ผัวร้อง เมียปวดท้องคลอดเจียนตาย รพ.ไล่กลับบ้าน สุดท้าย ลูกคลอดคาแท็กซี่เสียชีวิต

ผัวร้องสื่อ เมียท้องแก่ร้องเจ็บท้องเจียนตาย โรงพยาบาลไล่กลับบ้าน สุดท้ายไม่ไหว นั่งแท็กซี่กลับไปโรงพยาบาล แต่ไม่ทัน เด็กเสียชีวิตคารถ     

 

            วันที่ 18 ก.ค. 65 ก้อง พ่อเด็ก ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการข่าวเย็นประเด็นร้อนในช่วง "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 65 เวลาประมาณ 14.40 น. ตนพาภรรยาไปโรงพยาบาล เนื่องจากภรรยาเจ็บท้องมาก โดยหมอบอกว่าให้กลับบ้านก่อน เพราะหัวใจเด็กเต้นดี และร่างกายยังแข็งแรงดี แต่ภรรยายังคงเจ็บท้องอยู่ ซึ่งภรรยาบอกว่าอยากนอนที่โรงพยาบาล แต่เขาก็ไม่ฟัง ให้กลับบ้านเช่นเดิม    

 

 

            พอถึงที่บ้าน ตกดึก ประมาณ 22.00 น. ภรรยามีอาการน้ำเดินนิดหน่อย และมีอาการเจ็บท้องขึ้นมาอีก ตนจึงบอกภรรยาว่า อาการมันไม่ดี เลยพาไปโรงพยาบาล น้ำเริ่มไหลออกมาเยอะจนตนต้องซื้อ ผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ให้ใส่ เพื่อจะเดินทางไปโรงพยาบาล พอเรียกรถแท็กซี่ได้ ภรรยาก็บ่นปวดท้องเหมือนจะไม่ไหวแล้วกลางทาง หลังจากนั้นไม่นาน ภรรยารู้สึกว่ามีอะไรออกมาจากช่องคลอด เมื่อตนลองจับดูพบว่าเป็นขาเด็ก จึงบอกให้แท็กซี่ขับเร็วหน่อย พอไปถึงโรงพยาบาล ตนบอกรีบบอกเจ้าหน้าที่ว่าภรรยาคลอดแล้ว ขาเด็กออกมาแล้ว พยาบาลก็รีบมาช่วยประคองภรรยาตนไปห้องคลอด แต่พอผ่านไปสักพักหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็บอกตนว่า ลูกของตนเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากขาดอากาศหายใจ อย่างไรก็ตาม ระหว่างอยู่บนแท็กซี่ ภรรยาตนยังรู้สึกได้ว่าลูกมีชีวิตอยู่ ยังคงดิ้น และได้ยินเสียงเด็กร้องประมาณ 1 ครั้ง 

 

            ตอนนั้น ตนพูดอะไรไม่ออก ยิ่งมาเห็นหน้าลูกของตน ตนยิ่งทำใจไม่ได้ ตนจึงตอบพยาบาลไปว่า ตนมาตั้งแต่ 14.00 น. ทำไมถึงไม่ให้ภรรยาของตนนอนที่โรงพยาบาล ถ้าให้ภรรยาตนนอน ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ แต่ตรงนั้นก็ไม่มีใครชี้แจงอะไรตนเลย แถมภรรยาได้มาเล่าให้ตนฟังว่า พยาบาลมาพูดว่าทำไมถึงมาช้า พากันมาช้าลูกเลยเสียชีวิต ตอนนี้ตนกับภรรยา จิตใจย่ำแย่กันทั้งคู่  

 

 

            นอกจากนี้ ตนยังสงสัยอีกว่า ตนได้พาภรรยาตรวจครรภ์ตลอด และพบว่า ลูกของตนนั่งเอาก้นลงอยู่ในท้อง ซึ่งอันตรายมาก แพทย์จากคลีนิกจึงระบุว่าให้ผ่าคลอดเท่านั้น แต่ทำไมทางโรงพยาบาลถึงไม่เห็น แล้วให้กลับบ้านได้ปกติ ทั้งที่ภรรยาตนปวดท้องจนขอนอนที่โรงพยาบาล  

 

"เหลืออีกแค่ 7 วัน ผมก็จะได้เจอหน้าลูก แต่เหตุการณ์ที่ผมได้เจอ ผมเห็นแค่ร่างของลูก ที่ไม่มีลมหายใจ" คุณก้อง พ่อเด็ก กล่าว       

 

            ตนต้องการความยุติธรรม และต้องการให้ความยุติธรรมนี้ ส่งผลให้เคสของตนเป็นเคสสุดท้าย เพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกในสังคม ทั้งนี้ตนไม่ได้อยากจะเอาเรื่องโรงพยาบาล แค่อยากให้ทางโรงพยาบาล อบรมบุคลากรให้ใส่ใจคนไข้มากกว่านี้ 

 

            ทั้งนี้ นายแพทย์วีรพล กิตติพิบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปทุมธานี ได้ให้ข้อมูลกับทีมงานรายการ "ถกไม่เถียง" โดยเล่าว่า วันที่คนไข้เข้ามาวันที่ 14 ก.ค. 65 ที่ไม่มีการอัลตราซาวด์ เนื่องจากเครื่องอัลตราซาวด์เสีย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การอัลตราซาวด์ไม่ได้ช่วยอะไรเลย มันไม่มีความจำเป็นและไม่มีประโยชน์ 

 

            ทุกวันเราเจอคนไข้ลักษณะแบบนี้จำนวนมาก และส่วนมากจะเจ็บท้องหลอก จึงต้องใช้วิธีแนะนำให้กลับไปพักที่บ้าน เพราะเตียงไม่พอ แล้วให้กลับมาตามนัดเดิม การที่จะให้คนไข้นอนพักที่โรงพยาบาล ต้องมีปัจจัยตามนี้ 1.มีอาการแทรกซ้อน เช่น ความดันสูง 2.เจ็บครรภ์จริง มดลูกรัดตัวทุก ๆ 3-5 นาที 3.ปากมดลูกต้องเปิด 

 

 

            ส่วนเรื่องการเจ็บท้องนั้น ไม่ได้เป็นสัญญาณเจ็บท้องคลอดเสมอไป และคนไข้รายนี้ไม่ได้เจ็บท้อง แต่เขาเจ็บที่ขาหนีบ ซึ่งมดลูกไม่ได้รัดตัว    

 

            ด้าน คุณก้อง ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยืนยันว่า ภรรยาเจ็บท้องมาก ร้องไห้น้ำตาไหลตลอด จนตัวเองขอ อยากจะอยู่โรงพยาบาลด้วยซ้ำ   

 

            ด้าน ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เผยว่า ตนเห็นด้วยกับคุณพ่อ ว่าไม่ควรมีเคสแบบนี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งข้อนี้เป็นหลักของ สปสช. เช่นกัน สำหรับกรณีนี้ ทาง สปสช. เขต 4 จะเข้าไปดำเนินการ ช่วยเหลือคนไข้เบื้องต้น เนื่องจากคนไข้ได้รับความเสียหายจากการรับบริการ โดยจะช่วยเหลือเยียวยาเป็นเงินสด อีกส่วนหนึ่งคืออยู่ที่ความประสงค์ของผู้เสียหาย ถ้าเกิดว่าผู้เสียหายมองว่ากรณีนี้ควรจะต้องมีการสอบสวนมาตรฐานการบริการ ก็สามารถแจ้งความจำนงค์ได้ที่เขต เขตก็จะส่งเรื่องมาที่ สปสช. ก็จะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป 

 

 

            อย่างไรก็ตาม ถ้าหาก สปสช. เล็งเห็นว่าอาจจะมีการให้บริการที่ไม่ได้มาตรฐาน ทาง สปสช. ก็จะส่งเรื่องตรงเข้าสู่กระบวนการสอบสวนเลย แต่ที่ให้ผู้เสียหายแจ้งเรื่องมาเนื่องจากเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม

 

            สำหรับเรื่องที่คุณพ่อสงสัย กับเรื่องที่ ผ.อ.โรงพยาบาลชี้แจง ตนมองว่า กรณีแบบนี้ มุมมองของคนไข้ กับมุมมองของผู้ให้บริการ จะมีเหตุและผลที่ต่างกัน จึงจำเป็นต้องใช้กระบวนการสอบสวน ที่เป็นระบบ และมีความเป็นธรรมจากผู้พิจารณาด้วย        

 

ติดตาม  รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง"  ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 

 

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/oIfADSML3s0