สลด แม่ขี่มอเตอร์ไซค์ เสียหลัก ล้มดับ เหตุถนนกำลังก่อสร้าง จ. สมุทรปราการ

สลด สองพี่น้องยกถาดกับข้าววางข้างโลงศพแม่ หลังแม่ขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักล้มตรงถนนที่กำลังก่อสร้างเสียชีวิต

 

จากกรณี ที่มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ บริเวณจุดที่กำลังก่อสร้างปรับปรุงถนน ภายในซอยวัดแหลมฟ้าผ่า ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และ ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อช่วงดึก ของวันที่ 21 กรกฏาคม 2565 เวลา 22.50 น. ที่ผ่านมา ซึ่งจุดดังกล่าว เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เนื่องจากสภาพพื้นผิวที่กำลังปรับปรุงถนนมีความขรุขะ ลื่น ต่างระดับเป็นหลุมเป็นบ่อ และ ที่สำคัญช่วงเวลากลางคืนไม่มีป้ายสัญญาณไฟบอกแจ้งเตือนอย่างชัดเจน

 

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ อรอุมา ประเสริฐโส ได้โพสต์เกี่ยวกับจุดเกิดเหตุ และ ขอความเป็นธรรม ให้กับผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุ โดยที่โพสต์ข้อความว่า เห็นภาพแล้วสะเทือนใจ สงสารพวกหนูจับใจ ก่อนหน้านี้ก็เสียพ่อบังเกิดเกล้า แม่หนูก็เลี้ยงลูกมา เป็นเสาหลักเลี้ยงครอบครัว ทำงานคนเดียวแบกภาระทุกอย่างในบ้าน ทั้งดูแลพ่อแม่ ดูแลลูก ดูแลน้อง ๆ วันนี้เด็ก 2 คน ต้องสูญเสียแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เพราะความ ประมาทของผู้เกี่ยวข้อง ที่ทำถนน แต่ไม่มีป้าย ไม่มีไฟ ถนนมืด ทำรถเสียหลักล้ม จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ขอความเป็นธรรมด้วยค่ะ พร้อมลงภาพจากกล้องวงจรปิดวินาทีชีวิตที่ผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุบริเวณดังกล่าวจนเสียชีวิต

 

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุดังกล่าว พบเป็นช่วงที่กำลังก่อสร้างถนน ภายในซอยวัดแหลมฟ้าผ่า หมู่ 6 ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์  จังหวัดสมุทรปราการ ที่กำลังก่อสร้างถนน

 

โดยเหตุเกิดวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 เวลา 22.50 น. โดยเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำ นางสาวรัชนีกร พวกดี อายุ 30 ปี ที่อาการสาหัสส่งโรงพยาบาล และ เสียชีวิต ที่โรงพยาบาลในวันที่ 22 ที่ผ่านมา ก่อนจะร่างมาประกอบพิธีกรรมที่ วัดใหม่ (บางปลากด) และจะฌาปนกิจในวันนี้ (25 ก.ค.) เวลาประมาณ 16.00 น.

 

บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก เพราะผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว และ ยังมีลูกอีก 2 คน ที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ คนที่ 1 คือ ด.ญ. วิไลลักษณ์ กระแสอินทร์ (น้องข้าวหอม) อายุ 10 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.5 และ คนที่ 2 คือ ด.ช. อินทัช กระแสอินทร์ (น้องข้าวหมาก) อายุ 7 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.3 น้องทั้งเสียพ่อไปแล้วเมื่อ 5 ปีก่อนด้วยโรคประจำตัว แล้วมาปีนี้ต้องมาเสียแม่ไปด้วยอุบัติเหตุ

 

ทางครอบครัว คาดว่าสาเหตุในการเกิดเหตุในครั้งนี้ อาจจะมีส่วนจากผู้รับเหมาทำถนน ที่ไม่มีป้ายสัญญาณไฟบ่งบอกให้ชัดเจนก่อนถึงจุดก่อสร้าง จึงทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น แต่ทางครอบครัวก็ทำใจ เพราะมันเป็นอุบัติเหตุแต่ก็อยากเรียกร้องความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงบริษัทที่รับเหมา ให้หันมาเยียวยาช่วยเหลือทางครอบครัว เพราะผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัวที่ตอนมีชีวิตอยู่ต้องเลี้ยงดูคนในบ้านอีก 4 ชีวิต แล้วมาจากไปโดยกะทันหันทำให้คนในบ้านทำใจไม่ได้ เพราะลูกของผู้ตายก็ยังเล็กอยู่ และ ในวันนี้ช่วงบ่ายทางครอบครัวได้นิมนต์พระสงฆ์เพื่อไปทำพิธีอัญเชิญวิญญาณของผู้ตายที่จุดเกิดเหตุ

 

ส่วนทางด้านคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยท่าน พ.ต.อ.ธนูเพ็ชร ฉมาฤกษ์ ผกก. สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้สั่งการให้เจ้าพนักงานสอบสวนเร่งรัดคดีเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ด้านนายขุน อายุ 49 ปี เป็นหัวหน้าและดูแลการก่อสร้างถนนดังกล่าว ได้บอกว่า ตนรายงานงานไปบริษัทให้ทราบแล้ว ทางบริษัทจะให้การช่วยเหลือเบื้องต้นกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และ ส่วนบริเวณที่ก่อสร้างถนน หรือ จุดเกิดเหตุได้เพิ่มมาตรการในการเพิ่มป้ายสัญญาณบอก และ สัญญาณไฟในช่วงกลางคืน เพื่อจะไม่ได้เกิดเหตุซ้ำซ้อน เพราะก่อนหน้านี้ตั้งแต่เริ่มทำถนนเส้นนี้ก็มีอุบัติเหตุขึ้นหลายครั้ง