ครอบครัวเหยื่อร้อง! เก๋งชน ยาย-หลาน สาหัส คู่กรณีไม่เหลียวแล

เกิดเหตุระทึก รถเก๋งพุ่งเข้ามาชนท้ายรถยนต์อีกคันที่กำลังจอด ส่ง ลูก-หลาน อยู่หน้าโรงเรียน จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เด็กนักเรียน และ ยาย ได้รับบาดเจ็บ แต่ปรากฏว่า คู่กรณีไร้การเหลียวแล โชคดีกล้องบันทึกบันทึกภาพไว้ได้ทั้งหมด

 

          รถเก๋งคันหนึ่ง กำลังจอดอยู่ริมถนน เพื่อกำลังจะส่งบุตรหลาน แต่ปรากฏว่าจู่ ๆ มีรถเก๋ง อีกคัน พุ่งมาชนท้าย จนคนในรถเก๋งคันแรกที่อยู่ริมถนน กระเด็นไปคนละทิศละทาง เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา หน้าโรงเรียนบ้านทวดทอง หมู่ที่ 2 ถนนกะโรม บ้านทวดทอง ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช

 

          ล่าสุดผู้สื่อข่าวของเราเดินทางไปที่บ้านผู้เสียหาย อยู่ในซอยชุมแสง ต.โพธิ์เสด็จ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเปิดเป็นร้านชำ พบนางสาวปานตา คำงาม อายุ 29 ปี ผู้เสียหาย พาผู้สื่อข่าวดูภายในบ้าน พบ นางสมร แจ่มสว่าง อายุ 58 ปี และ เด็กหญิง วัย 4 ขวบ นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย 

 

          นางสาวปานตา เล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนและแม่พา ลูกชาย และลูกสาว ไปส่งที่หน้าโรงเรียน ก่อนจะจอดรถริมถนนหน้าโรงเรียน จากนั้นตนเองและแม่ ลงมายืนข้างรถ ก่อนที่ตนจะเดินอ้อมไปท้ายรถ ระหว่างนั้น เก๋งสีดำ พุ่งมาชนอย่างจัง จนแม่ ลูกสาว ลูกชาย และ ตน ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาล พบว่า แม่และลุกสาวของตน ได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

          ส่วนคู่กรณี เป็นชายที่ขับรถคันดังกล่าว ตั้งแต่วันเกิดเหตุ จนถึง วันนี้  (รวม 28 วัน) ไม่เคยแม้แต่จะได้ยินคำขอโทษ หรือช่วยเหลือเยียวยาใด ๆ 

 

          เรื่องคดีทางพนักงานสอบสวน เจ้าของคดีแจ้งตนว่า ได้เรียกคนขับมาพบเพื่อเจราจรไกล่เกลี่ยค่าเสียหายแล้ว แต่คู่กรณีไม่มาตามนัดถึง 2 ครั้ง ล่าสุดพรุ่งนี้ทางตำรวจ นัดคู่กรณีมาเจราจรไกล่เกลี่ยอีกครั้ง ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก แม่ และ ลูกสาวต้องบาดเจ็บล้มป่วยติดเตียง ไม่มีรายได้ เงินเก็บที่มีอยู่ นำมาใช้กับการรักษาอาการบาดเจ็บของแม่และลูกสาว นางสาวปานตา กล่าวต่ออีกว่า ที่น่าแค้นใจลูกเรากับแม่เรานอนโรงพยาบาลอยู่ 15 วันไม่มีแม้แต่จะให้ใครติดต่อมาเลยนอกจากเราโทรไปแต่คุณไม่รับสาย