สาวนักธุรกิจ สุดช้ำ เข้าร้องให้สื่อช่วย หลังถูกหนุ่ม 18 มงกุฏ อ้างสนิทกับพิมรี่พาย พร้อมทั้งเป็นคนส่งบราวนี่ขายให้กับพิมรี่พาย ตนจึงเชื่อใจ ลงทุนทำน้ำพริกขายให้ ระยะเวลาตลอด 8-9 เดือน โดนหลอกเอาเงินไป 20 ล้านบาท
วันที่ 22 ก.ค. 65 ภูรินทรา มิ่งโอโล (ฟ้า) ผู้เสียหาย เล่าเรื่องราวผ่านรายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ในช่วง "ถกไม่เถียง" ช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตัวละครทุกคนที่เข้ามาหลอกตน ไม่มีใครรู้จักกับพิมรี่พายเลย ทุกอย่างนายเอ็ม (ผู้ก่อเหตุ) เป็นคนแอบอ้างทั้งหมด รวมทั้งคุณออย นายเอ็มก็เป็นคนสร้างโปรไฟล์ปลอมขึ้นมา โดยตัวคุณออยมีอยู่จริง เป็นพนักงานจัดซื้อของบริษัทฯพิมรี่พาย ไม่ได้เป็นพี่สาวของพิมรี่พายอย่างที่นายเอ็มกล่าวอ้าง
ที่ตนเชื่อเขา เนื่องจาก ตนชอบพิมรี่พายมาก ๆ อยู่แล้ว และเขายังได้รับงานทำบราวนี่ส่งให้กับพิมรี่พายจริง ๆ ในช่วงแรก ตนจึงให้สถานที่ทำบราวนี่ เป็นร้านอาหารของตนที่ปิดอยู่ แถวซอยเอแบค และเขาก็เอาพ่อกับแม่ และลูก ลงมาช่วยด้วย ซึ่งเขาได้ส่งบราวนี่ให้กับพิมรี่พายจริง ๆ เพราะตนเห็นมีรถมารับ และเขายังโชว์เช็คเงินสด 13 ล้าน ให้ดูโดยบอกว่าเป็นเงินค่ามัดจำบราวนี่ที่พิมรี่พายจ่ายให้มา แต่ดันมาเกิดปัญหาขึ้นรามาก่อน เขาเลยหยุดทำไป โดยช่วงที่เขาหยุดทำ เป็นช่วงที่เขาเอามาหลอกตน
และต่อมา เราได้ฝากเขาเอาน้ำพริกที่ตนคิดสูตรขึ้นมาเอง เอาไปให้พิมรี่พายลองชิมเผื่อจะผ่านนำไปขายได้ ปรากฏนายเอ็มบอกว่า พี่พิมรี่พายชิมแล้ว อร่อย เขาชอบมาก และเขาอยากให้ตนเข้าไปเป็นส่วนร่วมในสินค้าของพิมรี่พาย เขาจึงทำใบสั่งซื้อจากบริษัทฯพิมรี่พาย "ปลอม" มาให้ตน ทำให้ตนเชื่อ ณ ตอนนั้น และเขายังบอกว่าไม่ให้เผยแพร่ออกไปที่ไหน โดยออเดอร์แรกประมาณ 2 หมื่นกระปุก ต่อ 1 รสชาติ ซึ่งมี 3 รสชาติ ต่อมาเรื่อย ๆ เขาสร้างข้อความมาบอกว่า พิมรี่พายชอบมาก และจะนำน้ำพริกนี้เข้าไปจำหน่ายใน ห้างสรรพสินค้า และร้านค้า ชั้นนำในประเทศ ปีละประมาณ 200 ล้านกระปุก ตนก็หลงเชื่อ จึงนำเงินไปลงทุนซื้อปุปกรณ์เตรียมจะทำ ประมาณ 2 ล้านบาท
หลังจากนั้นน้ำพริกล็อตแรกที่ส่งไป ประมาณ 2 พันกระปุก ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้เงิน โดยนายเอ็มอ้างว่า เอาไปให้ทางลูกค้าของพิมรี่พายชิม แต่ตรงนี้ยังไม่ได้ยอดมา รอบหน้าถึงจะได้ยอดมา เพราะต้องมีการวางบิล แล้วต่อมาก็มีล็อต 2 ล็อต 3 ที่ตนทำไว้เตรียมจะส่งให้เขา แต่ไม่ได้ส่ง น้ำพริกมันเสียก่อน เนื่องจากเขาลากเวลาไว้นานจัด มันเลยเสีย
ขณะที่ ยอดเงินที่ตนเสียหายไปถึง 20 ล้านนั้น เพราะว่า ทางนายเอ็มสร้างเรื่องว่า เขาได้เป็นแฟนคบหากับพิมรี่พายอยู่ โดยพิมรี่พายซื้อบ้านให้ และให้เขาดูแลเรื่องของบราวนี่ที่จะทำส่งห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ต่อมาในช่วงหลัง นายเอ็มมาขอ ยืมเงินตน โดยอ้างว่าพิมรี่พายเป็นคนขอยืม อยากให้ตนช่วย เนื่องจากเขาโดนสรรพากรตรวจสอบในเรื่องของกล่องสุ่ม 100 ล้านอยู่ ทำให้เขาไม่สามารถนำเงินสดออกมาใช้ได้ และค่าใช้จ่ายแต่ละวันของเขาในแต่ละวันมันสูง พอเสร็จเรื่องแล้วจะนำมาคืนให้ จากนั้นก็เริ่มให้ตนโอนเงินเข้าไปเรื่อย ๆ แต่โอนเข้าบัญชีของนายเอ็มตลอด ซึ่งตนก็สงสัย แต่เขาอ้างว่า พิมรี่พายถือโทรศัพท์ของนายเอ็มอยู่เครื่องหนึ่ง สามารถเข้าแอปฯธนาคารเขาเขาได้หมด และอ้างอีกว่าพิมรี่พายเป็นคนมีชื่อเสียงหากโอนเข้าบัญชีพิมรี่พาย มันจะเสียหาย เพื่อความปลอดภัยจึงให้โอนเข้าบัญชีนายเอ็ม ซึ่งเป็นแฟนกันอยู่แล้ว โดยทั้งหมดที่โอนไปประมาณ 15-16 ล้านบาท โอนทั้งหมดประมาณ 30 ครั้ง
ครั้งสุดท้าย คือโดนเขาหลอกเอาทองไป โดยตอนนั้นทางพิมรี่พาย(ตัวปลอม) ติดต่อมาหาตน ว่านายเอ็มติดโควิดอยู่ แต่อยากอยากเอานายเอ็มออกจากโรงพยาบาล เพื่อมาช่วยกันพรีเซนต์งานกับลูกค้า ในสินค้าน้ำพริก กับบราวนี่ แต่ติดตรงที่ว่าเขาไม่มีเงิน จึงมาขอยืมกับตน แต่ตอนนั้นตนไม่มีเงินแล้ว มีแต่ทอง ซึ่งตนก็ติดโควิดอยู่ ไม่สามารถนำไปให้ได้ จึงให้เขาส่งคนขับรถมารับทองไป ซึ่งตนก็เชื่อว่าเป็นคนขับรถของพิมรี่พายจริง ๆ
ทั้งนี้ เงินทั้งหมดที่ให้เขาไป เป็นเงินลงทุน ที่มีผู้ใหญ่ร่วมลงทุนกับตนด้วย แต่ด้วยความที่ตนคิดว่าเป็นพิมรี่พายจริง ๆ ไม่คิดว่าจะโดนหลอก จึงนำเงินในส่วนตรงนี้ไปให้เขา อย่างไรก็ตาม ตนเคยคุยกับพิมรี่พายตัวปลอม แต่เป็นแชตไลน์ของนายเอ็ม เพราะเขาอ้างว่าพิมรี่พายก็ใช้ไลน์อันนี้ และตนเคยขอวิดีโอคอลกับพิมรี่พาย แต่ไม่เคยได้วิดีโอคอลสักครั้ง เพราะเขาอ้างว่ากลัวตนแคปหน้าจอจะทำให้เขาเสียหาย
สุดท้ายมาความแตกตอนที่ นายเอ็มส่งรูปมาให้ดูว่าติดโควิดอยู่ ซึ่งตนก็เชื่อจริง ๆ แต่เพื่อนของตนเริ่มไม่เชื่อ จึงไปค้นรูปจากกูเกิ้ล ปรากฏว่า เป็นรูปเดียวกันกับที่อยู่ในกูเกิ้ล ทำให้ตนรู้แล้วว่าตอนนั้นตนโดนหลอก ล่าสุดนายเอ็มถูกจับตัวแล้ว โดยเขาสารภาพว่าเอาเงินทั้งหมดไปเล่นพนันออนไลน์ แต่ตนสังเกตุได้ว่า คนที่เล่นพนันออนไลน์จะต้องมีโอนเข้าโอนออกบ้าง แต่เขาโอนเงินออกอย่างเดียวเลย และอีกข้อสังเกตุคือ เวลาเขาได้รับเงินไปแล้ว เขาจะโอนเงินออกไปที่ อ.แม่ริน จ.เชียงใหม่
อย่างไรก็ตาม อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ช่วยตรวจสอบไปทางบัญชีปลายทาง อ.แม่ริน ว่าเงินตรงนี้มันไปที่ไหนบ้าง และนายเอ็มยังมีโอนเงินไปอีกหลายบัญชี ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบ ล่าสุดตำรวจกำลังเร่งคดีให้ แต่ต้องรอเอกสารการเงินของนายเอ็ม จากธนาคารก่อน
ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ความเห็นว่า ในกรณีนี้ เข้าข่ายความผิดฉ้อโกง ตอนนี้พนักงานสอบสวนในท้องที่ ได้สอบสวนไปแล้ว และรับหน้าที่ติดตามทรัพย์คืน ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา และรวบพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการส่งฟ้อง
ขณะที่การติดตามทรัพย์คืน เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ต้องพิสูจน์ว่าผู้ต้องหาเอาเงินไปใช้อย่างไร หรือมีขบวนการอะไรหรือไม่ ส่วนตัวตนเชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการ และเงินน่าจะโอนไปยังบุคคลที่ 2 และ 3 ในขบวนการ และถ้าเกิดผู้เสียหายต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถไปที่กระทรวงยุติธรรมได้ จะมีหน่วยงานคอยให้คำแนะนำ และติดตาม เร่งรัด ช่วยเหลือได้
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/mk26wi_vIjI