แม่ค้าสาว สุดท้อ ! กู้เงิน 1 แสน ดอกเบี้ยงอกกระจาย เจ้าหนี้ขอ 2 แสนปิดเงินต้น : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

แม่ค้าทุเรียน หอบครอบครัวหนี เจ้าหนี้ หลังไปกู้เงินมา 1 แสนบาท แต่เจอดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 150 ผ่อนชำระไปแล้วกว่า 2 แสน แต่ยังไม่จบ เจ้าหนี้ขออีก 2 แสน เพื่อปิดหนี้ 

 

            วันที่ 2 ก.ค. 65 อิม (นามสมมติ) ผู้เสียหายจากเจ้าหนี้เงินกู้ดอกโหด เล่าว่า ตนกู้เงินมา 5 หมื่นบาท ต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 2.5 พันบาท/วัน โดยตนกู้มาเพื่อทำทุนขายทุเรียน แต่ได้ทุเรียนไม่ดีมา ทำให้ขายไม่ออก ขาดทุน จึงต้องกู้อีกเรื่อย ๆ จนครบ 1 แสนบาท ในระยะเวลา 2 เดือน ตนผ่อนชำระคืนเจ้าหนี้ไป 222,015 บาท จึงไปขอคุยกับเจ้าหนี้ แต่เจ้าหนี้บอกว่าเงินที่จ่ายมาทั้งหมด เป็นแค่ดอกเบี้ย หากอยากจะจบกับเขา ให้เอาเงินไปให้เขาปิดเงินต้นที่ 2 แสนบาท และก่อนหน้านี้ ตนก็เป็นโควิด19 ไม่ได้ขายของ ทำให้ไม่มีเงินส่งเขาด้วย 

 

 

            ทั้งนี้ เขาเคยข่มขู่ตนว่าเงินที่ตนยืมเป็นเงินของตำรวจ ที่จ.ปราจีนบุรี เราต้องส่งให้ตรง อีกทั้งเขายังเคยขู่ว่าจะส่งแฟนของเขา ไปหาแม่ของตน ให้แม่ของตนมาช่วยรับผิดชอบหนี้ และยังขู่ว่าจะไปหาญาติพี่น้องของตนทุกคน ด้วยความกลัวจึงหอบครอบครัวหนี้ มาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด  

 

 

            ด้าน เอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผยว่า เคสนี้ดอกเบี้ยแพงมาก ที่ตนเคยเจอดอกเบี้ย ร้อยละ 10-20 ก็ว่าเยอะแล้ว แถมยอดดอกเบี้ยที่เขาจ่ายไป 2 แสน มันยังไม่ครบด้วย เพราะถ้าหากตามระยะเวลา 2 เดือน เขาต้องจ่ายไปแล้วทั้งหมด 3 แสน ทำให้เขาถูกทวงหนี้ ตัวเขาเองก็กลัว มีอะไรจึงให้เขาไปหมด รถก็นำไปจำนอง จนลูกเต้าไม่มีจะกินแล้ว 

 

 

            ล่าสุด พอตนทราบว่าเรื่องนี้มีเอี่ยวกับตำรวจ ตนจึงติดต่อไปหา พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ซึ่งท่านก็ช่วยประสานสั่งการเดี๋ยวนั้น โดยประสานไปยัง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี เบื้องต้น ท่านจะขอสอบถามเรื่องราวก่อน และจะเรียกมาไกล่เกลี่ยให้ ทั้งนี้ตนอยากให้ปราบการกู้เงินนอกระบบมาก ๆ เพราะทุกวันนี้มีเคสแบบนี้ออกมาเยอะมาก ร้องเรียนกับทางเพจสายไหมต้องรอด 40-50 เคส 

 

 

            ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ความเห็นว่า การเรียกดอกเบี้ยเกินที่กฏหมายกำหนด มันผิดกฎหมายอาญาแน่นอน และถ้าหากสืบทราบว่าไม่ใช่สถาบันการเงิน ก็ผิดกฎหมายอีกกระทง อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำว่าตัวผู้เสียหาย ไม่ต้องไปจ่ายหนี้ให้เขาแล้ว บอกเขาไปเลยว่าตนเป็นคนสั่งและถ้าหากกลัวว่าจะถูกข่มขู่ คุกคาม ก็ไปแจ้งความได้เลย จะให้ตำรวจไปจัดการคคุ้มครองพยานให้ อีกทั้งตนสั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด รอรับเคสของตัวผู้เสียหายแล้ว และตนจะเล่นงานพวกนี้ให้หนัก จะประสานให้ทาง DSI เป็นคนจัดการ และดำเนินการยึดทรัพย์ 

 

"น้องไม่ต้องจ่ายหนี้อีก 2 แสนกว่าบาทวันนี้ และห้ามจ่ายด้วย และฝากบอกเจ้าหนี้ ว่าผมเป็นคนบอกให้เขาไม่ต้องจ่าย" ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต กล่าว