หนุ่มนักปั่น วัย 20 ถูกผู้ร่วมแข่งขัน ผลัก-กระแทกจนล้มบาดเจ็บ ในงานแข่งจักรยาน Bike 4 All จักรยานเสียหายหลายจุด คู่กรณียังคงนิ่ง ยันตัวเองไม่ผิด สุดท้าย สมาคมกีฬาจักรยานฯ ลงดาบ แบน 1 ปี
วันที่ 22 มิ.ย. 2565 จักรพัชร วรศิริ (เตอร์) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ โดยเล่าว่า ตอนที่ตนถูกผลักล้ม เกือบจะถึงเส้นชัยอยู่แล้ว หลังจากปั่นมาระยะทางกว่า 64 กิโลเมตร จำได้ว่าถูกกระแทกจากข้างขวา แล้วก็ล้มลงไปเลย ตอนนั้นก็งงว่าล้มได้ยังไง เพิ่งมารู้ว่าโดนผลักตอนอยู่ที่บ้าน เพราะเพื่อนส่งคลิปเหตุการณ์มาให้
บาดแผลที่เจ็บมีที่เอว และศอกบวม ไม่ถึงขั้นกระดูกหัก แต่จักรยานเกิดความเสียหายหนัก ล้อคาร์บอนแตก ราคากว่า 5 หมื่น เพิ่งซื้อก่อนมาแข่งได้ 2 วัน แถมเฟรมบุบ มือเปลี่ยนเกียร์ก็ถลอก ส่วนตัวไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ปกติการแข่งขันก็จะมีการเบียดกันบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นนี้
ด้าน เรวดี นิลส์สัน (ยุ้ย) ผู้จัดการทีมของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า น้องเตอร์โทรมาบอกตนหลังแข่งว่าล้ม ตนก็นึกว่าเขาล้มเอง ก็ได้มีการปลอบใจกัน แต่พอตอนเย็นมีคนส่งคลิปเหตุการณ์มาให้ ก็พบว่าเป็นการจงใจทำให้ล้ม จึงแชร์ลงเฟซบุ๊กให้คนเห็นเลยว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ และได้ส่งเมลไปที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้าง ทั้งนี้ได้แจ้งความไว้แล้วด้วย ทางตำรวจลงบันทึกเอาไว้ว่า เจตนาทำร้ายร่างกาย ตนเสียใจ แต่สงสารน้องเตอร์มากกว่า เพราะน้องตั้งใจฝึกซ้อมมาก แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต
ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุยังไม่ได้ติดต่อกลับมา มีแต่ทางทีมต้นสังกัดติดต่อมา โดยบอกว่าทีมไม่ได้เกี่ยวข้องกับนักแข่งดังกล่าว ได้ให้ยืมเสื้อแข่งเฉย ๆ พูดเหมือนจะปัดความรับผิดชอบ ตนก็ตอบกลับไปว่า คนที่เป็นทีมที่ส่งนักแข่งไป ยังไงก็ต้องแสดงเจตนาขอโทษก่อนหรือเปล่า
ขณะที่ พ.อ.อ.วิสุทธิ์ กสิยะพัท (โค้ชตั้ม) หัวหน้าผู้ฝึกสอนจักรยานถนนทีมชาติไทยและรองประธานฝ่ายเทคนิค เผยว่าหลังจากเข้าเส้นชัยแล้ว ผลการแข่งขันก็ยึดเอาตามนั้น กล้องจากการแข่งขันก็เห็นว่าน้องล้ม แต่ไม่เห็นเหตุจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งตามกฎการแข่ง หากจะประท้วงผลการแข่งขัน ต้องประท้วงหลังการแข่งจบภายใน 30 นาที แต่พอเห็นคลิปจากผู้จัดการทีมผู้เสียหายแชร์มา ทางสมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ สอบสวนเหตุในทันที เรียกประธานเทคนิค ประธานฝ่ายผู้ตัดสิน และเรียกนักกีฬาในรุ่น AV35 ที่อยู่ในจังหวัดพิจิตรมาคุยกัน คุยกันแล้วก็พบว่าผิดร้อยเปอร์เซนต์ มีการทำผิดรุนแรง เพราะครั้งแรกก็ไปผลักเขา ครั้งที่สองไปกระแทกเขาจนล้ม พอแข่งขันจบก็หายไปเลย ไม่มาขึ้นรับรางวัลด้วย
ทั้งนี้จึงได้ตัดสิน แบนใบอนุญาตนักกีฬาคนดังกล่าว 1 ปี หลังจากนี้เขาไม่สามารถทำการลงแข่งขันที่ไหนได้อีก หากสอบสวนเหตุพบว่ามีการกระทำผิดหนักกว่านี้ สามารถแบนเพิ่มได้ แบน 1 ปี เป็นเพียงเบื้องต้น โดยนักกีฬาคนนี้มีการกระทำผิดคือ ไม่มีน้ำใจนักกีฬา และไม่ขึ้นรับรางวัลด้วย
หลังจากเกิดเหตุ ตนก็สืบทราบจากคนในพื้นที่ว่า ผู้ก่อเหตุ มีพฤติกรรมค่อนข้างรุนแรง มีการส่งข้อความข่มขู่ผู้ร่วมแข่งขัน ก่อนการแข่งขันด้วย
ส่วนที่ผู้ต้องหา กล่าวอ้างว่าตนไม่ผิดนั้น ตนคิดว่า เขาน่าจะดูพวกการแข่งขันโปรทัวร์มาเยอะเกินไป เพราะในการแข่งขันโปรทัวร์ จะมีการกระแทกกันตลอด แต่ไม่ถึงขั้นเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง อย่างไรก็ตามกีฬาจักรยานมันเป็นกีฬาสุภาพบุรุษ บางทีรับน้ำไม่ได้ ทีมอื่นรับไปให้ก็มี เหตุการณ์แบบนี้ตนเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกในเมืองไทย
ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ความเห็นในมุมกฎหมายว่า เท่าที่ดูคลิปเหตุการณ์มา ตนแยกได้ 2 กรณี กรณีที่เขาผลักคนอื่น ถือว่า เขาตั้งใจแต่กระทำไปไม่บรรลุผล เป็นการพยายามที่จะทำร้ายร่างกาย 1 ข้อหาเหมือนกัน รับโทษ 2 ใน 3 ของความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ซึ่งความผิดฐานทำร้ายร่างกายรับโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท
ส่วนกรณีของน้องเตอร์ ตนมีความเห็นว่า กรณีนี้มีการชักศอกที่เล็งเห็นผลแน่นอน เพราะปั่นมาด้วยความเร็ว หากมีอะไรมากระแทกยังไงก็ล้มแน่นอน การชักศอกมันเล็งเห็นอยู่แล้วว่าทำให้เสียการทรงตัว ถือว่าผิดข้อหาทำร้ายร่างกาย มาตราประมวลกฎหมายอาญา 295
ทั้งนี้เรื่องทรัพย์สินที่เสียหายต่าง ๆ สามารถเรียกค่าเสียหายกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้พนักงานสอบสวนเรียกเอากับผู้กระทำผิดได้เลย ค่ารักษาพยาบาลก็สามารถเรียกร้องได้เช่นกัน
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/OxvmFaMZvmY