เหมือนจบ กลับไม่จบ ! สะใภ้วางยาพ่อแม่ผัว หวังฮุบสมบัติ ตำรวจจับได้จริง แต่ปล่อยตัวแล้ว ! ครอบครัวท้อ ! ตำรวจหลอก บอกดำเนินการแล้ว พอไปสืบเองกลับเจอ ดำเนินการทิพย์ ต้องดำเนิการเอง ! ซ้ำ ! หลอกให้เซ็นหนังสือยินยอม ไม่ติดใจเอาความตำรวจ !
วันที่ 28 ก.ค. 2565 ในรายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ช่วง "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ
พงษ์ศา เทพพิชัย พี่ชายคนโต เปิดเผยว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้จับกุม น.ส.เปมิกา เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2565 และ นางลักศมีกานต์ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งท้ายที่สุด ทั้งสองก็ได้รับการประกันตัว ตนติดใจตรงที่พนักงานสอบสวนไม่ได้ทบทวนเอกสารการให้ปากคำหรือสำนวนคดีต่าง ๆ ของตนเลยหรือ อีกทั้งยังรู้สึกว่าการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ไม่มีความรัดกุมซึ่งสะท้อนจากผลงานที่ออกมา โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับตนว่าทำการส่งเอกสารต่าง ๆ ไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ตนรู้สึกว่านานผิดปกติจึงได้สอบถามกับหน่วยงานปลายทาง ก็ได้ความว่ายังไม่ได้รับการส่งอะไรมาแต่อย่างใดตามที่เขาอ้าง
อีฟ (นามสมมติ) ญาติ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผลวินิฉัยอาการป่วยทางจิตของผู้ต้องหา ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าได้ส่งเรื่องไปตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว ตนก็ได้ติดตามผลมาตลอด จนต้นเดือนกรฎาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนแจ้งว่าได้รับมาแล้ว แต่ข้อมูลนี้เป็นภาษาอังกฤษ เขาอ่านไม่ออก ตนจึงถามว่าให้ตนอ่านให้ไหม เขาก็เปลี่ยนเรื่องแล้วก็วางสายไป และตนก็ได้สอบถามกับทางโรงพยาบาลด้วย ก็ได้ให้ข้อมูลว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหนังสือจาก สภ.ควนขนุน แต่อย่างใด มีเพียงแค่เรื่องที่จะเข้าไปสอบปากคำแต่ก็ไม่เคยเข้าไปเลย คือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลเท็จกับเรา
ในส่วนของกรณีที่ผู้ต้องหาโพสต์ และส่งข้อความข่มขู่ผ่านทางเฟซบุ๊ก พงษ์ศา เปิดเผยว่า ตนได้ยื่นหลักฐานให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตลอด ก็ได้รับการตอบกลับมาว่าได้ทำการตรวจสอบแล้ว และมีหัวหน้าพนักงานสอบสวนของ สภ.ควนขนุน เคยพูดกับตนว่า “เฟซบุ๊ก อยู่ต่างประเทศ เกี่ยวอะไรกับเรื่องวางยา” แต่ข้อความที่เขาทักมามันก็เกี่ยวกับเรื่องการวางยาทั้งหมด
พงษ์ศา เปิดใจว่ากล่าวจะมาถึงวันนี้ ตนเหนื่อยมาก ทุกวันคิดแต่เรื่องนี้ตลอด ตนมีหลักฐานอยู่ในมือ แต่เมื่อส่งไปที่พนักงานสอบสวนเพื่อประกอบสำนวน ส่งไปตรวจพิสูจน์เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ แต่กลับไม่มีผลปรากฏมาเลย มีเพียงผลทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ตนเป็นคนประสานเอง สิ่งใดที่ทางตำรวจทำไม่เป็นตนก็เป็นคนทำให้ ซึ่ง อีฟ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เขาอ้างว่าทำไม่เป็น เขาอยากได้ตัวอย่างหนังสือ ตนก็ต้องไปขอตัวอย่างจากโรงพยาบาลศิริราชมาให้
นอกจากนี้ เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2564 พงษ์ศา ได้ยื่นเรื่องตรวจสอบพนักงานสืบสวนสอบสวนกับทางจเรตำรวจ ในเรื่องที่ตนต้องไปแจ้งความดำเนินคดีเรื่องวางยาถึง 8 ครั้ง แต่กลับไม่ดำเนินคดีให้ ซึ่งต่อมาก็มีหนังสือมาถึงตำรวจภูธรภาค 9 และเรียกตนเข้าไปพูดคุยด้วย โดยหัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.ควนขนุน เป็นผู้อ่านข้อความตามที่ตนได้ให้การกับจเรตำรวจไว้ จากนั้น ก็ยื่นเอกสารมาให้ตนเซ็น ซึ่งตนเข้าใจว่าเป็นการให้เซ็นเพื่อรับรองคำให้การ แต่เมื่อตรวจสอบกลายเป็นว่าหนังสือนั้นคือหนังสือยินยอมไม่เอาความตามที่ได้ร้องไปกับจเรตำรวจ
อีฟ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในการจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นผลงานของกองบังคับการปราบปราม กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เนื่องจากตนเคยให้ข้อมูลกับ สภ.ควนขนุน ไปแล้ว แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้อ่านไลน์ตนเลย และล่าสุดในวันที่ประกันตัว พนักงานสอบสวนเหมือนหลอกฝ่ายตน เนื่องจาก พงษ์ศา เดินทางไปขอคัดค้านการประกันตัว แต่เขาแจ้งว่าได้คัดค้านการประกันตัวแล้วให้ไปรอที่ศาลเลย แต่พอ พงษ์ศา ออกไป ทันใดนั้น นานยประกันก็วิ่งเข้าไปประกันตัวทันที
ด้าน ธีรยุทธ แก้วสิงห์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ทางกระทรวงพร้อมที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องของการไม่ได้รับความเป็นธรรมในการดำเนินการดำเนินคดี โดยทางกระทรวงจะให้ทางทีมกฎหมายประสานกับหน่วยงานที่ว่ามาว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ในส่วนการถูกยกเลิกการคุ้มครองพยาน ธีรยุทธ ให้ข้อมูลว่า โดยหลักแล้วเมื่อพยานรู้สึกไม่ปลอดภัยสามารถร้องขอการคุ้มครองพยานได้ ซึ่งผู้เสียหายก็เคยอยู่ในโครงการนี้ แต่เมื่อมีการประเมินเห็นว่าปลอดภัยแล้วก็จะมีการถอนออกจากโครงการไป แต่ถ้าผู้เสียหายรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยอีกก็สามารถร้องขอเพื่อกลับเข้าร่วมการคุ้มครองพยานได้อีกครั้ง
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35