ผู้เสียหายเหตุ “ไฟไหม้สำเพ็ง” ทั้งพนักงานและเจ้าของร้าน เล่าวินาทีระทึก! ช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้วอดอาคารทั้ง 6 คูหา กับรายการ "ถกไม่เถียง" พร้อมหาผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
คุณรัฐนันท์ กิตติฤดีกุล ลูกชายเจ้าของตึกที่ไฟไหม้ และอยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าเหตุการณ์วันที่หม้อแปลงระเบิดที่สำเพ็ง กับรายการถกไม่เถียงว่า ช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ตนได้รับแจ้งจากพี่ชายว่าหม้อแปลงที่อยู่หน้าร้านมีควันขึ้น จึงรีบกลับไปดูที่ร้านและติดต่อการไฟฟ้า จากนั้นเริ่มมีน้ำไหลซึมออกมาจากหม้อแปลง อีกประมาณ 1 นาทีหม้อแปลงได้เกิดระเบิดขึ้น ตนได้รีบวิ่งออกมาจากร้าน และไฟได้ลามเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว
คุณสุรชาติ กิตติฤดีกุล เจ้าของตึกที่ไฟไหม้ เล่าต่อว่า ตนได้รับแจ้งว่าร้านของตนถูกไฟไหม้ จึงได้รีบติดต่อลูกชายและพนักงานในร้าน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ทัน เพราะสินค้าในร้านเป็นกระดาษบรรจุภัณฑ์ จึงถูกไฟไหม้ไปอย่างรวดเร็ว หลังเกิดเหตุมีหลายหน่วยงานได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือตนแล้ว ทั้งกรมแรงงาน ประกันสังคม และกทม. แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งตนยังกังวลในเรื่องของการพิสูจน์หลักฐาน โดยหวังว่าผลสรุปจากพนักงาน จะเป็นข้อเท็จจริงที่มีหลักฐานน่าเชื่อถือ
คุณเนียง นบ ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวต่อว่า วันเกิดเหตุตนอยู่กับลูก ส่วนสามีไปทำงานที่ร้าน ช่วงที่เกิดเหตุมีคนมาตามให้ไปที่ร้าน เนื่องจากมีเหตุเพลิงไหม้และสามีของตนทำงานอยู่ เมื่อไปถึงที่ร้านตนตามหาสามีไม่เจอ แต่ไม่คิดว่าจะถูกไฟครอกเสียชีวิต จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เข้ามาช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของตน
ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้ให้ความคิดเห็นว่า หากพิสูจน์ว่าต้นเพลิงมาจากหม้อแปลงไฟฟ้าจริง การไฟฟ้าจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ทั้งหมด แต่หากพิสูจน์ว่าไม่ได้เป็นความผิดของการไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ควรเข้าไปตรวจสอบเพิ่มเติมในส่วนอื่นด้วย เพราะเหตุการณ์นี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ ทั้งหมดนี้อยู่ที่กระบวนการในการพิสูจน์หลักฐานด้วย ว่าน่าเชื่อถือเพียงใด เพราะหม้อแปลงไฟฟ้าที่เป็นวัตถุพยานสำคัญถูกยกออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนผู้เสียหายในเหตุเพลิงไหม้ตนยินดีช่วยเหลือทุกคน เพื่อที่จะได้รับความเป็นธรรมและประหยัดค่าใช้จ่าย