เตือนระวัง ! เร่งตามคนไข้ “ฝีดาษลิง” รายแรกในไทย หนีจากโรงพยาบาล จ.ภูเก็ต

ทีมแพทย์แถลงข่าวการสอบสวนโรคฝีดาษลิงรายแรกในประเทศ หลัง นักท่องเที่ยวชาวไนจีเรียติดเชื้อ ผู้ป่วยได้หลบหนีออกจากที่พัก ตำรวจเร่งหาตัว

 

          เมื่อช่วงเทียงที่ผ่านมา นาย  พิเชษฐ์  ปาณะพงศ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  พร้อมด้วยนพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สสจ.ภูเก็ต และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าวการสอบสวนโรคฝีดาษลิง หลังพบนักท่องเที่ยวชายชาวไนจีเรียอายุ 28 ปีที่เดินทางมาท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ตมีการติดเชื้อ

 

          เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค.65 นักท่องเที่ยวชาวไนจีเรียคนดังกล่าวได้ไปตรวจที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองภูเก็ต หลังจากมีไข้ ไอ จามและมีตุ่มหนองที่ผิวหนัง จากนั้นได้มีการเจาะเลือดส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการ รพ.จุฬาและ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรุงเทพฯ โดยนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวได้กลับไปกักตัวรอดูอาการที่คอนโดมิเนียมในพื้นที่ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จนกระทั่งผลการตรวจจากที่ รพ.จุฬาออกมาเมื่อวันที่ 18 ก.ค 65 ปรกฎว่าติดเชื้อฝีดาษลิง 

 

          จากนั้นทีมสอบสวนโรคได้ติดตามประสานงานกับนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว เพื่อให้เข้ามารักษาตามขั้นตอนในวันที่ 19  เจ้าตัวก็ยินยอมจะเข้ามาทำการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน แต่พอถึงเวลานัดหมายนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวกลับปิดโทรศัพท์ไม่ยอมเข้ามา จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ สสจ.ภูเก็ตประสานไปยัง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เพื่อให้ตรวจสอบว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวหายไปไหน จนพบว่าออกจากคอนโดมิเนียมในพื้นที่ ต.กะทู้ อ.กะทู้ในช่วงค่ำวันที่ 19 ก.ค.65 แล้วหายตัวไป จนมาพบตัวอีกครั้งในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ในวันที่ 20 ก.ค.65 โดยเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ และหายตัวไปอีกครั้งในเวลาต่อมา หลังเจ้าตัวนำกุญแจห้องพักมาวางไว้ที่เคาน์เตอร์"

 

          เบื้องต้นนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวอ้างว่าได้เข้ามา จ.ภูเก็ตเมื่อเดือน พ.ย.64 จนถึงปัจจุบัน มีประวัติเสี่ยงชอบเที่ยวสถานบันเทิงและมีเพศสัมพันธุ์กับหญิงสาว มีอาการป่วยเมื่อวันที่ 9 ก.ค.65 ที่อวัยวะเพศมีตุ่มหนอง เข้าตรวจ 16 ก.ค.65 เจาะเลือดส่งตรวจห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง ไม่ได้นอนโรงพยาบาลรักษาแบบผู้ป่วยนอก แนะนำให้กักตัวที่คอนโดมิเนียมที่พัก 

 

 

          ด้าน พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่านักท่องเที่ยวรายดังกล่าวพักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมใน ต.กะทู้ อ.กะทู้ จึงส่งทีมเฝ้า จนพบว่าออกจากคอนโด 19 ก.ค.65 ไปยังพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จนมีการประสานเจ้าตัว จนมีการนัดหมายกันในวันที่ 19 ก.ค.แต่สุดท้ายไม่มาตามนัด โดยจะไปที่ รพ.เอกชนเอง แต่สุดท้ายไม่มา จากนั้นได้บูรณการทีมงานไล่ล่า จนพบว่าพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จนช่วงค่ำวันที่ 20 ก.ค.นำกุญแจมาวางไว้ที่เคาน์เตอร์แล้วเดินหายออกจากโรงแรมไป ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบขึ้นรถยนต์ไปทางพื้นที่ ต.กมลา อ.กะทู้และไปยัง ต.เชิงทะเล อ.ถลาง แต่เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ด่านตรวจภูเก็ต อ.ถลาง ยังไม่ออกนอกประเทศ

 

          โรคฝีดาษลิงเป็นเชื้อไวรัสคล้ายอีสุกอีใส จะแพร์เชื้อจากการสัมผัสตุ่มหนองที่ขึ้นตามผิวหนัง, การหายใจใส่กัน, เอาเนื้อแบบเนื้อ, ไอจามใส่หน้าเต็มๆ  โดยผู้ป่วยรายนี้ จัดว่าติดเชื้อสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรง

 

          ข้อมูลจาก อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้ป่วยรายแรกในประเทศไทย เป็นชายชาวไนจีเรีย อายุประมาณ 27 ปี เป็นสายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก ซึ่งไม่รุนแรง ทั้งนี้ มีการสอบสวนโรคและค้นหากลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง คือเพื่อนของผู้ป่วย 2 ราย เป็นคนไทย 1 คน และเป็นชาวไนจีเรียอีก 1 คน ตรวจแล้วไม่พบการติดเชื้อ แต่ให้สังเกตอาการตัวเอง 21 วัน

 

          นอกจากนี้ ยังได้ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกที่สถานบันเทิง 2 แห่งใน จ.ภูเก็ต ที่ผู้ป่วยเคยไปใช้บริการ มีคนไปใช้บริการ 142 คน พบผู้มีอาการไข้ เจ็บคอ 6 ราย ผลตรวจ 4 ราย ไม่พบเชื้อ แต่ให้เฝ้าระวังตนเอง 21 วัน อีก 2 รายรอตรวจ นอกจากนี้ ยังค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดในโรงแรม และสถานบันเทิงแห่งอื่น ๆ เพิ่มเติม รวมทั้งการกำจัดเชื้อในห้องพักคอนโดของผู้ป่วย ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวกับสถานบันเทิง และผู้ใช้บริการ.