สุดทน! เมียร้อง ผัวโดนยิงเข้าหน้าจนอัมพาต ค่ารักษาบาน เชื่อคนร้ายแบ็กดี ตำรวจจับไม่ได้

           สาวร้องสื่อช่วย สามีถูกยิงเข้าลำคอ หน้าผับย่านรังสิต จนเป็นอัมพาต ผ่านไป 3 เดือน คนร้ายยังลอยนวล ไร้การเยียวยา เชื่อคนมีอิทธิพลคุ้มครอง 

 

            วันที่ 4 ก.ค. 2565 วราภรณ์ ทองน้อย ภรรยาของผู้บาดเจ็บ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนเห็นเหตุการณ์จากภาพวงจรปิด โดยวันนั้นเมื่อเดือน เม.ย. สามีไปดื่มกับเพื่อน ๆ 7 คน แล้วหนึ่งในเพื่อนของสามีเมา และได้มีการไปขอชนแก้วกับผู้หญิงโต๊ะข้าง ๆ แต่ทางผู้หญิงไม่พอใจ หลังจากนั้นสามีกับเพื่อนอีก 2 คน ออกมาสูบบุหรี่ข้างหน้าร้าน และเจอกลุ่มผู้ชายที่เป็นพวกของผู้หญิงกลุ่มนั้น จึงมีปากเสียงกัน แต่สามีของตนกับเพื่อนได้มีการยกมือไหว้ขอโทษไป ผ่านไปสักพัก ก็มีการตะลุมบอนกัน จนมาเกิดเหตุการณ์ที่สามีของตน ถูกยิงจนล้มลงไป และยิงซ้ำอีกที และเอาเหล็กตีซ้ำด้วย ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นเหตุการณ์ชัดมาก แต่คดีก็ยังไม่คืบหน้ากว่า 3 เดือน ส่วนเบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายที่ตนทราบ จากการถามเพื่อนสามี ช่วงหลังเกิดเหตุใหม่ ๆ เขาหายไป แต่ช่วงหลังมานี้ เห็นเขากลับมาบ้าง แต่ไม่ได้อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง  ทั้งนี้ ก่อนเข้ารายการ "ถกไม่เถียง" ทางตำรวจติดต่อเข้ามาหาตน ว่าคนร้ายจะเข้ามามอบตัวแล้ว แต่ตนก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร          

 

 

            ขณะที่ อาการของสามีเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงคอลงไป ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ในช่วงแรกต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เพราะไม่สามารถหายใจเองได้ แต่ตอนนี้สามารถขยับแขนได้นิดหน่อยยังคงอ่อนแรงอยู่ นิ้วยังไม่สามารถขยับได้ และยังคงมีการให้ออกซิเจนอยู่เรื่อย ๆ แม้จะหายใจเองได้แล้ว ก่อนหน้านี้สามีเป็นเสาหลักของครอบครัว พอเกิดเรื่องขึ้น ตนต้องคอยดูแล ทั้งสามี และลูก และทางครอบครัวฝั่งสามี อีกทั้งลูกติดจากสามี อีก 2 คน  

 

            เบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายที่ตนทราบ จากการถามเพื่อนสามี ช่วงหลังเกิดเหตุใหม่ ๆ เขาหายไป แต่ช่วงหลังมานี้ เห็นเขากลับมาบ้าง แต่ไม่ได้อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง 

 

            อย่างไรก็ตาม เขามีการพยายามเจรจาเพื่อที่จบคดี ซึ่งคนที่มาคุยเป็นผู้ใหญ่ของฝั่งผู้ก่อเหตุ โดยเขาบอกว่าจะเยียวยาเป็นเงิน 1 ล้านบาท และช่วยค่ารักษา โดยให้ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ตนจึงไปคุยกับสามี สามีก็ตกลง หลังจากนั้นจึงไปคุยกับทางผู้ก่อเหตุรอบที่ 2 แต่ในรอบนี้ทางเขาบอกว่าจะยอมจบที่ 7 แสนบาท ไม่รวมค่ารักษาพยาบาล ก็ได้มีการตกลง เพราะไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เพราะตนไม่มีทางเลือก แต่ผ่านมากว่า 3 เดือน ตอนนี้ก็ยังไม่มีการจ่ายเงินเยียวใด ๆ     

 

            ทั้งนี้ ตนเคยขอภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดจากตำรวจ เพื่อนำมาเก็บไว้ส่วนตัว เพราะกลัวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหลักฐาน ซึ่งมีประเด็นที่ทางผู้ก่อเหตุมีทางผู้มีอิทธิพลคอยสนับสนุนอยู่ และผ่านมากว่า 3 เดือน คดีเองก็ไม่มีความคืบหน้าเลย แต่ทางตำรวจก็แจ้งว่าไม่สามารถให้ได้ เนื่องจากจะกระทบกับรูปคดี 

 

            ด้าน สมจิตร สีจะแปง แม่ของผู้บาดเจ็บ เผยว่า ตนสงสารลูกมาก แต่คิดว่าเราทำอะไรไม่ได้ ที่คิดแบบนี้เพราะตนเป็นคนจน ไม่มีอิทธิพลไปทำอะไรได้ ตนเป็นตาสีตาสา เคยคิดอยากจะให้มีใครมาช่วย แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง 

 

 

           "อยากให้มีคนมาดูแล ลูกเขาก็เป็นคนตาดำ ๆ อยากได้ความยุติธรรมกับเขาบ้าง" นาง สมจิตร กล่าว  

 

            ขณะเดียวกัน นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ให้ความเห็นว่า ในกรณีนี้ กระทรวงยุติธรรมสามารถช่วยเหลือได้หลายเรื่อง หลัก ๆ คือช่วยเยียวยาเหยื่อ ซึ่งตอนนี้ทางผู้เสียหายได้ยื่นเรื่องเข้ามาแล้ว กำลังอยู่ในช่วงทบทวนอยู่ โดยจะมีการจ่ายเงินเยียวยาเป็นค่าแรงขั้นต่ำที่วันละ 331 บาท ระยะเวลา 1 ปี และค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 4 หมื่นบาท 

 

            แต่ปัญหาในเคสนี้ คือ การเยียวยาตามปกติ จะเยียวยาคืนกลับไปกับผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายจากบุคคลอื่น โดยที่ตนเองไม่ได้ส่วนเกี่ยวข้อง แต่จากหลักฐานที่ดูมา ทางตำรวจเขาระบุมาว่า ผู้เสียหายอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นจุดที่คณะกรรมการฯ อาจจะพิจารณาไม่จ่ายเงินเยียวยาก็เป็นได้ 

 

            อย่างไรก็ตาม ทางญาติผู้เสียหายอย่าเพิ่งร้อนใจ เพราะยังสามารถดำเนินการได้อีก 2 ชั้น โดยถ้าคณะกรรมการฯพิจารณาไม่จ่ายเงินเยียวยา เราก็สามารถอุทรณ์ได้ว่าผู้เสียหายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องจริง ๆ ถ้าอุทรณ์ไปแล้วยังไม่สำเร็จอีก ก็ให้ไปร้องต่อศาลฯเพิ่ม      

 

 

            "ความจนไม่ใช่เรื่องน่ากลัว กระทรวงยุติธรรมสามารถเป็นที่พึ่งพาได้ เราจะเป็นที่พึ่งให้กับคนจนทุกคน" เกิดโชค กล่าว  

 

            และ ยังสามารถยื่นเรื่องเข้ามาทาง กรมคุ้มครองสิทธิฯ เพื่อให้ส่งหนังสือเร่งรัดคดีอาญาไปทาง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ จะกำกับให้ว่าคดีควรจะดำเนินการในระยะเวลาเท่าใด และยังเป็นที่พึ่งให้กับคนจนได้ มีปัญหาขัดข้องตรงไหนมาหาเราได้ จะมีทนายคอยตอบทุกขั้นตอน ทุกปัญหา และยังมีกองทุนยุติธรรม ในการเข้าไม่ถึงความยุติธรรมด้วย   

 

            ด้าน พ.ต.ท.นิเวศน์ นิลวดี รอง ผกก.สส.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เผยว่า ขณะนี้ มีการติดต่อจากญาติผู้ก่อเหตุว่าจะเข้ามามอบตัว แต่ยังไม่มีการเข้ามา โดยเคสนี้ หลังจากเกิดเหตุ วันรุ่งขึ้นได้มีการประชุมเร่งด่วน และขอหมายอนุมัติหมายจับตั้งแต่วันนั้นเลย โดยในหมายจับ เป็นข้อหา พยายามฆ่าโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ

 

            ส่วนการดำเนินการติดตาม เราได้กดดัน โดยตรวจค้นบ้านเขาทุกทาง ทั้งทางบ้านของผู้ก่อเหตุ และทางบ้านภรรยา แม่ยาย แต่เบื้องต้นก็ยังไม่พบ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเขาหลบหนี เรากำลังดำเนินการ ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ในการตามตัวผู้ก่อเหตุ 

 

            ขณะที่ ประเด็นผู้ก่อเหตุมีแบ็กเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่นั้น เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่ไม่มีการกดดันตำรวจอย่างที่เป็นข่าว และได้มีการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจอย่างเต็มที่ 

 

            ส่วนเรื่องที่ญาติจะขอหลักฐานที่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ต้องเรียนแจ้งว่า ไม่สามารถให้ได้ แต่สามารถเข้ามาดูภาพได้ตลอด เนื่องจากจะมีผลกระทบกับรูปคดี ซึ่งเคสนี้มีการดำเนินการอย่างเป็นความลับ ไม่เคยเผยแพร่ ณ ที่ใด ๆ ส่วนใหญ่ที่ออกข่าว จะเป็นภาพจากนักข่าวที่ติดต่อไปกับสถานที่เกิดเหตุ   

 

    

          "ไม่ว่าคนร้ายจะเป็นใครมาจากไหน ทาง ตร. ยังไงก็เป็นกลางให้กับทุกฝ่าย และพร้อมเดินหน้าหาความจริง พิสูจน์ในความผิดของตัวบุคคลที่กระทำความผิด ยืนยัน ถ้าเจอตัว จับแน่นอนครับ" พ.ต.ท.นิเวศน์ นิลวดี กล่าว

 

ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/8ewwNz80GQE