พ่อร้อง ! โรงพยาบาลไล่เมียท้องแก่กลับบ้าน สุดท้ายลูกคลอด ดับคารถแท็กซี่

พ่อใจสลายเมียท้องแก่ ปวดท้องไปโรงพยาบาลแต่ถูกเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลไล่กลับบ้านไปก่อน ต่อมาปวดท้องจนทนไม่ไหว ต้องกลับมาใหม่อีกรอบ สุดท้ายไม่ทันลูกคลอดคารถแท็กซี่ เสียชีวิต

 

นายอำนาจ กิจพานิชย์ อายุ 40 ปี  พ่อเด็ก เล่าว่า ภรรยาตั้งท้องที่ 2 และมีกำหนดคลอดวันที่ 22 กรกฎาคม กระทั่งวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมาเวลาบ่าย 2 ภรรยาปวดท้องใกล้คลอดจึงเรียกแท็กซี่ไปโรงพยาบาลเมื่อหมดตรวจแล้วกลับมาแจ้งให้กลับบ้าน โดยระบุว่าเด็กแข็งแรงดี ไม่มีอะไรผิดปกติมีแค่ตอนคลอดจะต้องใช้วิธีผ่าคลอดเนื่องจากเด็กกลับหัวไม่สามารถคลอดปกติได้เท่านั้น ให้กลับบ้านได้ แต่ภรรยาบอกอยากนอนดูอาการเพราะไม่ไหวจริง ๆ ซึ่งตอนภรรยานั่งรถออกมาจากโรงพยาบาลภรรยาร้องไห้และบอกว่าหมอไม่ให้นอน ตอนนั้นตนก็ไม่รู้จะพูอะไรทำได้แต่ทำตามเพราะเขาจบมาทางนี้ จนเวลา 5 ทุ่ม ภรรยาเจ็บท้องและมีน้ำเดิน จึงได้เรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งโรงพยายาลอีกรอบ ระหว่างทางลูกคลอดออกมาแล้วแต่เอาขาออกมาก่อน ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกได้แต่บอกให้แท็กซี่รีบขับ

 

เมื่อถึงโรงพยาบาลตนบอกเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่าแฟนคลอดแล้วขาออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่ยังบอกจริงหรือเปล่า ตอนนั้นพูดไม่ออก มีเพียงเจ้าหน้าที่เวรเปลมาช่วยพาภรรยาเข้าห้องฉุกเฉิน ตอนนั้นหัวลูกยังไม่หลุดออกมา และยังร้องและดิ้นอยู่ จากนั้นไม่นานหมอ ออกมาบอกว่าลูกเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากตนมาช้า

 

ส่วนตัวตนมองว่าเป็นความผิดตัวเองที่มาช้าใช่หรือไม่ แต่ทำไมตอนแรกไม่ให้ภรรยานอนดูอาการ ถ้าให้นอน เหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิด อยากให้โรงพยาบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้

 

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่าเบื้องต้น ตนได้โทรสอบถามทาง ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ถึงเรื่องดังกล่าว ทาง ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข จะรับเรื่องไว้ และต้องตั้งกรรมการสอบสวนในเรื่องของคุณภาพ การให้บริการการรักษาพยาบาล ถ้าเป็นเรื่องของการให้บริการที่ไม่ถูกต้อง ทาง สปสช. มีเงินที่จะต้องเยียวยาให้กับครอบครัวของผู้เสียหาย

 

และตนได้ ประสานไปยัง สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ รอประสานกลับมา เพราะอาจจะต้องพาทางครอบครัวผู้เสียหายไปพบ นายเอกภพ กล่าวอีกว่า ทางคุณพ่อของเด็กไม่ได้ต้องการถึงขนาดต้องให้ค่าราชการออก หรือ เอาผิดทางคดีอาญาอะไรมากมาย เพียงแต่ว่าวันนี้อยากทราบถึงมาตรฐานของการรักษาอยู่ที่ไหน จะต้องมีอีกกี่ราย ที่ประสบเหตุแบบนี้ เรื่องนี้จึงควรต้องมีคนรับผิดชอบ ควรต้องมีการเยียวยาให้กับครอบครัวของเขา