มาทำความรู้จัก มีม หรือ Meme ที่หลายคนมักใช้ในโซเซียล ผ่านการเขียน การพูด ท่าทาง ภาพล้อเลียน และคำศัพท์ต่าง ๆ ในภาพที่มีความหมายเชิงตลก บุคคลที่คิดคำว่า Meme ขึ้นมาคนแรกคือ ริชาร์ด ดอว์กินส์
มีม หรือ Meme แปลตาม Wikipedia ว่า เป็นรูปแบบของความคิดทางวัฒนธรรม สัญลักษณ์ หรือการปฏิบัติ ที่สามารถส่งผ่านจากจิตใจคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง ผ่านการเขียน การพูด ท่าทาง ภาพล้อเลียน และคำศัพท์ต่าง ๆ ในภาพที่มีความหมายเชิงตลก
คำว่า Meme ในภาษาอังกฤษ เกิดจากการนำคำว่า “Gene” (ยีน ที่แปลว่าสิ่งสืบต่อพันธุกรรม) มาผสมกับภาษากรีกว่า mɪmetɪsmos (มิ-เม-ทิส-มอส) ที่แปลเป็นภาษาไทยว่า “การเลียนแบบอะไรบางอย่าง” หรือแปลออกมาประมาณว่า “การทำอะไรเลียนแบบสืบต่อกัน”
บุคคลที่คิดคำว่า Meme ขึ้นมาคนแรกคือ นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ริชาร์ด ดอว์กินส์ ที่คิดค้นคำว่า Meme ใส่ไว้ในหนังสือ The Selfish Gene (เดอะ เซลฟิช ยีน) ในปี ค.ศ. 1976 ในแนวคิดเกี่ยวกับการอภิปรายทฤษฎีวิวัฒนาการเกี่ยวกับการอธิบายการเผยแพร่ความคิดและปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม
โดยมีมบนอินเทอร์เน็ต ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในยุคนี้ เมื่อย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1996 หากใครจำแอนิเมชันสามมิติชื่อ Dancing Baby หรือ Baby Cha-Cha ที่เป็นเด็กทารกเต้น ถูกใช้เป็น Screen Saver จนกลายเป็นวิดีโอไวรัลติดตาในช่วงปลายยุค 90 นั่นคือ “มีม” ยุคแรก ๆ นั้นเอง
ในเมืองไทยก็มีมีมให้เห็นอยู่ ที่เห็นชัดที่สุดคือ “ชัชชาติผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” ผู้ว่ากทม.คนล่าสุด ที่เคยสวมเสื้อแขนกุดและกางเกงขาสั้นสีดำ เดินเท้าเปล่าถือถุงแกงเข้าวัด นั่นแหละอธิบายคำว่า “มีม” ได้อย่างชัดเจน เพราะภาพนั้นของคุณชัชชาติถูกนำมาตัดต่อ ใส่ตัวหนังสืออะไรต่าง ๆ นับไม่ถ้วน แต่ส่วนใหญ่ก็ออกมาในเชิงอารมณ์ขันเพื่อล้อเลียนสถานการณ์ต่าง ๆ
หรือมีมจากเมืองนอก มีหลายภาพที่เราเห็นกันอย่างคุ้นตากัน ยกตัวอย่างที่เห็นบ่อย ๆ ได้แก่ Success Kid เป็นเด็กชายจ้ำม้ำ สวมเสื้อสีเขียวกำทรายอยู่ริมทะเลหรือเด็กสาวทำหน้ายี้ ชื่อ Side-Eyeing Chloe (ไซด์ อายอิ้ง โคลอี้) หรือภาพชายผิวดำที่เอามือจิ้มที่ขมับ ชื่อมีมว่า Roll Safe
ติดตาม รายการ “แบไต๋ 7HD ไอทีและยานยนต์” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20-12.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม