ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม.เปิดปฏิบัติการ “คอสเพลย์อวตาร” บุกรวบหนุ่มล่อลวงลูกสาวตำรวจวัยเพียง 15 ปี สร้างสัมพันธ์ผ่านโลกออนไลน์ ก่อนจะล่อลวงให้ถ่ายภาพลับ ตามด้วยการขู่แบล็กเมล์ สุดท้ายเด็กหญิงวัย 15 ปี เกิดความเครียดตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง
พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการ “คอสเพลย์อวตาร” นำหมายค้นศาลจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อจับกุมนายปิยบุตร (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทางอินเตอร์เน็ต เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศกับเด็กและสตรี
จากการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหา พบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จากการตรวจค้นเจอไฟล์รูปภาพและคลิปวิดีโอโป๊เปลือยเกี่ยวกับเด็กเป็นจำนวนมาก พร้อมกับพบหมายเรียกเข้าให้ปากคำคดีความลักษณะเดียวกันจากตำรวจพื้นที่อื่น ๆ อีกหลายหมาย จึงได้คุมตัวมาดำเนินคดี
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายปิยบุตร ให้การภาคเสธ บอกแค่ว่า ได้เก็บคลิปภาพเด็กสาวในโทรศัพท์จริง แต่เป็นเด็กสาวที่เคยพูดคุยกันหรือเป็นแฟนสาว รวมถึงภาพจากทวิตเตอร์ต่าง ๆ เพราะเป็นคนชอบสะสมภาพสาวแต่งคอสเพลย์ ไม่ได้มีการข่มขู่หญิงสาวเหล่านั้นแต่อย่างใด แต่เมื่อตำรวจสอบสวนหนักขึ้น สุดท้ายก็ยอมรับว่า เคยข่มขู่เหยื่อว่าจะเอาภาพไปปล่อยตามสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ จริง แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นฆ่าตัวตาย
ด้านคุณพ่อของเด็กสาว เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถดูแลปกป้องลูกสาวได้ โดยก่อนเกิดเหตุลูกสาวมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่ยอมไปไหนมาไหนด้วย กักตัวอยู่แต่ในห้อง ซึ่งลูกสาวมีความชื่นชอบในเรื่องของคอสเพลย์ ตั้งแต่ช่วงประมาณ ป.6 แล้ว อีกทั้งลูกสาวยังได้หาชุดมาให้ผู้แต่งคอสเพลย์รายอื่นเช่า จนสามารถหายรายได้นับหลักแสน โดยตนและภรรยาได้เตือนให้ลูกระมัดระวังตัวเรื่องการแต่งคอสเพลย์ถ่ายรูป เพราะเกรงว่าจะไม่เหมาะสม โดยลูกสาวรู้จักคนร้ายตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงปลายเดือนมีนาคม
โดยระหว่างที่คุณพ่อได้บอกเล่าถึงความรู้สึกการสูญเสียลูกสาวนั้น ถึงกับทำให้ ผู้บังคับบัญชาทั้ง 3 คนน้ำตาไหลไปตามๆกัน โดยเฉพาะ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ ปปป.ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าผู้บังคับบัญชาของคุณพ่อท่านนี้
พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวภายหลังดาบตำรวจทรงภพเปิดใจกับสื่อมวลชนว่า พวกเราทั้ง 3 คนต่างเป็นพ่อคน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ลูกจะตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรม ดังนั้นเราจะนิ่งเฉยต่อไปไม่ได้ ต้องเร่งทำอะไรสักอย่างเพื่อปกปรามอาชญากรรมลักษณะนี้ และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนรู้เท่าทันอาชญากรรมในโลกโซเชียลมีเดีย
นายพันธ์ศักดิ์ อาภาขจร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสื่อสาร ให้มุมมองน่าสนใจว่า มิจฉาชีพทุกวันนี้มีการพัฒนาวิธีการหาช่องทางใหม่ๆเพื่อก่อเหตุอาชญากรรม โดยเฉพาะช่องทางในโลกออนไลน์ ซึ่งมีการสร้างอวตารในโลกออนไลน์เพื่อเข้าหาเหยื่อ และสร้างความน่าเชื่อถือและโน้มน้าวใจเหยื่อโดยใช้ข้อมูลต่างๆมาเป็นส่วนประกอบ
สำหรับกรณีนี้ สะท้อนให้เห็นว่า คนร้ายเลือกกลุ่มเหยื่อที่มีอายุไม่มาก เพื่อง่ายต่อการหลอกล่อและโน้วน้ามใจเหยื่อ ซึ่งจะพบว่า ปัจจุบัน แนวคิดของเด็กสมัยใหม่ที่เติบโตมากับโลกออนไลน์ จะมีความมั่นใจในข้อมูลที่ตัวเองได้รับรู้ และมองว่า ทุกอย่างมีความง่ายไปหมด ทั้งการหาเงิน หรือการสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้งกับพฤติกรรม “กระหายชื่อเสียง หรือ หิวแสง”
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/Lvu7dGI3UnU
+ อ่านเพิ่มเติม