ดับแล้ว 2 ราย ! "สะพานกลับรถ" ถล่ม ย่านพระราม 2 จนท.เร่งตั้งกรรมการสอบ

494 ครั้ง

01 ส.ค. 2565

แชร์ข่าวไปที่

เหตุสะพานกลับรถถล่ม ย่านพระราม 2 มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร สั่งผู้เกี่ยวข้องหาสาเหตุ เผย สะพานดังกล่าวเคยเกิดเหตุ รถบรรทุกน้ำมันระเบิด ทำให้โครงสร้างสะพานชำรุดเสียหาย

จากเหตุการณ์ แผ่นปูนหนัก 5 ตัน บน"สะพานกลับรถ" ถล่มทับรถยนต์เสียหายรวม 3 คัน เหตุเกิดบริเวณ"สะพานกลับรถ" หน้าโรงพยาบาลวิภาราม กม.ที่ 34 ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่อยู่ระหว่างการปิด "ซ่อมบำรุง" พังถล่มลงมาทับรถยนต์ที่สัญจรอยู่บนถนนพระราม 2 ช่องทางด่วน ขาเข้ากรุงเทพฯ เมื่อช่วง 2 ทุ่มของเมื่อวานที่ผ่านมา (31 ก.ค.)

จุดที่เกิดเหตุเป็นบริเวณใต้สะพานกลับรถ "เกือกม้า" พบ รถเก๋ง ยี่ห้อ เชฟโรเลต ถูกแผ่นปูนความยาวกว่า 10 เมตร น้ำหนักราวๆ 5 ตัน หล่นลงมาทับไว้ทั้งคันจนรถขาดท่อน ทำให้คนนั่งข้างฝั่งซ้ายเสียชีวิตติดอยู่ภายใน ส่วนคนขับรถเก๋งได้รับบาดเจ็บ อีกทั้ง ยังมีรถกระบะ ด้านหน้ารถถูกแผ่นปูนทับไว้ โชคดีที่คนขับและผู้อาศัยมาในรถปลอดภัยทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังมีคนงานที่กำลังทำงานซ่อมแซมอยู่บน "สะพานกลับรถ" ซึ่งตกลงมาพร้อมกับแผ่นปูน ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 2 คน แต่เสียชีวิตแล้วในเวลาต่อมา 1 คน นอกจากนี้ ยังมีรถที่ได้รับความเสียหายอีก 1 คัน เป็นรถบรรทุกน้ำมันดีเซลที่ไปลงน้ำมันให้กับลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความสะเทือนขวัญให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก

หลังเกิดเหตุ นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และ ผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่มาติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับสั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งหาสาเหตุครั้งนี้

ก่อนทราบว่า "สะพานกลับรถ" แห่งนี้ เริ่มปิดทำการ"ซ่อมบำรุง"ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2565 โดยเหตุที่ต้องทำการปิด"ซ่อมบำรุง" เนื่องจาก"สะพานกลับรถ"แห่งนี้ มีอายุการใช้งานมานาน และเคยเกิดไฟไหม้ขึ้นบนสะพาน เนื่องจากรถบรรทุกน้ำมันระเบิด อีกทั้ง ยังมีปริมาณรถบรรทุกขนาดใหญ่ใช้"สะพานกลับรถ"เป็นจำนวนมาก ทำให้โครงสร้างส่วนบนชำรุดเสียหาย จนเหล็กเส้นโผล่

ล่าสุดวันนี้ (1 ส.ค.) ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่า ทางเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงได้มีการนำเชือกแดงมากั้นเอาไว้ เพื่อเป็นเขตอันตราย โดยแม่และญาติของ น้องคนงานที่ตกลงมาเสียชีวิต ได้เดินทางมานำข้าวของมาเซ่นไหว้ เพื่อเชิญดวงวิญญาณกลับไปบำเพ็ญกุศลที่โขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี บ้านเกิดของน้อง

โดยคุณแม่ พูดเพียงสั้นๆ ว่า ยังไม่มีอะไรจะให้คำตอบ เนื่องจากยังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องฟ้องร้อง ยังไม่ได้คิด เพราะ ต้องการให้งานศพของน้องเรียบร้อยก่อน

ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญของกรมทางหลวง จะเข้ามาตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุพร้อมกับจะมีการหารือกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป

หนุ่มขับกระบะ เล่าวินาที คานปูนสะพานกลับรถ ร่วงทับรถ ต่อหน้าต่อตา รอดมาได้เพราะปาฏิหาริย์ เผยเห็นคนงานขับรถเจาะปูนเจาะถนนบนสะพาน

นายสมพงษ์ โพธาราม คนขับรถกระบะที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และภาพยังคงติดตา โดยเมื่อวานนี้ ครอบครัวกลับมาจากขายของที่วัดจุฬามณี กำลังมุ่งหน้ากลับบ้านใน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งต้องใช้ถนนเส้นนี้ และพอเมื่อถึงที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า มีสะพานร่วงหล่นลงมาอย่างแรงต่อหน้าต่อตา และเห็นว่ามีถังแก๊สหล่นลงตามมาด้วย 2 ถัง จึงบอกให้ภรรยาและเด็ก ๆ อีก 3 คน รีบออกจากรถทันที

ซึ่งก่อนเกิดเหตุ นายสมพงษ์ เล่าว่า ได้เงยหน้าขึ้นไปมองบนสะพาน และสังเกตเห็นว่ามีคนงานยืนอยู่ ท่าทางเหมือนกำลังใช้รถเจาะปูนกระแทกแผ่นปูน ก่อนที่แผ่นปูนขนาดใหญ่ตกลงมาทับส่วนหน้าของรถ แต่ไม่เห็นร่างของคนงานตกลงมาจากสะพาน และเห็นเพียงรถเก๋งที่ถูกทับ คนนั่งเบาะขวาเสียชีวิต

ด้านกรมทางหลวง ออกมายอมรับความผิดพลาด ชี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์นี้ ในนามกรมทางหลวง ต้องกราบขออภัยและขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ยืนยัน กรมทางหลวงรับผิดชอบเรื่องนี้เต็มที่ ทั้งค่ารักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต รวมถึงดูแลเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของกรมทางหลวง ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และ จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยร่วมกับสภาวิศวกร และวิศวกรรมสถานฯ ให้รายงานผลใน 14 วัน หากพบว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด

นายสราวุธ ยืนยันว่า กรมทางหลวงรับผิดชอบเต็มที่ เบื้องต้น ผอ.ศูนย์สะพานปทุมธานีฯ จะประสานครอบครัวผู้เสียหาย ยืนยันว่าค่ารักษาพยาบาล กรมทางหลวงจะจ่ายให้ และพิธีฌาปนกิจกรมทางหลวงรับเป็นเจ้าภาพตลอดงาน ส่วนเจ้าหน้าที่จะมีเงินกองทุนสวัสดิการกรมทางหลวง โดยเสียชีวิตจะช่วยเหลือ 30,000 บาท บาดเจ็บ 15,000-30,000 บาท และมีเงินกองทุนที่บริจาคโดยเจ้าหน้าที่เอง เบื้องต้น ระงับการก่อสร้างซ่อมแซมสะพานไว้ก่อน และ จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ถือเป็นบทเรียนสำคัญของกรมทางหลวง

ติดตาม รายการ "ข่าวเย็นประเด็นร้อน" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35