คนใช้รถยนต์ย่อมหลีกเลี่ยงไม่พ้นเรื่อง “ยาง” เพราะการใช้งานย่อมมีวันถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนยาง แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเมื่อไหร่ควรจะเปลี่ยนยางรถสักที วันนี้เรามีวิธีการดูแลและเช็กลมยางที่ง่าย สะดวกสบาย เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น
เช็กสภาพและอายุ
ยางทุกชนิดจะมีวันที่ผลิตแปะอยู่ตรงแก้มยางด้านนอก ซึ่งเป็นตัวเลข 4 ตัว (WWYY) บ่งบอกสัปดาห์และปีที่ผลิต เช่น 1522 หมายถึง สัปดาห์ที่ 15 ของปี 2022 นั่นเอง ซึ่งตัวเลขนี้เป็นไปตามมาตรฐานสากลที่ใช้โดยทั่วกันทุกประเทศ
โดยยางทุกรุ่นจะมีสิ่งที่เรียกว่า “สะพานยาง” คือปุ่มหรือจุดที่ใช้สังเกตว่ายางของเราสึกหรอมากน้อยเพียงไหน ที่คนไม่รู้เรื่องรถก็สามารถเข้าใจได้ว่า ยางของเราใกล้หมดสภาพแล้ว หรือสังเกตที่ดอกยาง มีตัวเลขง่าย ๆ ระบุว่ายางที่ดีควรจะต้องมีความลึกของดอกยางขั้นต่ำอย่างน้อย 1.6-2 มิลลิเมตร เพราะดอกยางเป็นส่วนที่ช่วยยึดเกาะพื้นถนน และไม่ควรมีร่องรอยความเสียหายของแก้มยาง หรือรอยสึกหรอผิดปกติ เพื่อประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด
สลับยางเมื่อถึงเวลา
การสลับยางเป็นวิธีการใช้งานยางเต็มประสิทธิภาพที่สุดและช่วยยืดอายุยางให้นานที่สุดด้วย โดยใช้การเปลี่ยนตำแหน่งยางไปอยู่ตำแหน่งอื่น ๆ เพื่อให้ดอกยางเสื่อมเสมอกันทั่วทั้งยาง ทั้งนี้รถยนต์แต่ละประเภทมีวิธีการใช้ยางไม่เหมือนกัน เช่น รถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อหรือ 4 ล้อ รถยนต์ขับหน้าหรือขับหลังก็มีวิธีการใช้ยางแตกต่างกันไป การสลับยางของรถแต่ละประเภทจึงไม่เหมือนกัน
ปกติแล้วคนใช้รถมักจะสลับยางทุก ๆ 6 เดือนหรือประมาณ 10,000 กิโลเมตร สามารถสลับยางด้วยตัวเองได้หากมีเครื่องมือเพียงพอ แต่ถ้าไม่สะดวกก็สามารถไปเปลี่ยนได้ที่ศูนย์บริการยาง
เติมลมยางให้เหมาะสม
การเติมลมยางเป็นพื้นฐานของคนใช้รถ รถที่มีลมยางเหมาะสมช่วยได้หลายกรณี ไม่จะว่าประหยัดน้ำมันมากขึ้น รวมถึงยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งผู้ใช้งานรถยนต์สามารถเช็กปริมาณลมยางที่เหมาะสมกับรถตัวเองได้ที่ขอบประตูฝั่งคนขับ ฝาถังน้ำมันหรือคู่มือประจำรถยนต์แต่ละรุ่นได้เลย
ในปัจจุบันมีเครื่องช่วยอำนวยความสะดวกในการวัดลมยางแบบ Real time โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องไปเสียบสายเช็กที่ปั๊มอีกต่อไป กับอุปกรณ์ที่เรียกว่า Tire Pressure Monitoring System หรือเครื่องวัดลมยางแบบติดตั้งภายในล้อ ปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ประกอบด้วยตัวจุกไว้สำหรับติดตั้งกับล้อ ทำหน้าที่จับเซนเซอร์แรงดันลมยางทั้ง 4 ล้อ ทำงานควบคู่หน้าจอแสดงผล เลือกแสดงค่าเป็น Bar หรือ Psi ก็ได้ ซึ่งไม่ต้องใช้แบต หรือเสียบสายชาร์จให้วุ่นวาย เพราะรับพลังงานได้จากแสงอาทิตย์ ติดตั้งง่าย อ่านค่าลมยางได้แบบเรียลไทม์ ไปจนถึงตั้งให้เตือนได้เมื่อลมยางขึ้นสูงหรือลดลงกว่าที่ตั้งไว้
หากใครซื้ออุปกรณ์นี้มาแต่ไม่รู้จะติดตั้งอย่างไร สามารถไปที่ร้านยางทั่วไปให้ช่างผู้ชำนาญติดตั้งได้เลย และอย่าลืมติดสติ๊กเกอร์ให้รู้ ว่าเรานั้นได้ติดตั้งอุปกรณ์ TPMS ไว้แล้ว ทั้งนี้เมื่อติดตั้งอุปกรณ์ TPMS แล้ว นอกจากจะช่วยให้คุณรู้ลมยางได้ตลอดเวลาแล้ว คุณจะได้ความมั่นใจและความปลอดภัยในทุกการขับขี่มากขึ้นแน่นอน
ติดตาม รายการ “แบไต๋ 7HD ไอทีและยานยนต์” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20-12.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม