ประเด็นร้อนที่ตามกันมาเป็นสัปดาห์แล้ว สำหรับเหตุฆ่าคู่ สามี-ภรรยาชาวไทย สัญชาติไต้หวัน และนำซุกเอาไว้ท้ายรถ ก่อนผู้ก่อเหตุจะหนีมากบดานในไทย ล่าสุดตามจับได้แล้ว 2 ราย ยังเหลืออีก 1 รายที่ยังหลบหนีอยู่
โดย นายสันติ เป็นผู้จ้างวาน ให้นายธนวัฒน์ กับนายสามารถ ลงมือฆาตรกรรม โดยเอาท่อนเหล็กไปตีคู่ สามี ภรรยา ซึ่งตัวภรรยา ก็ตั้งท้องลูกแฝด รวมเป็น 4 ศพ ค่าจ้างสำหรับจ้างวานคือ 5 แสนบาท ให้ไปก่อน 2 หมื่นบาท เสร็จแล้วก็หนีกลับมาที่ไทย เป็นนายสันติ กลับมาวันที่ 8 มิ.ย. 65 และนายธนวัฒน์ กับนายสามารถ กลับมาวันที่ 11 มิ.ย. 65 ทั้งนี้ นายสันติ และ นายธนวัฒน์ ตำรวจตามจับมาได้แล้ว เหลือนายสามารถที่ตำรวจกำลังเร่งล่าตัวมาดำเนินคดี
สำหรับสาเหตุ ยังคงพุ่งเป้าไปที่ความขัดแย้งระหว่างนายสันติ กับผู้เสียชีวิต ส่วนการดำเนินคดี อาจจะมีบางช่วงต้องไปดำเนินคดีที่ไต้หวัน ในเรื่องของการอำพรางศพ จะมีตำรวจ 6 นายเดินทางไปสะสางคดีที่ไต้หวัน ส่วนการดำเนินคดีข้อหาฆาตรกรรมจะดำเนินคดีที่ประเทศไทย
ภายหลังจากการแถลงข่าว นายยิ่งยศ แซ่หลี่ พี่ชายของหญิงสาวผู้เสียชีวิต ได้นำกระเช้าขอบคุณ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และยังบอกว่าเขายังเชื่อมั่นในกระบวนการ และกฎหมายทุกอย่างของประเทศไทย เชื่อว่ายังศักดิ์สิทธิ์
นายยิ่งยศ กล่าวเพิ่ม เกี่ยวกับกรณีที่ผู้ต้องหามีการอ้างว่าน้องสาวของตนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทามืดนั้น ว่า น้องสาวของตนเป็นคนขยันทำงานเก็บหอมรอมริบไม่จำเป็นต้องไปยุ่งเกี่ยวกับอะไรแบบนี้
นอกจากนี้ ยังขอบคุณรายการ "ถกไม่เถียง" ที่เป็นสื่อกลาง นำเรื่องราวต่าง ๆ นำข้อมูลไปแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ ส่วนบรรยากาศของงานศพ น้องสาวและสามีที่ไต้หวัน ตนขอไม่ลงรายละเอียดในเรื่องนี้ เพราะครอบครัวยังทำใจไม่ได้ และก็ขอบคุณคนที่ไปร่วมงานของน้องสาว
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/NNmkioupHxg
+ อ่านเพิ่มเติม