เปิดผลศึกษา โรคขาดมือถือไม่ได้! “NOMOPHOBIA” - Electreon วางแผน สร้างถนนชาร์จรถ EV “วิ่งไป ชาร์จไป!”

667 ครั้ง

21 มิ.ย. 2565

แชร์ข่าวไปที่

Asurion เผยผลศึกษา โรคขาดมือถือไม่ได้ (NOMOPHOBIA) พบ Baby Boomers ติดมือถือยิ่งกว่า Gen Y - Z ด้าน Electreon วางแผน สร้างถนนที่สามารถชาร์จรถ EV แบบไร้สายได้เลยขณะที่รถวิ่ง “วิ่งไป ชาร์จไป!”

เปิดผลศึกษา โรคขาดมือถือไม่ได้! “NOMOPHOBIA”

การติดมือถือเป็นโรคอย่างหนึ่ง มีชื่อเรียกว่าโรค “NOMOPHOBIA” (โนโมโฟเบีย) ซึ่งย่อมาจาก NO MObile PHone phOBIA หมายถึง คนที่รู้สึกวิตกกังวลเมื่อไม่ได้ใช้มือถือ

ในปี 2019 บริษัท Asurion (อชัวเรียน) บริษัทไอที รับประกันมือถือ ในสหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่ผลการศึกษาที่ระบุว่า ชาวอเมริกันเช็กโทรศัพท์มือถือของตนเองเฉลี่ย 96 ครั้งต่อวัน หรือทุก 10 นาทีครั้ง (ไม่นับเวลา 8 ชั่วโมงที่เป็นการนอนหลับ)

ล่าสุด Asurion อัปเดตผลการศึกษาในปีนี้ โดยเก็บข้อมูลจากผู้ใหญ่ชาวอเมริกันหลายช่วงวัยจำนวน 2,000 ราย พบว่า 3 ใน 4 ของผู้เข้าร่วมระบุว่า “การมีสมาร์ตโฟนนั้นจำเป็นมากกว่าการมีของหรูหรา” และมีคนจำนวนถึง 20% ที่ตอบว่า “ไม่อยากที่จะใช้ชีวิต โดยขาดสมาร์ตโฟนนานกว่า 2-3 ชั่วโมง”

สิ่งที่น่าสนใจคือ ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนในยุค Baby Boomers (เบบี้ บูมเมอร์) ช่วงอายุ 57-75 ปี จำนวน 75% และ Gen X (เจน เอ็กซ์) 76 % คิดว่ามือถือเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งมากกว่า Gen Z (เจน แซด) (9-24 ปี) ที่รู้สึกว่าจำเป็น 71% และสุดท้ายเลยคือ Gen Y (เจน วาย) (24-41 ปี) ที่เห็นด้วยว่ามือถือเป็นสิ่งจำเป็นน้อยที่สุด 68%

Asurion ยังพบว่า อัตราการเช็กมือถือนั้นเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า โดยชาวอเมริกันเช็กมือถือตัวเองเฉลี่ย 352 ครั้งใน 1 วัน นั่นหมายความว่า เฉลี่ยแล้วในทุก ๆ 3 นาที ชาวอเมริกันหยิบมือถือขึ้นมาเช็ก 1 ครั้ง

อิสราเอล วางแผน สร้างถนนชาร์จรถ EV “วิ่งไป ชาร์จไป!”

บริษัท Electreon (อิเล็คทรีออน) สัญชาติอิสราเอล ประกาศวางแผนจะสร้างถนนเส้นแรกในสหรัฐอเมริกา ที่มาพร้อมระบบการชาร์จไร้สายสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งอยู่บนถนนเส้นนั้น โปรเจกต์ทดลองดังกล่าวตั้งเป้าไว้ว่าจะสำเร็จภายในปีหน้าในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน โดยมีระยะทาง 1 ไมล์ หรือ 1.6 กิโลเมตร

ตัวถนนจะทำงานโดยการฝังคอยล์ชาร์จไว้ใต้ดิน เชื่อมกับแผ่นพลังงานที่จะสามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งติดตั้งตัวรับ (Receiver) และวิ่งผ่านถนนเส้นดังกล่าวได้ ระบบของถนนนี้ จะไม่ปล่อยไฟฟ้าหากไม่มีตัวรับที่ทำงานอยู่ ดังนั้น ผู้คนและสัตว์ที่ข้ามถนนจะไม่ได้รับอันตรายจากการถูกช็อต

สำหรับปริมาณไฟฟ้าที่ได้จากการชาร์จขึ้นอยู่กับความเร็วของการขับขี่ แต่เนื่องจากถนนมีความยาวเพียง 1.6 กิโลเมตร จึงยังไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ของรถที่วิ่งผ่านได้จนเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ทำได้เพียงชาร์จแบตเพิ่ม เพื่อให้รถที่วิ่งผ่านสามารถวิ่งได้ไกลขึ้นเท่านั้น

Electreon เผยว่า ระบบชาร์จไร้สายนี้จะเป็นประโยชน์กับเส้นทางที่รถประจำทางวิ่ง รวมทั้งพื้นที่ที่รถติด เพราะรถยนต์ไฟฟ้าอาจจะแบตหมดระหว่างทาง ตรงนี้ก็สามารถชาร์จแบตเพิ่มได้เลย

ติดตาม รายการ “แบไต๋ 7HD ไอทีและยานยนต์” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20-12.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35