อัจฉริยะ เผย ทลายบ่อนรัชดา เป็นฝีมือตน เหตุ ต้องการเอาคืน หลังไม่ได้รับความเป็นธรรม ด้าน คดีแตงโม ยัน พร้อมสู้ต่อ ลั่น ยังไม่ถอดใจ แจง ไม่เคยพูดว่ามีคลิปกรีดขาแตงโม
อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยกับรายการ "ถกไม่เถียง" ว่า เรื่องบ่อนรัชดาตนรู้ว่ามีการจับกุมเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย. 2565 ซึ่งเขาปิดข่าวเงียบกันหมด ตนจึงส่งเรื่องให้นักข่าว ว่าเป็นบ่อนคาสิโนอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ใกล้ สน.สุทธิสาร เพียง 900 เมตร และไม่มีบก.น.2 ร่วมจับด้วย เป็นการจับเพียว ๆ ของ 191 ตนตั้งคำถามว่า ทำไมถึงไม่ย้าย 5 เสือโรงพัก
ทั้งนี้ ตนอยากเอาคืน เนื่องจาก ผู้การตำรวจนครบาล 2 สั่งให้ออกหมายเรียกตน 4 คดีในวันเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนเขาบอกแล้วว่าไม่สามารถออกหมายเรียกตนไม่ได้เพราะเป็นผู้ต้องหา แต่มีการสั่งหลาย สน. ออกหมายเรียกตน ตนมองว่าเป็นตำรวจที่ไม่มีความเป็นธรรม ตนเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สน.พหลโยธิน มา ยังไม่ทันได้สอบปากคำ พนักงานสอบสวนถามตนว่าจะไปพบอัยการได้เมื่อไหร่ และคดีนี้ไม่ได้เกี่ยวกับ ผู้การ บก.น. 2 เลย ทำไมไม่ปล่อยไปตามกลไกของทางโรงพัก
ตนมองว่าแบบนี้คือไม่ให้ความเป็นธรรมกับตน ตนพร้อมทุบหม้อข้าวให้เลย ตนรู้อยู่แล้วว่าเขามีบ่อนที่ไหนบ้างในการดูแลของ บก.น. 2 พหลโยธิน 24/2 สุทธิสาร มีอีก 4 บ่อน ตนบอกข้อมูลกับตำรวจไปหมดแล้ว ให้ไปดำเนินการกันเอง
ขณะที่ คดีของแตงโม อัจฉริยะ กล่าวว่า ตนมีความเชื่อว่าอัยการอาจจะสั่งไม่ฟ้องทั้งหมด 6 คน เนื่องจาก ประมาทร่วม 5 คนเป็นไปไม่ได้ อย่างมากหากประมาทร่วมก็คือคนขับเรือ คือ นายโรเบิร์ต หรือ เจ้าของเรือ คือนายปอ ส่วนคนอื่นประมาทยังไงนั้น เขียนคำบรรยายฟ้องยากมาก และคนที่บงการนั้น บงการยังไง ในเมื่อตอนนั้นตตำรวจยังไม่ได้รับออกเลขคดีเลย ซึ่งตอนนั้นเขาอาจจะบอกว่า ถ้าเมาอยู่ก็ยังไม่ต้องไปพบตำรวจ ถือเป็นการให้คำปรึกษา ไม่นับว่าเป็นกุนซือ
ทั้งนี้ การจะสั่งฟ้อง ต้องรอดูทางอัยการว่าจะสั่งฟ้องอย่างไรในวันที่ 7 ก.ค. 2565 หากอัยการฟ้องไม่ครบทั้ง 6 คน คดีจะต้องส่งไปที่ตำรวจภูธรภาค 1 ว่ามีความเห็นแย้งการสั่งฟ้องหรือไม่ ถ้าตำรวจมีความเห็นแย้ง ให้สั่งฟ้องทั้ง 6 คน คดีก็จะส่งต่อไปที่สำงานอัยการสูงสุดพิจารณา ในความผิดฐานประมาท ขณะที่อีกหนึ่งกรณี อาจมีการเปลี่ยนข้อหา หลังจากการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งถ้าหากอัยการมีความเห็นสอดรับกับคำฟ้องที่ตนยื่นไปก่อนหน้านี้ ตนก็ไม่จำเป็นต้องไต่สวนแล้ว โดยให้คุณแม่มาเป็นโจทก์ร่วม คุณแม่จะแต่งตั้งทนายคนไหนมาทำก็ได้ ทีนี้หากคุณแม่ถอนตนเลย ก็จะเสียสิทธิ์ที่ตนฟ้อง มาตรา 288, 289 ไว้ก่อนหน้านี้ ตนจึงขอเตือนคุณแม่ด้วยความหวังดีว่าให้รอตนไต่สวนมูลฟ้องก่อนก็ได้ ตนยังคงอยากทำคดีนี้อยู่ หากคุณแม่ไม่ถอนตน ตนพร้อมเดินหน้าเต็มที่กับคดี หลักฐาน พยาน ของตนพร้อมขึ้นศาลฯ ทั้งหมด และตนเชื่อว่า พยานทั้ง 10 ปากของตน หากได้ขึ้นศาล ตนเชื่อว่ามีมูล
อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่ตนมีอยู่ในมือ หากคุณแม่ถอนตน หลักฐานเหล่านี้ตนก็จะเก็บเอาไว้เพื่อสู้คดีกับคนที่จะฟ้องตนกลับ ส่วนประเด็นคลิปหลักฐานการกรีดขา ตนยืนยันว่าไม่เคยพูดว่ามีคลิปนี้ แต่เป็นการบรรยายว่าบาดแผลขาข้างขวาของแตงโม มีการใช้มีดกรีดขา และมีคนช่วยจับขาไว้ พร้อมมีคราบเลือด อย่างไรก็ตาม ตนเคยให้หลักฐานคุณแม่ดูบางส่วน แต่คุณแม่ไม่สนใจเอง ด้วยความที่คุณแม่อายุมากแล้ว ตนเลยไม่อยากถือสาอะไรมาก
ประเด็นทนายเดชา ออกมาพูดว่าอัจถอดใจแล้ว ตนขอพูดว่า เราพร้อมทุกอย่าง หากไม่สู้ก็ไม่ใช่อัจฉริยะ ทั้งนี้ตนได้ดำเนินคดีกับนายเดชาไปทั้งหมด 5 คดีแล้ว โดยในพุธ พฤหัสที่จะถึงนี้ จะมีอีกหนึ่งคดี ส่วนเรื่องของบังแจ็ค ที่ตนพูดว่าบังแจ็คลวงโลก เพราะว่า บังแจ็คหลอกคุณแม่มาโดยตลอด ผ้าขาวที่เขาส่งมาให้กรรมาธิการ ผลการชันสูตรออกมา ไม่ได้ความเกี่ยวข้องกับแตงโมเลย เรื่องของทนายตั้ม ที่บอกว่าจะเข้ามาช่วยตนนั้น ตนขอปฏิเสธ เพราะมีทีมงานของตนอยู่แล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้น ตนรับผิดชอบเอง คุณแม่ไม่ต้องกลัวถูกฟ้องเลย เพราะเราได้ทำบันทึกไว้แล้ว ว่าสิ่งที่ตนทำอยู่ขณะนี้ เป็นการกระทำของเราเอง ถ้าหากจะฟ้อง ให้มาฟ้องที่ตน ไม่ต้องไปฟ้องที่คนอื่น ยินดีรับทุกอย่าง ยอมติดคุกได้เพื่อคดีแตงโม
ส่วนนิทาน "ยายแจ๋ม กิ่งเพชร" ที่ตนเคยเล่าไปนั้นตนยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณแม่เลย เป็นนิทานที่ตนอยากเล่า เปรียบเทียบเพื่อเป็นอุทาหรณ์เท่านั้นเอง
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com
+ อ่านเพิ่มเติม