ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ควง 'แพะคดีฆ่าคนตาย' ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ยุติการยื่นฎีกา หลังศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกฟ้อง พร้อมเผยคดีนี้ ชั้นสอบสวนมีการปั้นแต่งพยาน ยัดข้อหา
วันที่ 29 มิ.ย. 2565 ฤทธิชัย เสือเดช ผู้ที่อ้างว่าตกเป็นแพะคดีฆ่าคนตาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการ ทิน โชคกมลกิจ โดยเล่าว่า วันที่ 24 มิ.ย.2558 ตนอยู่ในค่ายบำบัดยาเสพติด ซึ่งวันนั้นมีตำรวจมาคุยกับครูฝึก ว่าจะเอาตัวตนไป โดยบอกครูฝึกว่าตนไปยิงคนตาย แต่ครูฝึกก็ยังไม่ได้ให้ตัวไป ทางตำรวจจึงกลับไป แล้วตำรวจกลับมาอีกครั้ง โดยเอาหมายจับมายื่น ว่าตนตกเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยใช้อาวุธปืน เกิดเหตุเมื่อ 23 มิ.ย. 2558 เวลา 22.00 น. พอตนรู้ก็ตกใจ เพราะตนไม่ได้ออกไปจากค่ายเลย ตนก็พยายามพิสูจน์ตัวเอง และยินดีให้ทางตำรวจตรวจเพื่อพิสูจน์ว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์
ตนนอนในโรงนอนใกล้ ๆ กับครูฝึก ตรงประตูทางออกโรงนอน ซึ่งทางเข้าออกโรงนอนก็เข้าได้ทางเดียว หน้าต่างทุกบานก็เป็นลูกกรงเล็กข้างใน แถมยังมีทหาร ครูฝึก อาสา คอยเฝ้าผลัดเวรอยู่ตลอด และทางเข้าทางออกค่ายบำบัดยาเสพติด ก็มีทางเดียว คือถนนหน้าค่าย และอีกทางคือว่ายน้ำออกมาที่แม่น้ำแม่กลอง ซึ่งตำรวจกล่าวว่า ตนอาจจะว่ายน้ำออกมาก็ได้
"มันเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะออกไปได้ ถ้าเกิดผมจะออกทางถนนผมจะต้องเจอทหารอีก 2-3 คน เขาตรวจเช็คตลอด เพราะเป็นค่ายปิด" นาย ฤทธิชัย กล่าว
ทั้งนี้ ตนมีหลักฐานว่าอยู่ในค่ายบำบัดยาเสพติด ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ คือ เอกสารลงชื่อในการเข้าค่ายบำบัดยาเสพติด โดยทางครูฝึกจะมีการเช็คชื่อทุก ๆ 1 ชั่วโมง ต้องขานรับชื่อ และเซ็นชื่อด้วย คนในค่ายก็ยืนยันว่าช่วงเวลานั้นตนอยู่ในค่าย
แต่มีพยาน 2 คนในที่เกิดเหตุ กล่าวอ้างในชั้นสอบสวนว่าเห็นตนเป็นผู้กระทำ แต่ในชั้นศาลฯ เขาบอกว่าไม่เห็นหน้าตน และไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว และศาลฯก็ให้พยานชี้ว่าจำเลยยิงตรงไหนบ้าง เขาก็ชี้มั่ว จนศาลฯยังไม่เข้าใจ และศาลฯก็ถามอีกว่า วันที่ชี้ในชั้นสอบสวนวันนั้นชี้ยังไงเล่ายังไง เขาตอบกับศาลฯสั้น ๆ ว่า เขาคิดว่าเป็นตน ตอนนั้นตนนั่งฟังอยู่ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ แต่รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับตน เอาใครมาเป็นพยานชี้ตน ทำให้ชีวิตตนพัง หลังจากนั้นศาลฯก็ถามพยานดังกล่าวว่า คำให้การในชั้นสอบสวน หรือบนชั้นศาลฯ อันไหนจริงกว่ากัน ให้ยึดเอาที่คำให้การอันไหน พยานตอบว่าให้เอาคำให้การบนชั้นศาลฯ
"ในดุลยพินิจในความคิด ก่อนจะเอาใครมาตัดสินชีวิตคน ชีวิตคนนะครับ ขนาดชีวิตสัตว์ยังมีค่าเลย ชีวิตผมพังเลย" นาย ฤทธิชัย กล่าว
นอกจากนี้ก็ยังมีพยานที่เป็นเด็ก 2 คนถูกตำรวจข่มขู่มา ซึ่งตอนนั้นพยานกล่าวอ้างในชั้นสอบสวนว่าตนมาขอยืมรถ เพื่อนำไปก่อเหตุ แต่ในชั้นศาลฯพยานทั้ง 2 คนเล่าว่า มีตำรวจมาจับตนว่าตนให้ผู้ก่อเหตุยืมรถ เป็นการสนับสนุนผู้ก่อเหตุ ซึ่งเด็กก็ได้ปฏิเสธไป เพราะไม่รู้จักกัน ไม่ได้เป็นคนให้ยืมรถ และตำรวจก็ได้ข่มขู่โดยให้ชี้ว่าจำเลยเป็นคนยืมรถ ส่วนคำร้องที่พยานทั้ง 2 เขียนมา พยานบอกว่า เป็นลายมือของพยานจริง แต่ตอนเขียนตนกลัว ทางตำรวจเป็นคนบังคับให้เขียน และโดนทำร้ายด้วย สุดท้ายศาลฯ ถามว่าคำให้การบนชั้นศาล หรือในชั้นสอบสวนเป็นของจริง พยานตอบว่า คำให้การบนชั้นศาลฯเป็นของจริง
สุดท้ายตนขอฝากถึงอัยการสูงสุดว่าให้เอาคดีออกไปจากชีวิตตนที ตนกล่าวด้วยสัตย์จริง ว่าตนเป็นผู้ถูกกระทำ ไม่ได้เป็นผู้กระทำ แม้ตนจะเคยมีประวัติเสพยา แต่ตอนนี้ตนกลับมาใช้ชีวิตปกติแล้ว อยากทำงานสุจริต เลี้ยงดูแม่
"แม้ผมจะเคยมีประวัติติดยา แต่ตอนนี้ผมเป็นสีขาวแล้ว ขอชีวิตให้ผมสีขาวเถอะ อย่าเอาสีมาป้ายผมเลย" นาย ฤทธิชัย กล่าว
ด้าน รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เผยว่า นัยยะสำคัญที่ต้องไปสำนักงานอัยการสูงสุด แบ่งได้เป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือการที่จะยื่นฎีกาต่อทางศาลฎีกาได้ ต้องให้ทางอัยการสูงสุดท่านเซ็นรับรอง หรือผู้พิพากษาที่พิจารณาสำนวนเป็นคนรับรอง ว่าคดีแพ้มาแล้ว 2 ศาลฯ กับอีกส่วนหนึ่ง คดีนี้อัยการจังหวัดสมุทรสงครามสั่งไม่ฟ้อง แต่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องเขา เลยต้องเอาคำพิพากษามายื่นที่สำนักงานอัยการสูงสุด ให้ท่านดู ว่ามีใครเอาหลักฐานเท็จไปหลอกอัยการหรือเปล่า ถ้าเกิดมีหลักฐานเท็จ ก็อยากจะรู้ว่าท่านจะดำเนินการยังไงกับผู้ที่ปั้นหลักฐานเท็จขึ้นมา มีบทลงโทษหรือไม่ และหากยื่นฎีกาผ่าน ก็จะพาจำเลยไปรับเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม เพราะก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีหน่วยงานไหนให้ความช่วยเหลือคดีนี้เลย
ทั้งนี้ ที่ตนคิดว่ามีหลักฐานเท็จ เพราะถ้าไม่มีหลักฐานเท็จ คดีนี้ไม่น่าขึ้นมาถึงชั้นศาลฯได้ เนื่องจากพยานหลักฐานต่าง ๆ ก็ยืนยันว่าเขาอยู่ในค่ายบำบัดยาเสพติด ซึ่งศาลฯก็รับฟัง และอยู่ในสำนวนการสอบสวนด้วย แต่ทำไมต้องเอาจำเลยขึ้นมาถึงชั้นศาลฯ นอกจากนั้นในชั้นศาลฯ ก็มีพยานบางคนที่บอกว่าโดนตำรวจข่มขู่
ตอนแรกตนคิดว่าเคสนี้ เขาจะมีหลักฐานเด็ดว่าจำเลยเป็นคนก่อเหตุ แต่มันเด็ดตรงที่ว่า ไปบังคับพยานให้เขาพูด ดังนั้นต้องสอบกลับไปว่าตำรวจในโรงพักทำแบบนี้ ผู้กำกับรู้เห็นไหม ผู้การรู้เห็นไหม และผู้บัญชาการภาค รู้เห็นหรือไม่ ทั้งที่อัยการจังหวัดสมุทรสงครามท่านก็สั่งไม่ฟ้อง ดังนั้นคนที่แย้งก็ต้องผู้บัญชาการภาค เลยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อย่างไรก็ตาม หากระดับผู้ปฏิบัติการทำหลักฐานมาแต่ไม่น่าเชื่อถือ แต่ผู้บังคับชัญชาไม่ตรวจสอบ ลูกน้องทำอะไรมาก็ส่งไป ดังนั้นแปลว่าแพะมันไม่ได้เกิดขึ้นยากเลย
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com