‘อัจฉริยะ’ งานเข้ารัวๆ คดีแตงโมยังไม่ทันหาย แฉบ่อนใต้ดินรัชดาก็เข้ามาแทรก!

ตร.บุกจับบ่อนย่านรัชดา รวบนักพนันกว่า 52 ราย ทั้งคนไทย จีน เมียนมา มาเลเซีย พร้อมเงินสดของกลางอีกกว่า 4 ล้านบาท 'อัจฉริยะ' อ้าง เป็นคนแจ้งเบาะแสเอง เผยยังมีอีกหลายพื้นที่ ตนพร้อมแฉทุกคนที่เกี่ยวข้อง

 

            วันที่ 27 มิ.ย. 2565 อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ตนมารู้เรื่องว่ามีการจับกุมเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย. 2565 ซึ่งเขาปิดข่าวเงียบกันหมด ตนจึงส่งเรื่องให้นักข่าว ว่าจับบ่อนนี้เงียบ และเป็นบ่อนคาสิโนอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ใกล้ สน.สุทธิสาร 900 เมตร และไม่มีบก.น.2 ร่วมจับด้วย ที่เขาอ้างมาอันนั้นตอแหล เป็นการจับเพียว ๆ ของ 191 ในบันทึกการจับกุมก็ไม่มี บก.น.2 เรื่องนี้ตนตั้งคำถามว่า ทำไมถึงไม่ย้าย 5 เสือโรงพัก  

 

 

            ทั้งนี้ เรารู้กันอยู่แล้วว่าหม้อข้าวของตำรวจก็คือ บ่อนการพนัน  สถานบันเทิง ตนทุบหม้อข้าวอยู่แล้ว ตนอยากเอาคืน เนื่องจาก ผู้การตำรวจนครบาล 2 สั่งให้ออกหมายเรียกตน 4 คดีในวันเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนเขาบอกแล้วว่าไม่สามารถออกหมายเรียกตนไม่ได้เพราะเป็นผู้ต้องหา แต่มีการสั่งหลาย สน. ออกหมายเรียกตน ตนมองว่าเป็นตำรวจที่ไม่มีความเป็นธรรม ตนเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สน.พหลโยธิน มา ยังไม่ทันได้สอบปากคำ พนักงานสอบสวนถามตนว่าจะไปพบอัยการได้เมื่อไหร่ และคดีนี้ไม่ได้เกี่ยวกับ ผู้การ บก.น. 2 เลย ทำไมไม่ปล่อยไปตามกลไกของทางโรงพัก    

 

            ตนมองว่าแบบนี้คือไม่ให้ความเป็นธรรมกับตน ตนพร้อมทุบหม้อข้าวให้เลย ตนรู้อยู่แล้วว่าเขามีบ่อนที่ไหนบ้างในการดูแลของ บก.น. 2 พหลโยธิน 24/2 สุทธิสาร มีอีก 4 บ่อน ตนบอกข้อมูลกับตำรวจไปหมดแล้ว ให้ไปดำเนินการกันเอง    

 

            ส่วนที่มาของเรื่องบ่อนรัชดา มันมีคดีของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ที่ไปจับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์มา 3 คน คนหนึ่งมีหมายจับ อีก 2 คนไม่มีหมายจับ ปรากฏว่า 2 คนนี้ มีการวิ่งเต้นที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อขอให้เอาตัวไปประกันที่ศาลฯ ตกลงราคากันที่ 2.7 ล้านบาท ซึ่งมี นายเสริฐ และ นายเจ๊ก มาเคลียร์ช่วยผู้ต้องหา ซึ่งทั้งสองคน เกี่ยวข้องกับบ่อนรัชดา ตนจึงไปรายงาน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก ว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง ท่านก็ตั้งกรรมการสอบสวน พบว่า นายเสริฐ และ นายเจ๊ก และตำรวจ สน.ห้วยขวางมีส่วนเกี่ยวข้อง สุดท้ายผู้ต้องหา 2 คนนี้ ถูกพาหลบหนีไปยังปอยเปตแล้ว ทางบิ๊กโจ๊กก็ไม่ยอม เป็นที่มาของการรู้ว่าบ่อนรัชดามีที่ไหนบ้าง     

 

            ขณะที่ คดีของแตงโม เรื่องที่คุณแม่จะถอนฟ้องหรือไม่นั่น ตนคิดว่าเป็นสิทธิ์ของคุณแม่เลย ว่าจะถอนหรือไม่ถอน เพราะตนเป็นผู้รับมอบอำนาจตามกฎหมายเท่านั้น หากเขาประกาศถอนฟ้อง ตนก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าหากยังไม่ถอนฟ้อง ต้องรอไปไต่สวนวันที่ 20 ก.ค. 2565 ที่ศาลฯมีการนัดไต่สวนเรื่องหนังสือมอบอำนาจ และหนังสือแต่งตั้งทนาย ถ้าเกิดว่าคุณแม่ให้ตนทำต่อ วันที่ 22 ส.ค. 2565 ก็จะมีการไต่สวนมูลฟ้อง คนบนเรือทั้ง 5 คน 

 

            อัจฉริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนมีความเชื่อว่าอัยการอาจจะสั่งไม่ฟ้องทั้งหมด 6 คน เนื่องจาก ประมาทร่วม 5 คนเป็นไปไม่ได้ อย่างมากหากประมาทร่วมก็คือคนขับเรือ คือ นายโรเบิร์ต หรือ เจ้าของเรือ คือนายปอ ส่วนคนอื่นประมาทยังไงนั้น เขียนคำบรรยายฟ้องยากมาก และคนที่บงการนั้น บงการยังไง ในเมื่อตอนนั้นตตำรวจยังไม่ได้รับออกเลขคดีเลย ซึ่งตอนนั้นเขาอาจจะบอกว่า ถ้าเมาอยู่ก็ยังไม่ต้องไปพบตำรวจ ถือเป็นการให้คำปรึกษา ไม่นับว่าเป็นกุนซือ

 

            ทั้งนี้ การจะสั่งฟ้อง ต้องรอดูทางอัยการว่าจะสั่งฟ้องอย่างไรในวันที่ 7 ก.ค. 2565 หากอัยการฟ้องไม่ครบทั้ง 6 คน คดีจะต้องส่งไปที่ตำรวจภูธรภาค 1 ว่ามีความเห็นแย้งการสั่งฟ้องหรือไม่ ถ้าตำรวจมีความเห็นแย้ง ให้สั่งฟ้องทั้ง 6 คน คดีก็จะส่งต่อไปที่สำงานอัยการสูงสุดพิจารณา ในความผิดฐานประมาท ขณะที่อีกหนึ่งกรณี อาจมีการเปลี่ยนข้อหา หลังจากการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งถ้าหากอัยการมีความเห็นสอดรับกับคำฟ้องที่ตนยื่นไปก่อนหน้านี้ ตนก็ไม่จำเป็นต้องไต่สวนแล้ว โดยให้คุณแม่มาเป็นโจทก์ร่วม คุณแม่จะแต่งตั้งทนายคนไหนมาทำก็ได้ ทีนี้หากคุณแม่ถอนตนเลย ก็จะเสียสิทธิ์ที่ตนฟ้อง มาตรา 288,289 ไว้ก่อนหน้านี้ ตนจึงขอเตือนคุณแม่ด้วยความหวังดีว่าให้รอตนไต่สวนมูลฟ้องก่อนก็ได้ ตนยังคงอยากทำคดีนี้อยู่ หากคุณแม่ไม่ถอนตน ตนพร้อมเดินหน้าเต็มที่กับคดี หลักฐาน พยาน ของตนพร้อมขึ้นศาลฯ ทั้งหมด และตนเชื่อว่า พยานทั้ง 10 ปากของตน หากได้ขึ้นศาล ตนเชื่อว่ามีมูล                 

 

 

            อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่ตนมีอยู่ในมือ หากคุณแม่ถอนตน หลักฐานเหล่านี้ตนก็จะเก็บเอาไว้เพื่อสู้คดีกับคนที่จะฟ้องตนกลับ ส่วนประเด็นคลิปหลักฐานการกรีดขา ตนยืนยันว่าไม่เคยพูดว่ามีคลิปนี้ แต่เป็นการบรรยายว่าบาดแผลขาข้างขวาของแตงโม มีการใช้มีดกรีดขา และมีคนช่วยจับขาไว้ พร้อมมีคราบเลือด ซึ่งหลักฐานข้อมูลนี้ที่ตนได้มาตนขอไม่กล่าวถึง เพราะมันจะกระทบกับคนอื่น แต่หลักฐานชิ้นนี้มีผู้เชี่ยวชาญยืนยันได้แน่นอนว่าแบดแผลดังกล่าว เกิดจากของมีคม ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ อย่างไรก็ตาม ตนเคยให้หลักฐานคุณแม่ดูบางส่วน แต่คุณแม่ไม่สนใจเอง ด้วยความที่คุณแม่อายุมากแล้ว ตนเลยไม่อยากถือสาอะไรมาก       

  

            ประเด็น ทนายเดชา ออกมาพูดว่าอัจฉริยะถอดใจแล้ว ตนขอพูดว่า เราพร้อมทุกอย่าง หากไม่สู้ก็ไม่ใช่อัจฉริยะ เพียงแต่ว่าวันนี้อยู่ที่คุณแม่ตัดสินใจ ทั้งนี้ตนได้ดำเนินคดีกับนายเดชาไปทั้งหมด 5 คดีแล้ว โดยในพุธ พฤหัสที่จะถึงนี้ จะมีอีกหนึ่งคดี ที่เขาไลฟ์สดกับนักข่าว พาดพิงถึงครอบครัวตน ทำให้ตน และครอบครัวเสียหาย ตนจะฟ้องจนกว่าจะหยุดพูด มีเรื่องเดียวที่ตนรับไม่ได้เลย ทนายเดชา กล่าวว่าตนไปตบทรัพย์คนจีน ถ้าหากเขากล้าขอโทษตน ต่อหน้าประชาชน และบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง ตนพร้อมให้อภัย เรื่องนี้เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ตนสร้างมา 10 กว่าปี ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้

 

 

            ส่วนเรื่องของ บังแจ็ค ที่ตนพูดว่าบังแจ็คลวงโลก เพราะว่า บังแจ็คหลอกคุณแม่มาโดยตลอด ผ้าขาวที่เขาส่งมาให้กรรมาธิการก็เป็นผ้าขาวลวงโลก ผลการชันสูตรออกมา ไม่ได้ความเกี่ยวข้องกับแตงโมเลย คราบเลือดก็ไม่ใช่ของแตงโม เป็นของผู้ชาย และอีกข้อหนึ่งคือ มีคลิปเสียงที่ตนไปเรียกเงินแซน ถ้าเกิดมีจริงแซนคงเอาออกมาเผยแพร่แล้ว ไม่ต้องรอบังแจ็คหรอก และหลักฐานที่เขานำมาเผยแพร่มันเป็นเรื่องลวงโลก เอาออกมาเพื่อเรียกเรตติ้งเท่านั้น หลักฐานของตนไม่ได้นำของบังแจ็คมาเลย             

 

"เราถือว่าสิ่งที่บังแจ็คพูด มันก็คือกระดาษเช็ดก้นเอาไว้เช็ดแล้วก็ทิ้งไป ไม่มีความหมายเลย" คุณอัจฉริยะ กล่าว 

 

            เรื่องของทนายตั้ม ที่บอกว่าจะเข้ามาช่วยตนนั้น ตนขอปฏิเสธ ตนไม่ได้อยากปฏิเสธใคร แต่ตนมีทีมงานของตนอยู่แล้ว ตนมีมติคือไม่อยากให้คนนอกเข้ามายุ่ง ถ้าอยากดูให้ไปดูที่ศาลฯ หากมีอะไรเกิดขึ้น ตนรับผิดชอบเอง คุณแม่ไม่ต้องกลัวถูกฟ้องเลย เพราะเราได้ทำบันทึกไว้แล้ว ว่าสิ่งที่ตนทำอยู่ขณะนี้ เป็นการกระทำของเราเอง ถ้าหากจะฟ้อง ให้มาฟ้องที่ตน ไม่ต้องไปฟ้องที่คนอื่น ยินดีรับทุกอย่าง ยอมติดคุกได้เพื่อคดีแตงโม      

 

            ส่วนนิทาน "ยายแจ๋ม กิ่งเพชร" ที่ตนเคยเล่าไปนั้นตนยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณแม่เลย เป็นนิทานที่ตนอยากเล่า เปรียบเทียบเพื่อเป็นอุทาหรณ์เท่านั้นเอง

ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com

 

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/Ne7qqYEfK-g