุขณะที่เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ก็มีน้องที่ตนรู้จักอยู่ได้โพสต์ถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ ณ ผับแห่งนี้ทางเฟซบุ๊ก จากนั้นเขาก็เดินทางมาที่เกิดเหตุ เพื่อนำรูปมาถามตนว่า มีน้องคนนี้อยู่ในที่เกิดเหตุหรือไม่ มีคนชื่อนี้หรือลักษณะแบบนี้อยู่ในที่เกิดเหตุบ้างหรือไม่
ในมุมผู้ประสบเหตุ สิทธิชัย ช่างทอง ดีเจของร้านเมาท์เทน บี และ ณัฏฐนิช พิกุลแก้ว ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้ข้อมูลว่า เกิดประกายไฟตรงบริเวณลำโพงที่แขวนอยู่ด้านซ้ายของเวที จากนั้นได้มีคนตะโกนว่า “ไฟไหม้” ทุกคนจึงวิ่งหนีออกมาจากร้าน และจากนั้นไม่นานก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น ตนจึงวิ่งหนีตามไป ซึ่งเมื่อวิ่งออกมาได้ประมาณ 100 เมตร มองกลับไปก็เห็นไฟลุกอยู่ที่บริเวณหลังคาด้านหลังร้าน (บริเวณโซนเวที) ต่อมา ไฟโหมแรงขึ้นอีก
ด้านดีเจร้าน เผยเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เคยได้กลิ่นแปลก ๆ เหมือนกลิ่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใช้งานจนเกิดความร้อน แต่กลิ่นเหล่านี้ก็จะปะปนกับเครื่องทําควัน (Smoke) ในกรณีที่ให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้ามาในร้าน ตนไม่ทราบ เพราะ เมื่อตนอยู่บนบูธดีเจก็จะมองไม่เห็นว่าใครเป็นใคร อายุเท่าไหร่ เนื่องจากแสงไฟร้านแยงตาตลอดเวลา
ณัฏฐนิช กล่าวเสริมว่า เพลิงลุกไหม้เร็วมากในเวลาไม่ถึง 10 วินาที อากาศเหม็นไปด้วยกลิ่นของโฟมที่ถูกไฟไหม้ ตนก็วิ่งไปจนถึงประตูทางออก แต่ประตูเปิดไม่ออก จนมีคนคนนึงทุบกระจกจนเลือดอาบมือ ทำให้หนีออกมาได้ และยืนยันว่า ประตูทั้ง 2 ชั้นของร้านเปิดไม่ออกเลยสักบาน และหลังจากออกมาจากร้านแล้ว ก็เกิดการระเบิดขึ้นอีกหลายครั้ง โดยครั้งสุดท้ายเป็นการระเบิดใหญ่ที่สุด เกิดขึ้นบริเวณหน้าประตูทางออก
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35