“โจรใส่วิก” ปลอมตัว งัดตู้ซักผ้าหยอดเหรียญเมืองขอนแก่น เสียหายนับหมื่นบาท

คนร้ายใส่วิก ก่อเหตุงัดตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ 3 ครั้ง เสียหายนับหมื่นบาท ผู้เสียหายเข้าแจ้งความจนเหนื่อย ตำรวจแล้วแต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ ติดป้ายประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส

 

          ภาพจากกล้องวงจรปิด ภายในหอพักแห่งหนึ่ง บ้านขามเจริญ ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองขอนแก่น  สามารถบันทึกภาพคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี สูง 170 เซ็นติเมตร ใส่วิกสีทอง เข้ามาก่อเหตุงัดตู้หยอดเหรียญเครื่องซักผ้า ครั้งแรก เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2565 คนร้ายเดินเข้ามาบริเวณเครื่องซักผ้า ก่อนจะเดินกลับไปที่รถจักรยานยนต์ แล้วกลับมาพร้อมกับเครื่องมือเป็นค้อน แล้วลงมือมืดตู้หยอดเหรียญเครื่องซักผ้าจำนวน 2 เครื่อง ได้เงินประมาณ 2 พันบาทแล้วหลบหนีไป ก่อนจะมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้งเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2565 โดยใช้ค้อนงัดตู้หยอดเหรีญทั้งหมด 6 ตู้ แต่ครั้งนี้ไม่ได้เงินไป

 

          นายสมพงษ์ ลาดลงเมือง เจ้าของหอพัก เล่าว่า ตนเองได้เปิดบริการหอพักรายเดือนพร้อมกับให้บริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญมาเป็นเวลากว่า 7 ปีแล้ว ไม่เคยมีเหตุลักทรัพย์ภายในบริเวณหอพักแต่อย่างใด กระทั่งช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นชายลักษณะสูง ใส่วิกสีทอง เข้ามางัดตู้หยอดเหรียญเครื่องซักผ้า ครั้งแรก 20 มิ.ย. ได้เงินไปประมาณ 2 พันบาท หลังเกิดเหตุได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ เจ้าหน้าที่แนะนำให้เก็บเงินทุกวัน 

 

          แต่ห่างกันเพียง 4 วัน คนร้ายได้เข้ามาก่อเหตุในช่วงเวลาเดียวกันคือประมาณ 04.30 น. โดยคนร้ายใช้ค้อนงัดเครื่องหยอดเหรียญทั้งหมด 6 ตู้ แต่ไม่ได้เงินไปเพราะตนเองได้เก็บเงินออกจากตู้ในช่วงเย็นทุกวัน  ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป 

 

          หลังเกิดเหตุครั้งนี้ ได้นำรูปคนร้ายมาติดประกาศเพื่อแจ้งเตือนประชาชนและหากประชาชนพบเห็นให้ช่วยแจ้งเบาะแสอีกทาง แต่ก็ยังไม่พบเบาะแสหรือจับตัวคนร้ายได้ ล่าสุด เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2565 คนร้ายได้กลับมาก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ที่หอพักที่อยู่ตรงข้ามกันได้เงินไปประมาณ 2000 บาทอีก

 

          นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า พฤติการณ์ของคนร้ายรายนี้ถือว่าสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้ประกอบการธุกิจตู้หยอดเหรียญ เฉพาะตนเองและหอพักข้างกัน รวมทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปและการบริการซ่อมบำรุงอุปกรณ์รวมความเสียหายแล้วนับหมื่นบาท และไม่รู้ว่าจะไปก่อเหตุในพื้นที่ใดอีก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวงว่าคนร้ายจะมาก่อเหตุซ้ำอีก