ครอบครัวเหยื่อพระมายากลเสกเงินในตู้เซฟ กลายเป็นกระดาษ ร้องความเป็นธรรม ด้านกันจอมพลังเข้าช่วยเหลือ พร้อมแฉพฤติกรรมพระรูปนี้ ว่าไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก
คุณชาญชัย มั่นคง ได้เปิดเผยกับรายการถกไม่เถียงว่า รู้จักกับพระรูปนี้ประมาณ 20 ปีแล้ว ช่วงหลัง 3 - 4 ปี พระรูปนี้มีการมาขอเงินตนไปทำรายการธรรมะผ่านวิทยุ โดยมาขอเงินอยู่หลายครั้ง ครั้งละหลายพันถึงหลักหมื่นบาท เนื่องจากครอบครัวสนใจในธรรมมะ จึงไม่คิดเอะใจในช่วงแรก
คุณณัจฉรียา ตุลาสุด เล่าถึงเรื่องตู้เซฟของพระรูปนี้ว่า พระรูปนี้เรียกตนพร้อมครอบครัว ไปรับเงินที่ยืมไป คืนเป็นเงินสกุลยูโรที่อยู่ในตู้เซฟ ซึ่งเป็นของลูกศิษย์ชาวต่างชาติที่เสียชีวิตไปแล้ว แปลงเป็นเงินไทยประมาณ 4 ล้านบาท ให้พี่สาวของตนไปแลกเงิน เนื่องจากพระไม่สามารถแลกเงินได้ โดยจะต้องมีการจ่ายงิน เพื่อดำเนินเอกสารแลกเงินจากพระรูปนี้ เป็นการโอนเงินหลายครั้ง รวมกว่า 2 ล้านบาท
หลังจากนั้น คุณณัจฉรียาได้ติดต่อไปที่พระรูปนี้ เรื่องขอรหัสเปิดตู้เซฟแต่ยังไม่สามารถเปิดได้ ล่าสุดยังมีการขอยืมเงินอีกจำนวน 2 หมื่นบาท แต่ตนไม่ได้โอนเงินให้ เนื่องจากไม่มีเงินแล้ว แต่พระรูปนี้ยังแนะนำให้พี่สาวตนไปกู้เงินมาให้ สุดท้ายเป็นหนี้จนต้องประกาศขายบ้าน ในที่สุดตนจึงตัดสินใจเปิดตู้เซฟ พบกระดาษA4 แทนที่จะเป็นเงินยูโร ตามที่พระรูปนั้นกล่าวอ้าง จึงไปขอความช่วยเหลือจากหมอปลาและคุณกันจอมพลัง
คุณกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง กล่าวว่าได้พาผู้เสียหายไปที่สำนักนายกฯ ไปมอบหนังสือร้องเรียนของความช่วยเหลือ จากสำนักงานพุทธศาสนา เมื่อสืบเพิ่มเติมพบว่า พระรูปนี้เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ได้ทำการโกงเงินลักษณะนี้มาก่อนแล้วถูกปลดจากตำแหน่ง นอกจากนี้ยังมีประวัติเคยนำเงินบริจาค ไปเปิดโรงแรมอยู่กับผู้หญิงหลายครั้ง
คุณกัน จอมพลัง กล่าวต่อว่า ที่เข้ามาช่วยเหลือผู้เสียหาย ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะทำงานข้ามหน้าข้ามตาเจ้าหน้าที่ ตนตั้งใจที่จะช่วยเหลือการทำงานของสำนักงานพุทธศาสนา โดยนำข้อมูลที่ได้มามอบให้ดำเนินการต่อ เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความช่วยเหลือเร็วขึ้น