กล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ที่รถกระบะขนถังแก๊ส ซึ่งกำลังถูกขับไล่ล่าโดยรถกระบะตู้ทึบ ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีหลายมุม แสดงให้เห็นถึงการไล่ล่าอย่างดุเดือด จนทำให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาถึงกับงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายสุริยา เจ้าของร้าน “D แก๊สด่วน” นำหลักฐานกล้องวงจรปิด เข้าขอความช่วยเหลือ กับนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา หลังถูกคนขับรถกระบะโตโยต้า สีบรอนด์ ตู้ทึบ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งเป็นรถรับจ้างติดตั้งและล้างแอร์ ขับรถปาดหน้าและพยายามจะไล่ชน มาตลอดทางจนถึงหน้าบ้านในซอยประเสริฐอิสลาม และมีชายฉกรรจ์ 2 คนลงมาจากรถ เพื่อจะมาทำร้าย โดยมีคนขับนั่งรออยู่ในรถคันดังกล่าว
หลังเกิดเหตุนายสุริยา ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ปากเกร็ด และได้โทรศัพท์ไปสอบถามความคืบหน้ากับพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นเจ้าของคดี แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่า “ง่วงนอน เอาผิดคู่กรณีไม่ได้ ลูกคุณเจ็บก็รักษาไป รถพังก็ซ่อมไป”
พอตนจะส่งคลิปวงจรปิดให้ดูกับถูกปฎิเสธว่าไม่ดู ทำให้รู้สึกว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงอยากให้ทนายโป้งช่วยติดตามความคืบหน้าเรื่องคดี โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา
นายสุริยา เล่าว่า วันเกิดเหตุตนขับรถมากับลูกสาววัย 4 ขวบ ซึ่งนั่งมาด้วย กำลังจะไปอัดแก๊สผ่านแยกสหกรณ์ 3 แต่มีรถกะบะตู้ทึบขับรถมาปาดหน้า ตนเลยปาดหน้าคืน ซึ่งคู่กรณีไม่พอใจ จึงขับรถตามมาชนรถในอุโมงค์ห้าแยกปากเกร็ด จากนั้นเขาเปิดกระจกรถด้านข้าง ตนเลยบอกว่า ให้ตามมาที่บ้านแล้วกัน
เขาก็ไล่บี้ขับชนตนมาตลอดทาง พอมาถึงใกล้หน้าบ้านของตนเอง รถเกิดเสียหลักไปชนรถฟอร์ด 4 ประตูจนพังเสียหาย
โดยตนต้องขับหนีตายทั้งที่รถพังยับ แต่คู่กรณียังไม่หยุดขับตามมาจนถึงหน้าบ้าน ก่อนที่จะเปิดประตูรถลงมา 2 คน และวิ่งจะมาทำร้าย ตนจึงรีบบอกลูกชายในบ้านว่า ให้เอาปืนมา ลูกชายก็วิ่งไปเอาปืนมาให้ พอเขาเห็นปืนจึงรีบหนีขึ้นรถขับหนีไป
หลังเกิดเหตุตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด และขอลงประจำวันและขอดูกล้องวงจรปิด และได้โทรศัพท์ไปหาคู่กรณี โดยเขาบอกว่า ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอเลขบัญชีเพื่อจะโอนเงินมาให้ ตนเลยบอกไม่เอา ขอให้มาคุยกันที่โรงพักจะได้ตกลงกันให้รู้เรื่อง
พอถึงวันนัดหมายคือ วันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่กลับไม่ได้คุยกัน เพราะทางคู่กรณีเข้ามาแจ้งความกลับก่อนหน้าที่ตนจะเข้าไปที่โรงพัก
หลังจากนั้น วันที่ 20 ก.ค. ตนได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี กลับได้รับคำตอบว่า เอาผิดไม่ได้หรอก รถมันวิ่งมาตามปกติของมัน ส่วนกรณีที่โดนไล่ทำร้าย ทางตำรวจบอกว่า ตนคิดไปเอง เพราะตนก็ชนรถคู่กรณี ส่วนลูกคุณเจ็บก็ไปรักษา พร้อมกับบอกอีกว่า ตนคุยเรื่องนี้จบหรือยัง ผมง่วงนอน จะนอนแล้ว
ด้านทนายโป้ง บอกว่า จากที่ดูพยานหลักฐานและรับฟังข้อเท็จจริงกับผู้ร้องเรียน ตนคิดว่า เรื่องนี้เป็นการสื่อสารคาดเคลื่อนระหว่าง พนักงานสอบสวนกับตัวผู้เสียหาย ทางด้านผู้เสียหายเข้าใจว่า ไปลงบันทึกประจำวันเพื่อจะขอดูกล้องวงจรปิด คือการแจ้งความแล้ว แต่กลายเป็นว่าคู่กรณีมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เสียหายอีก แต่ทางพนักงานสอบสวนก็รับทราบแล้วว่าคดีนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของ สภ.ปากเกร็ด ซึ่งทางผู้เสียหายก็ไม่เข้าใจว่าพนักงานสอบสวนบอกว่า ง่วงนอน แทนที่จะบอกสิทธิ์ของผู้เสียหายว่าจะเป็นผู้เสียหายหรือคู่กรณี
ส่วนตนก็จะพาผู้เสียหายไปติดตามเรื่องนี้ที่ สภ.ปากเกร็ด และไปพบพนักงานสอบสวนว่า ใครเป็นผู้กระทำความผิดและใครเป็นผู้เสียหาย ซึ่งทางผู้เสียหายนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมาให้ตนตรวจสอบ
สุดท้ายอยากฝากเตือนสติผู้ขับขี่บนถนนให้มีน้ำใจบนท้องถนนใจเย็น ๆ มีสติ ให้อภัย ให้ทาง เคารพกฎจราจรแล้วจะทำให้ไม่เกิดอุบัติเหตุหรือเรื่องเข้าใจผิดร้ายแรงนำไปสู่การทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35