สุดสลด คนไทยฆ่าคนไทยด้วยกันเอง หลังพบศพสามีภรรยาคนไทยในไต้หวัน ถูกฆ่าหมกศพไว้ในรถข้างสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน สลดซ้ำฝ่ายหญิงกำลังท้องลูกแฝด ส่วนคนร้ายหลบหนีกลับไทย
คุณยิ่งยศ แซ่หลี่ พี่ชายของล่ามมี่ ผู้เสียชีวิตที่ไต้หวัน เผยกับรายการถกไม่เถียงว่า ตนได้รับคลิปเสียงจากผู้หวังดี ใจความหลักในคลิปเสียงคือ กล่าวหาว่า คุณมี่น้องของตนเป็นผู้บงการ เป็นเจ้าของกิจการ ค้าขายของผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปล่อยเงินกู้ เรื่องคอลเซ็นเตอร์ ตนเคยถูกนายสันติชักชวนไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ผ่านน้องสาว จึงทำให้รู้ว่าคลิปเสียงที่ส่งมาไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนเรื่องของผิดกฎหมาย น้องสาวตนถูกกล่าวหาว่า ไปรับของผิดกฎหมายแล้วจ่ายเงินไม่ครบ เจ้าของสินค้าจึงข่มขู่ไปที่นายสันติ จึงกลายเป็นมูลเหตุจูงใจให้นายสันติ ฆ่าคุณมี่ ตนจึงต้องการที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้น้องสาว จากเรื่องที่ถูกใส่ร้าย
ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ให้ความคิดเห็นว่า ในคลิปเสียงมีความผิดปกติ เนื่องจากคนที่หลบหนีคดีอยู่ ไม่น่าจะมีเวลามาเล่าเหตุจูงใจในสถานการณ์แบบนี้ หลังจากที่ได้ฟังคลิปเสียง ดร.มนต์ชัยคาดว่า การที่นายสันติอัดคลิปเสียงไว้ เพื่อให้เป็นเหตุบรรเทาโทษ หากถูกจับและจะได้รับโทษเบาที่สุด
เรื่องมูลเหตุจูงใจ คุณยิ่งยศคาดว่า มาจากที่นายสันติติดหนี้คนอื่นเป็นจำนวนมาก รวมถึงติดหนี้น้องสาวตนด้วย ตนเคยเตือนน้องสาวแล้วว่าให้ระวังนายสันติ และให้พาแฟนไปไหนมาไหนด้วย จนสุดท้ายก็เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น ส่วนมูลเหตุจูงใจจากที่สื่อไต้หวันเสนอข่าวคือ ขัดแย้งเรื่องธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตรา ซึ่งคุณยิ่งยศคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่แรงงานไทยในต่างประเทศ จะต้องมีคนคอยช่วยเหลือด้านการส่งเงินกลับไทย โดยมีค่าบริการเป็นสินน้ำใจเล็กน้อย
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่าทางญาติของนายสันติ ได้ติดต่อกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและกองปราบปราม เพื่อที่จะขอมอบตัว ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการประสานงาน และได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเรียบร้อยแล้ว ตำรวจได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่แล้ว เพื่อสกัดกั้นการหลบหนีออกนอกประเทศ ส่วนเรื่องการประกันตัว เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา และอยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่
ด้านการดำเนินคดี คุณยิ่งยศ ต้องการให้มีการดำเนินคดีในไต้หวัน หากดำเนินคดีที่ไทยอาจจะทำได้ยาก เนื่องจากนายสันติก่อเหตุที่ไต้หวัน และอยากให้นายสันติไปขอขมาศพน้องสาวของตน เนื่องจากเป็นการกระทำที่อุจอาจมาก อยากให้คนร้ายสำนึกผิด ทนายแก้วได้ชี้แจงว่าตามกฎหมายไทย จะต้องมีการดำเนินคดีในประเทศไทย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานงานกับไต้หวัน ในการส่งหลักฐานและดำเนินการต่าง ๆ และคาดว่าโทษสถานเดียวของคดีนี้คือ "ประหารชีวิต"
ถกไม่เถียง
ทิน โชคกมลกิจ
ลามมี่
คนไทย
ไต้หวัน
สามีภรรยา
ฆ่าหมกศพ
ท้ายรถหรู
รถไฟความเร็วสูงเถาหยวน
ลูกแฝด
หนี้
ฆ่าล้างหนี้
หลบหนี