logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ร้องกองปราบ ! ลูกชายอดีตตำรวจโดนรุมปางตาย แต่คดีไม่คืบ

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ลูกอดีตนายตำรวจ เข้าร้องพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม หลังถูกโดนรุมทำร้ายปางตาย แต่คดีไม่คืบ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวอาชญากรรม,ข่าวกีฬา,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,ศรีสุภางค์ ธรรมาวุธ,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์

535 ครั้ง
|
15 ก.ค. 2565
ลูกอดีตนายตำรวจ เข้าร้องพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม หลังถูกโดนรุมทำร้ายปางตาย แต่คดีไม่คืบ
 
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา นายภานุพงศ์ (สงนามสกุล) อายุ 30 ปี และ นายภัทรพล (สงนามสกุล) อายุ 27 ปี สองพี่น้อง เจ้าของบ่อปลาที่ จ.นครปฐม เพื่อยื่นหนังสื่อขอความเป็นธรรม ต่อ ผู้บังคับบัญชาสอบสวนกลาง (พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช)  
 
หลังเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายภัทรพล (น้อง) ถูกวัยรุ่นในสถานบันเทิงใกล้ สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม ทำร้ายร่างกายจนโคม่านาน 8 วัน และ เข้าแจ้งความแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จึงนำหลักฐานเป็นคลิปจากกล้องหน้ารถของพลเมืองดีที่บันทึกภาพขณะเกิดเหตุรุมทำร้าย
 
นายภัทรพล (น้อง) เปิดเผยว่า คืนวันเกิดเหตุได้ไปเที่ยวที่สถานบันเทิงดังกล่าว ยอมรับว่า ตนดื่มสุรา และ มึนเมา โดยขณะที่กำลังเดินไปเข้าห้องน้ำ ก็พบกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งพูดคุยกันเสียงดัง ตนเองจึงเตือนไปว่าให้เบาเสียงลง จากนั้นตนเองก็ถูกน้องอีกคนรีบลากกลับไปที่โต๊ะ เพราะกลัวจะมีเรื่อง แต่วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวได้เดินมาล็อกคอ ตบ ต่อย กระทืบตนเอง จนการ์ดของสถานบันเทิงต้องเข้ามาช่วยห้าม จากนั้นน้องและพี่ชาย ก็รีบพาตนออกไปขึ้นรถที่อยู่นอกร้านเพื่อกลับบ้าน แต่กลับถูกวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวตามมากระทืบจนหมดสติ ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและมีเลือดคั่งในสมอง มีอาการโคม่านาน 8 วัน เกือบต้องนอนเป็นเจ้าชายนิทรา ซึ่งส่วนตัวก็สงสัยว่าที่คดีล่าช้าเพราะมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังหรือไม่
 
ด้านนายภานุพงษ์  กล่าวว่า หลังจากที่เห็นน้องชายถูกกระทืบหมดสติอยู่ท้ายรถ และผู้ก่อเหตุกว่า 10 คนก็ยังไม่หยุด ยังมีการจับน้องขึ้นมาทำร้ายต่อ ตนไม่รู้จะทำอย่างไร ตะโกนบอกให้หยุดก็ไม่เป็นผล จึงไปหยิบปืนที่เก็บไว้ในรถ ออกมายิงขึ้นฟ้า 1 นัด เพื่อหวังจะห้ามปราม ไม่ได้มีการเล็งใส่ใคร และไม่ได้มีเจตนาจะหาเรื่องหรือทำร้ายใคร ส่วนปืนเป็นปืนของพ่อที่ตนเองขอโอนมาเพื่อใช้ดูแลธุรกิจบ่อปลาที่ จ.นครปฐม แต่ที่บ่อปลาไม่มีที่เก็บ จึงต้องเก็บไว้ในรถ ยอมรับว่าไม่มีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนแต่อย่างใด และได้ยิงปืนจริง ที่ตำรวจแจ้งข้อหาตนเรื่องพกพาอาวุธปืนนั้นไม่ติดใจอะไร แต่ติดใจคดีของน้องชายที่ไม่คืบหน้าและอยากให้ผู้ก่อเหตุทั้งหมดออกมารับผิดชอบ
 
นายภานุพงษ์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุ คู่กรณีได้ติดต่อผ่านคนกลางมาหลายครั้ง ทางครอบครัวก็เรียกค่าเยียวยาไป เริ่มแรก 1 ล้านบาท เพราะขณะนั้นน้องชายนอนเป็นเจ้าชายนิทรา อาการไม่ดีขึ้น แต่เมื่อน้องอาการดีขึ้น ก็มีการลดเงินเยียวยาลงจนล่าสุดเรียกไปที่ 3 แสนบาท เพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกันอีก แต่คู่กรณีก็ยังเงียบ จึงอยากให้ตำรวจดำเนินคดี
 
ด้านนายรณณรงค์ กล่าวว่า คดีนี้หลังได้คลิปกล้องหน้ารถจากพลเมืองดี ที่ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุมีมากกว่า 10 คน แต่เจ้าหน้าที่ยังยืนยันจะดำเนินคดีเพียง 1-2 คนเท่านั้น เพราะผู้ก่อเหตุที่เหลือภาพไม่ชัดเจน จึงนำหลักฐานมาร้องต่อ บช.ก. แทน เพราะติดใจเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจท้องที่และความล่าช้าของคดีที่ผ่านมา 2 เดือน แต่เพิ่งจะมีเลขคดี และเพิ่งจะจับตัว 1 ในผู้ก่อเหตุได้เมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งภาพจากกล้องหน้ารถที่ได้มา พ่อของผู้เสียหายก็หามาเอง ส่วนตำรวจไม่มีความคืบหน้าเรื่องการหาพยานหลักฐานแต่อย่างใด เบื้องต้น พนักงานสอบสวนกองปราบฯ รับเรื่องไว้ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/DikF-4KIMX4

ข่าวที่เกี่ยวข้อง