สายเขียวต้องรู้ "อันตราย-ไม่อันตราย" ปลดล็อกกัญชา "ทำได้-ทำไม่ได้" : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

940 ครั้ง

14 มิ.ย. 2565

แชร์ข่าวไปที่

“สายเขียว” ทั้งหลายโปรดฟังทางนี้ คู่มือ “เสรีกัญชา” สำหรับมือใหม่-รุ่นใหญ่มือโปร เล่าสู่กันฟังโดยผู้มีประสบการณ์ “บีม พลังใบ” พร้อมไขข้อสงสัยต่าง ๆ “ทำได้-ทำไม่ได้” โดยผู้เชี่ยวชาญ ผ่านรายการ “ถกไม่เถียง”

“คุณ ศรัณยู ประชากริช (บีม)” หรือ “บีม พลังใบ” ดารานักแสดง ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นการเปิดเสรีกัญชาว่า สำหรับต่างประเทศแล้ว ใช้เวลาระยะหนึ่งเพื่อให้ประชาชนมีความรู้ มีวุฒิภาวะมากพอ จึงสามารถเปิดเสรีได้ ในประเทศไทยก็เช่นกัน ได้มีการเตรียมความพร้อมมาระดับหนึ่งแล้ว แต่สายเขียวบางท่านยังแยกไม่ออกว่าถึงความแตกต่างของกัญชาแต่ละประเภท ทำให้นำไปใช้อย่างผิดวิธี จนทำให้เกิดเหตุสลดขึ้น

สำหรับคุณบีมแล้ว มองว่าการเปิดเสรีกัญชาในไทย ทำให้สายเขียวทั้งหลายมีเฮ เพราะทำให้กัญชาได้ขึ้นจากดินเป็นธุรกิจที่ต่อยอด รวมถึงความทัดเทียมต่างชาติ ซึ่งไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่มีการเปิดเสรีกัญชา แต่การนำส่วนผสมของกัญชาไปใช้โดยไม่บอกกล่าวผู้บริโภคให้ชัดเจนนั้นเปรียบได้กับการฆ่าคนโดยไม่เจตนา เพราะกัญชามีฤทธิ์ทำให้คนตายได้ โดยผู้บริโภคแต่ละท่านมีค่าความต้านทานที่ไม่เท่ากัน

คุณบีมแนะนำเกี่ยวกับการใช้กัญชาว่า สามารถเลือกใช้กัญชาแต่ละประเภทตามความเหมาะสม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ แต่ไม่แนะนำสำหรับผู้เป็นโรคซึมเศร้า หรือมีภาวะทางจิตผิดปกติ เพราะจะทำให้มีอาการหนักกว่าเดิม และสำหรับมือใหม่ที่อยากลอง ควรเริ่มต้นจากเบา ๆ ก่อน

“คุณ แบงค์เล็ก ตัวน้อย” ผู้มีประสบการณ์เคยใช้กัญชา เผยว่า ตนเคยลองสูบกัญชาเพียงครั้งเดียว และเมื่อมีเสรีกัญชาแล้ว ตนต้องการปลุกโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ดูแลสุขภาพ สำหรับความเพลิดเพลินส่วนตัว โดยต้องการปลูกไว้เพียง 5 ต้นเท่านั้น

“ดร.ภก. อนันต์ชัย อัศวเมฆิน” ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ ได้ยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเสรีกัญชา ในประเด็นที่ว่า สิ่งใดทำได้-ทำไม่ได้ ว่า

สามารถปลูกได้ ทุกวัตถุประสงค์ แต่ต้องจดแจ้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
สามารถซื้อหรือครอบครองได้
สามารถใช้น้ำมันกัญชาเพื่อรักษาโรคหรือศึกษาวิจัยได้

* มีสิ่งเดียวที่เป็นยาเสพติดคือสารสกัดที่มีสารเมาหรือ THC เกิน 0.2% *

ทั้งนี้ ดร.ภก. อนันต์ชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มีการแบ่งกลุ่มผู้ใช้กัญชาออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งต้องแยกวิธีการควบคุม ได้แก่

กลุ่มผู้ใช้อยู่แล้ว แทบจะไม่ต้องควบคุมอะไร เพราะส่วนมากเป็นผู้ที่ใช้เป็น
กลุ่มเฉย ๆ หรือกลุ่มผู้ที่ไม่รู้ เป็นกลุ่มที่น่ากังวลมากที่สุด เพราะมักจะได้รับผลกระทบจากความไม่รู้ เช่นการทานอาหารที่มีส่วนผสมของดอกกัญชา ซึ่งดอกกัญชาเป็นสิ่งที่กฎหมายห้ามในการปรุงอาหาร
กลุ่มอยากลอง เช่น ผู้ที่อยากลองสูบ ซึ่งการสูบสามารถออกฤทธิ์ได้เร็ว ทำให้เกิดอาการมึนเมา และอีกพฤติกรรมการใช้ที่น่ากลัวกว่าคือการกิน ซึ่งไม่แสดงอาการในทันที แต่จะสะสมจนเกิดอาการมึนเมาที่ยาวนาน และแก้ได้ยากมาก

ส่วนประเด็นคำถามที่ว่า การสูบกัญชาในที่สาธารณะ มีความผิดหรือไม่? ดร.ภก. อนันต์ชัย ตอบคำถามนี้ว่า หากสูบแล้วรบกวนผู้อื่น จะมีความผิดตาม พรบ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากมีการแจ้ง เจ้าหน้าที่อาจว่ากล่าวตักเตือนได้ แต่หากมีการฝ่าฝืนอีก ก็จะถูกดำเนินคดี

ดร.ภก. อนันต์ชัย ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ณ วันนี้ มีทั้งผู้ที่อยากใช้และไม่อยากใช้ เรายังพอมีเวลาอยู่ ควรให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อผู้ที่ไม่อยากใช้กัญชาต้องไม่ได้รับโทษ ฝากถึงสายเขียวว่า “คุณใช้ของคุณตามกฎหมาย แต่ต้องไม่เดือดร้อนคนอื่น” นโยบายเสรีกัญชานี้จะสัมฤทธิ์ผลจริง ๆ ขึ้นอยู่กับทุกคนในประเทศไทย

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com