แม่ค้าสาวสุดรันทด หอบครอบครัว 6 ชีวิตหนีเจ้าหนี้ดอกโหด กู้ 1 แสน คืน 2 แสนไม่จบ!

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ หลังแม่ค้าทุเรียน กู้เงิน 1 แสนบาท เจอดอกโหด จ่าย 100 ละ 150 เพื่อมาหมุนทำทุนขายทุเรียน พยายามผ่อนชำระไปกว่า 2 แสนบาท แต่ยังไม่จบ ถูกทวงหนี้ ให้หาเงินมาจ่ายอีก 2 แสนบาท เพื่อปิดเงินต้น จึงขอให้สายไหมต้องรอดช่วย  

 

 

            วันที่ 2 ก.ค. 65 อิม (นามสมมติ) ผู้เสียหายจากเจ้าหนี้เงินกู้ดอกโหด ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ในช่วง "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนกู้เงินจากเขามา 1 แสนบาท ก้อนแรกไปเอามา 5 หมื่นบาท ต้องจ่ายดอกเบี้ย วันละ 2.5 พันบาท/วัน ตกวันละ 5 เปอร์เซนต์ ซึ่งกู้มาเพื่อเอาไปทำลงทุนทำทุเรียนขาย แต่ได้ทุเรียนอ่อนมา ขายไม่ออกเลยขาดทุน จึงไปขอกู้เพิ่มครั้งละ 1-2 หมื่นบาท จนยอดครบ 1 แสนบาท โดยระหว่างทางตนก็จ่ายดอกเบี้ยตลอด ภายในระยะเวลา 2 เดือน จนไม่ไหวจึงไปขอไกล่เกลี่ย เป็นผ่อน 15 วัน 3 หมื่นบาท แต่พอถึงวันนัดตนไม่มีเงินมาให้เขา เนื่องจากก่อนหน้านั้นครอบครัวติดโควิด19 ไม่ได้ขายของ ไม่มีรายได้ นอกจากนี้ น้องสะใภ้ของเจ้าหนี้ได้กล่าวอ้างว่า เงินที่ตนยืมเป็นเงินของตำรวจ ที่จ.ปราจีนบุรี ขู่ให้เราต้องส่งให้ตรง ส่งตามกำหนด  

 

            ทั้งนี้ เงินที่จ่ายไปทั้งหมด 222,015 บาท ขนาดเงิน 15 บาท ที่ตนเหลือติดเป็นเศษในบัญชีไว้ เขาก็เอา จนตอนนี้ไม่เหลือเงินสักบาท ตอนแรกตนเข้าใจว่าจ่ายเยอะมันจะได้ผ่อนต้นผ่อนดอกไป จนมานับรวมยอดว่าได้ 2 แสนกว่าบาทแล้ว จึงคุยกับเจ้าหนี้ว่าตกลงมันยังไง แต่เจ้าหนี้บอกว่าที่จ่ายมาคือดอกเบี้ยทั้งหมด โดยถ้าจะจบกับเขาต้องจ่ายเพิ่มอีก 2 แสนบาทจากที่จ่ายดอกไป และได้เจรจากับเขาล่าสุดเมื่อวาน(1 ก.ค. 65) เขาลดให้จาก 2 แสน เหลือ 1.2 แสนบาท 

 

 

            หลังจากนั้นเขาก็ติดตามทวงหนี้ โดยตอนแรกเขาจะส่งแฟนเขาไปหาแม่ของตน ให้แม่มาช่วยรับผิดชอบ และยังขู่ว่าจะไปหาญาติพี่น้อง ตนจึงจำใจต้องหนีมาขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด โดยตนพาครอบครัวหนีมาทั้งหมด 6 คน มีแม่ ลูก 2 คน หลาน 2 คน รวมตนด้วยเป็น 6 คน ที่หอบกันมาหมด เพราะกลัวว่าเขาจะเข้าไปทำร้ายแม่ และกลัวว่าเขาจะมายัดคดียาเสพติด เพราะเพื่อนของตนได้มาเตือนว่าตำรวจคนดังกล่าว เขาเป็นสืบสวนเกี่ยวกับยาเสพติด และเพื่อนยังบอกอีกว่า คุยกับทางเขา เขาบอกว่า เดี๋ยวตนจะอยู่ไม่ได้ ต้องโดนสักวันหนึ่ง

 

            ด้าน เอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผยว่า ตอนแรกหลังจากที่รับเรื่องเคสนี้มา ก็ขอดูประวัติการโอนเงินจ่ายหนี้ก่อน เพราะว่ามันเยอะมากจนไม่น่าเชื่อ เพราะจริง ๆ แล้วที่ตนเคยเจอ ดอกเบี้ย 100 ละ 10-20 ก็ว่าเยอะแล้ว อันนี้เจอ ร้อยละ 150 ซึ่งมันเยอะมาก อีกทั้งจริง ๆ แล้วยอดดอกเบี้ยที่เขาจ่ายไปกว่า 2 แสน มันยังไม่พอด้วย เพราะถ้าหากจ่ายครบจริง ๆ ยอดดอกตอนนี้มันต้องถึง 3 แสนบาท ทำให้เขามีปัญหาถูกทวงหนี้ ตัวเขาเองก็กลัว มีอะไรก็จ่ายให้เขาไปหมด เอารถไปจำนอง จนลูกของเขาไม่มีจะกินแล้ว    

 

 

            ทั้งนี้ ตนถามว่าเคยคุยกับตำรวจเจ้าของเงินคนดังกล่าวไหม ด้านคุณอิม เขาบอกว่าเขาไม่เคยคุยตรง ๆ เคยคุยแต่กับเจ้าหนี้ โดยเจ้าหนี้บอกว่าอยู่กับพี่ตำรวจด้วย แล้วก็มีเสียงผู้ชายแทรกเข้ามาในสายว่า "มึงเอาเงินมาคืนกูเลยนะ ไม่งั้นเดี๋ยวมึงเจอดีแน่ หรือว่ามึงจะมาเจอกันที่โรงพัก" พอตนทราบข้อมูลเหล่านี้ ถามคุณอิมว่าจะไปแจ้งความที่โรงพักไหม ทางคุณอิมเขาก็กลัว ไม่กล้าไป ตนเลยตัดสินใจติดต่อไปหา พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ซึ่งท่านก็ช่วยประสานสั่งการเดี๋ยวนั้น โดยประสานไปยัง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี เบื้องต้น ท่านจะขอสอบถามเรื่องราวก่อน และจะเรียกมาไกล่เกลี่ยให้

 

            อย่างไรก็ตาม ตนอยากเรียนว่า ทุกวันนี้ ปัญหาหนี้นอกระบบมีเยอะมาก แจ้งเข้ามาที่เพจสายไหมต้องรอดวันหนึ่ง 40-50 ราย และมีพฤติกรรมคล้าย ๆ กันหมด เจ้าหนี้ข่มขู่คุกคาม เอาของไปปาบ้านบ้าง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออก ดอกเบี้ยร้อยละ 5-10 ต่อวันก็ยังมีอยู่ จึงอยากให้เร่งปราบพวกเหล่านี้       

 

 

            ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ความเห็นว่า จากข้อเท็จจริงที่ผู้เสียหายเล่าให้ฟัง การเรียกดอกเบี้ยเกินมันก็เป็นความผิดกฎหมายอาญา และการให้กู้เงินในลักษณะนี้ หากไม่ได้เป็นสถาบันการเงิน ก็ผิดกฎหมายอีก และขอแนะนำให้ตัวผู้เสียหายไม่ต้องจ่ายหนี้ที่เจ้าหนี้เรียกเพิ่มมาอีก 2 แสนบาท บอกเจ้าหนี้เลยว่าตนเป็นคนบอกไม่ให้จ่าย ให้เขาทำหนังสือมา และถ้าเขาทำหนังสือมา ให้เอามาให้ตน 

 

"น้องไม่ต้องจ่ายหนี้อีก 2 แสนกว่าบาทวันนี้ และห้ามจ่ายด้วย และฝากบอกเจ้าหนี้ ว่าผมเป็นคนบอกให้เขาไม่ต้องจ่าย" ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต กล่าว

 

 

            และตน จะประสาน DSI ในพื้นที่ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบเรื่องนี้ว่าใครเป็นคนทำ และจะให้เขาดำเนินการเรื่องการยึดทรัพย์ด้วย ส่วนเรื่องที่เขาเดือดร้อนเรื่องการถูก คุกคาม ข่มขู่ ให้ไปแจ้งความ และเดี๋ยวให้คุ้มครองพยานมาดำเนินการจัดการให้ อีกทั้งตนได้สั่งการให้ยุติธรรมประจำจังหวัดเขารอดำเนินการให้ตัวผู้เสียหายอยู่ เวลาจะไปดำเนินการไกล่เกลี่ย ก็เอายุติธรรมจังหวัด ติดตัวไปด้วย และลูกหนี้ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ถ้าหากเจอพฤติกรรมของเจ้าหนี้นอกรีต ก็ดำเนินการแจ้งความ หรือแจ้งกับทาง สำนักงานยุติธรรมประจำจังหวัดได้เลย

 

"คุณแค่งง แต่สิ่งที่เป็นไปตามข้อเท็จจริงเหล่านี้ ผมจะทำให้เขาอ้วกเลยคอยดู" ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต กล่าว