นักธุรกิจสาวสุดช้ำ ! ถูกหนุ่มหลอกเงิน 20 ล้าน อ้างสนิท "พิมรี่พาย" : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

สาวนักธุรกิจ สุดช้ำ เข้าร้องให้สื่อช่วย หลังถูกหนุ่มอ้างสนิทกับพิมรี่พาย หลอกลุงทุนขายน้ำพริกพร้อมมาขอยืมเงิน ในระยะเวลาตลอด 8-9 เดือน โดนหลอกเอาเงินไปกว่า 20 ล้านบาท

             วันที่ 22 ก.ค. 65 ภูรินทรา มิ่งโอโล (ฟ้า) ผู้เสียหาย เล่าเรื่องราวผ่านรายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ในช่วง "ถกไม่เถียง" ว่า ตัวละครทุกคนที่เข้ามาหลอกตน ไม่มีใครรู้จักกับพิมรี่พายเลย เรื่อราวทุกอย่างนายเอ็ม (ผู้ก่อเหตุ) เป็นคนแอบอ้างทั้งหมด รวมทั้งคุณออย นายเอ็มก็เป็นคนสร้างโปรไฟล์ปลอมขึ้นมา โดยตัวคุณออยมีอยู่จริง เป็นพนักงานจัดซื้อของบริษัทฯพิมรี่พาย ไม่ได้เป็นพี่สาวของพิมรี่พายอย่างที่นายเอ็มกล่าวอ้าง

             ที่ตนเชื่อเขา เนื่องจาก ตนชอบพิมรี่พายมาก ๆ อยู่แล้ว และนายเอ็มยังได้รับงานทำบราวนี่ส่งให้กับพิมรี่พายจริง ๆ เพราะตนเห็นมีรถมารับ และเขายังโชว์เช็คเงินสด 13 ล้าน ให้ดูโดยบอกว่าเป็นเงินค่ามัดจำบราวนี่ที่พิมรี่พายจ่ายให้มา แต่ดันมาเกิดปัญหาขึ้นรามาก่อน เขาเลยหยุดทำไป โดยช่วงที่เขาหยุดทำ เป็นช่วงที่เขาเอามาหลอกตน  

             ต่อมา ตนได้ฝากน้ำพริกที่คิดสูตรขึ้นมาเอง ให้นายเอ็มนำไปฝากขายผ่านพิมรี่พาย ต่อมานายเอ็มบอกว่าจะช่วยนำส่งออกต่างประเทศ ตนก็หลงเชื่อ จึงนำเงินไปลงทุนซื้อปุปกรณ์เตรียมจะทำ ประมาณ 2 ล้านบาท

             ยอดเงินที่ตนเสียหายไปถึง 20 ล้านนั้น เพราะว่า ทางนายเอ็มสร้างเรื่องว่า เป็นแฟนกับพิมรี่พาย โดยพิมรี่พายซื้อบ้านให้ นายเอ็มจึงมาขอยืมเงินตน โดยอ้างว่าพิมรี่พายเป็นคนขอยืม อยากให้ตนช่วย เนื่องจากโดนสรรพากรตรวจสอบเรื่องกล่องสุ่ม 100 ล้าน ไม่สามารถนำเงินสดออกมาใช้ได้ และค่าใช้จ่ายแต่ละวันสูง พอเสร็จเรื่องแล้วจะนำมาคืนให้ จากนั้นก็เริ่มให้ตนโอนเงินเข้าบัญชีของนายเอ็มตลอด โดยอ้างว่าพิมรี่พายถือโทรศัพท์ของนายเอ็มอยู่ และอ้างอีกว่าพิมรี่พายเป็นคนมีชื่อเสียงหากโอนเข้าบัญชีพิมรี่พายอาจจะเสียหาย เพื่อความปลอดภัยจึงให้โอนเข้าบัญชีนายเอ็ม โดยทั้งหมดที่โอนไปประมาณ 30 ครั้ง รวม 15 – 16 ล้านบาท

             สุดท้ายมาความแตกตอนที่ นายเอ็มส่งรูปมาให้ดูว่าติดโควิดอยู่ ซึ่งตนก็เชื่อจริง ๆ แต่เพื่อนของตนเริ่มไม่เชื่อ จึงไปค้นรูปจากกูเกิ้ล ปรากฏว่า เป็นรูปเดียวกันกับที่อยู่ในกูเกิ้ล ทำให้ตนรู้แล้วว่าตอนนั้นตนโดนหลอก ล่าสุดนายเอ็มถูกจับตัวแล้ว โดยเขาสารภาพว่าเอาเงินทั้งหมดไปเล่นพนันออนไลน์ แต่ตนสังเกตได้ว่า คนที่เล่นพนันออนไลน์จะต้องมีโอนเข้าโอนออกบ้าง แต่เขาโอนเงินออกอย่างเดียวเลย และอีกข้อสังเกตคือ เวลาเขาได้รับเงินไปแล้ว เขาจะโอนเงินออกไปที่ อ.แม่ริน จ.เชียงใหม่

             ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ความเห็นว่า ในกรณีนี้ เข้าข่ายความผิดฉ้อโกง ตอนนี้พนักงานสอบสวนในท้องที่ ได้สอบสวนไปแล้ว และรับหน้าที่ติดตามทรัพย์คืน ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา และรวบพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการส่งฟ้อง

             ขณะที่การติดตามทรัพย์คืน เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ต้องพิสูจน์ว่าผู้ต้องหาเอาเงินไปใช้อย่างไร หรือมีขบวนการอะไรหรือไม่ ส่วนตัวตนเชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการ และเงินน่าจะโอนไปยังบุคคลที่ 2 และ 3 ในขบวนการ และถ้าเกิดผู้เสียหายต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถไปที่กระทรวงยุติธรรมได้ จะมีหน่วยงานคอยให้คำแนะนำ และติดตาม เร่งรัด ช่วยเหลือได้  

ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=Zl_sn1OgwwQ