logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

แม่ค้าทุเรียน พา 6 ชีวิตหนีตาย มาขอความช่วยเหลือ เพจสายไหมต้องรอด

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : แม่ค้าทุเรียนหอบครอบครัวรวม 6 ชีวิตขอความช่วยเหลือเพจสายไหมต้องรอด ไกล่เกลี่ยเจ้าหนีเมืองปราจีน ดอกโหดร้อยละ 150 ต่อเดือน ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,ศรีสุภางค์ ธรรมาวุธ,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์

325 ครั้ง
|
02 ส.ค. 2565
แม่ค้าทุเรียนหอบครอบครัวรวม 6 ชีวิตขอความช่วยเหลือเพจสายไหมต้องรอด ไกล่เกลี่ยเจ้าหนีเมืองปราจีน ดอกโหดร้อยละ 150 ต่อเดือน
 
เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (1 ส.ค.) ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด สายไหม 38 น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี แม่ค้าทุเรียนในจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมครอบครัวรวม 6 ชีวิต เดินทางเข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ขอความช่วยเหลือไกล่เกลี่ยเจ้าหนี้หลังขอกู้เงิน 1 แสนมาซื้อทุเรียนขายสุดท้ายล้มไม่เป็นท่า เจ้าหนีตามทวงเงินทั้ง ๆ ที่จ่ายดอกทบต้นไปแล้วกว่า 2 แสนสองหมื่นบาท โอนค่าดอกครั้งสุดท้าย 15 บาทจนหมดบัญชี
 
น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี แม่ค้าทุเรียน เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนและครอบครับมีอาชีพขายผลไม้ตามฤดูกาล โดยก่อนหน้านี้ช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นหน้าทุเรียนออกผลจึงหาแหล่งเงินกู้เพื่อจะซื้อทุเรียนมาขาย และเปิดเจอโฆษณาปล่อยเงินกู้ในเฟซบุ๊ก ซึ่งคนที่ปล่อยเงินกู้รู้จักกับเพื่อนตนจึงตัดสินใจกู้เงินโดยหากกู้ 10,000 บาท จะต้องเสียดอก 500 บาท ต่อวัน ตอนนั้นตนคิดว่าสามารถมาจ่ายได้ถ้าทุเรียน ขายดี รอบแรกกู้มา 5 หมื่นบาท แต่มาเจอทุเรียนอ่อนต้องขายแบบขาดทุน จนต้องกู้รอบ 2 รวมแล้วกว่า 1 แสนบาท ก็มาเจอทุเรียนเปียกฝนขายไม่ได้จนล้มไม่เป็นท่า
 
ซึ่งที่ผ่านมาตนส่งโอนเงินให้เจ้าหนี้เกือบทุกวันซึ่งเป็นดอกเบี้ยตามที่ตกลงไว้ วันละ 500 บาท แต่ถ้าวันไหนพอขายของได้ก็จะโอนให้ตามกำลัง 1,000-4,000 บาทต่อวัน ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาตนจ่ายไปแล้วกว่า 222,015 บาท ต่อมาประสบปัญหาไม่มีทุนไปซื้อของมาขาย ประกอบกับครอบครัว  ปู่ ย่า แม่ แฟน ลูก 1 คน หลาน 2 คน รวมตนเอง ติดโควิด-19 ตนส่งต่อไม่ได้ จึงขอเจรจาจะขอปิดยอดที่เหลือ
 
แต่เจ้าหน้าหนี้กลับบอกว่า ถ้าจะปิดยอดจะต้องนำเงินจำนวนสองแสนบาทมาปิดยอด ส่วนยอดเงิน 222,015 บาทที่จ่ายก่อนหน้านั้นเป็นดอกเบี้ยทั้งหมด จนต้องเอารถยนต์ไปจำนำเอาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยซึ่งจำนำไว้ 3 หมื่นบาท แต่กลับได้เงินมาเพียง 14,000 บาทเท่านั้น ต่อมาทราบว่าเจ้าของเงินซึ่งตนทราบว่าเป็นตำรวจได้มาจับคนรับจำนำรถไปซึ่งไม่ทราบว่าข้อหาอะไร และได้มีการยึดรถไปซึ่งเขาก็รู้ว่าเป็นรถตนที่จำนำไว้หากเราอยากได้คืนต้องนำเงิน 50,000 บาท ไปไถ่ โดยเขาอ้างว่าเงินที่จำนำไว้ 3 หมื่น รวมดอกเบี้ยและเงินที่โอนไปให้คนรับจำนำรถอีก 4,000 บาท ตนรู้สึก งง ว่าทำไมต้องจ่ายถึง 5 หมื่นทั้ง ๆ ที่ตอนจำนำได้เงินเพียง 14,000 บาท ด้วยซ้ำและมันไม่ยุติธรรม ตอนนี้ก็ยังไม่มีเงินไปเอารถคืนมา
 
ที่มาวันนี้อยากให้ทางเพจช่วยไกล่เกลี่ยเจ้าหน้าขอผ่านจ่ายเงินที่เหลือให้น้อยลงกว่าเดิมตามที่ตนพอมีกำลัง และไม่ได้คิดจะไม่จ่าย ไม่ได้หนี แต่ขอให้เห็นใจบ้าง ตนต้องหาเงินเลี้ยงลูกเลี้ยงคนในบ้านตอนนี้ไม่มีแม้กระทั่งเงินซื้อนมให้ลูก ที่มานี่ก็ขอยืมเงินเติมน้ำมันมา
 
ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า สำหรับเคสนี้คงจะต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะมีทางแก้ไขอย่างไรบ้าง หรืออาจจะต้องขอความช่วยเหลือทางพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ทางผู้ช่วยผบ.ตร. หรือ ผู้การจังหวัดปราจีนบุรี ว่าจะพอพูดคุยได้หรือไม่ เพราะเจ้าของเงินเป็นคนมีสี ดอกเบี้ยก็เกินไปมาก เงินต้น 1 แสน ในระยะ 2 เดือน ลูกหนี้จ่ายเงินไปแล้ว 2 แสน 2 หมื่นบาท มันเกินดอกเบี้ยร้อนละร้อยไปมาก แม้นก้อนสุดท้าย 15 บาทก็ยังเอา ที่ผ่านมาตนเคยเห็นแต่ดอกร้อยละ 20 ซึ่งก็ถือว่าหนักจริง ๆ เงินต้นก็ควรจะจบได้แล้ว ต้องมีมนุษยธรรมด้วยหากเจ้าของเงินเป็นตำรวจ ในส่วนครอบครัวที่มาขอความช่วยเหลือเบื้องต้นจะหาที่พักให้ก่อนเพราะมากันหลายชีวิตทั้งแม่ผู้เสียหาย หลาน รวมถึงลูกเล็ก หรืออาจจะต้องเข้าไปร้องขอให้ทางกระทรวงยุติธรรมดูแลเรื่องการคุ้มครองพยานต่อไปด้วย
 
ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/3IElqbST07o

ข่าวที่เกี่ยวข้อง