logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ศึกเพื่อนบ้าน ! แจ้งความจับเมียตรวจ ถือท่อนเหล็กทุบทำร้าย ปมปล่อยวัววิ่งชนรถ

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : สาววัย 26 ปี แจ้งความเอาผิดเมียตำรวจ ควงท่อนเหล็กบุกทำร้ายร่างกาย สาเหตุมาจากอีกฝ่ายปล่อยวัววิ่งชนรถ จนบานปลายเป็นศึกเพื่อนบ้าน ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,ศรีสุภางค์ ธรรมาวุธ,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์

437 ครั้ง
|
29 ก.ค. 2565
สาววัย 26 ปี แจ้งความเอาผิดเมียตำรวจ ควงท่อนเหล็กบุกทำร้ายร่างกาย สาเหตุมาจากอีกฝ่ายปล่อยวัววิ่งชนรถ จนบานปลายเป็นศึกเพื่อนบ้าน
 
ภาพเหตุการณ์ความรุนแรง ขณะที่หญิงวัย 47 ปี ถือแท่งเหล็ก เข้ามาก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางสาวรจนา อายุ 26 ปี เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา บริเวณแฟลตตำรวจ สภ.ศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
 
นางสาวรจนา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ออกรถยนต์ใหม่มาประมาณ 2 เดือน โดยนำรถมาจอดที่แฟลตตำรวจ กระทั่งผู้ก่อเหตุพร้อมสามีที่เป็นตำรวจ เรียกแฟนของตนเองไปคุย บอกว่า วัวของเขาวิ่งมาชนรถ และอ้อนวอนไม่ให้เอาเรื่องนี้มาบอกตนเองโดยจะรับผิดชอบทุกอย่าง
 
จากนั้นแฟนหนุ่มของตนเอง ได้นำรถเข้าศูนย์แจ้งว่า ขับรถเบียดเสาก่อนขอเงินค่าเสียเวลากับค่าน้ำมัน ทำให้สามีผู้ก่อเหตุไม่พอใจ ทั้งที่บอกจะรับผิดชอบซึ่งตนเองเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง และถามแฟนหนุ่มว่าขับรถเบียดเสาจริงหรือไม่ จนมาทราบเรื่องภายหลังว่า วัวของคู่กรณีเบียดชน
 
ส่วนตัวตอนนั้นไม่ได้อยากจะเอาเรื่องอะไร เพราะเป็นคนรู้จักกัน แต่แค่อยากได้ยินคำขอโทษเท่านั้น กระทั่งแฟนโทรศัพท์ไปหาสามีคู่กรณี กลับถูกท้าทายให้ไปฟ้องเอา จนวันเกิดเหตุ ระหว่างทำความสะอาดหน้าห้องพัก มีน้ำกระเด็นไปโดนรำที่ให้วัวกิน ทำให้มีปากเสียงกัน และเกิดเหตุตามคลิป
 
เบื้องต้นแจ้งความตำรวจ สภ.ศีขรภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว โดยตนเองถูกท่อนเหล็กทุบตีที่บริเวณหน้าท้อง และตามแขน 2 ข้าง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเรียกผู้ก่อเหตุมาทำการสอบสวนต่อไป
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/7j4bonptHNA 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง