จากเหตุการณ์ ไรเดอร์หนุ่มถูกพี่ชายอดีตแฟนสาวรุมทำร้าย เนื่องจากไม่ยอมรับเด็กในท้อง ทั้งสองฝ่ายได้เปิดเผยที่มาของเหตุการณ์ กับรายการถกไม่เถียง พร้อมยืนยันว่าจะพยายามพูดคุยแก้ปัญหา เพื่อให้เรื่องราวทั้งหมดจบลงด้วยดี
นายอธิป พลจันทึก ผู้เสียหายที่ถูกรุมทำร้าย เปิดเผยกับรายการถกไม่เถียงว่า สาเหตุที่ถูกรุมทำร้ายเนื่องจากอดีตแฟนสาวของตนตั้งท้อง หลังจากที่เลิกรากันไป ฝ่ายหญิงอยากให้มาคุยแก้ปัญหากัน เนื่องจากตนไม่มั่นใจว่าเป็นลูกของตนเพราะมีการนอกใจระหว่างที่คบหากัน เมื่อพี่ชายของฝ่ายหญิงทราบเรื่องจึงได้ยกพวกมารุมทำร้ายตน
นายอธิปเผยต่อว่า ตนได้ไปที่โรงพักอีกครั้งเพื่อให้ปากคำและชี้ตัวผู้ต้องหา จากภาพในกล้องวงจรปิด ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 5 คน รุมกระทืบตน ทำให้ได้รับบาดเจ็มหลายแห่ง ทั้งศีรษะแตก หูและนิ้วเกือบฉีกขาด ระหว่างที่ถูกทำร้าย ตนได้พยายามนำมีดพับที่พกติดตัว มาใช้เพื่อเอาชีวิตรอด
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ยืนยันว่ากรณีที่ผู้เสียหายนำมีดพกออกมาใช้เป็นการพยายามป้องกันตัว ซึ่งฝ่ายผู้ก่อเหตุพยายามแจ้งความกลับ จากกรณีนี้
นางกันยา พลจันทึก แม่ของผู้เสียหาย เผยว่าตนรู้สึกเอ็นดูฝ่ายหญิง เนื่องจากได้ไปมาหาสู่ที่บ้านหลายครั้ง หลังจากที่เลิกรากันไปฝ่ายหญิงได้บอกตนว่าเธอท้อง ตนบอกไปว่าหากเป็นลูกของลูกชายจริง ตนพร้อมรับผิดชอบเต็มที่ แต่ไม่ได้รับการติดต่อจากครอบครัวฝ่ายหญิงเพื่อมาพูดคุยแก้ปัญหา
ด้านคุณปิ่น อดีตแฟนสาวของผู้เสียหาย เผยว่าตนได้พูดคุยกับครอบครัวฝ่ายชายแล้ว ยืนยันว่าเด็กในท้องเป็นลูกของนายอธิป แต่ฝ่ายชายไม่ยอมรับ ตนเพียงอยากให้ฝ่ายชายไปขอโทษแม่ และอยากได้เงินที่ตนให้ยืมคืนไป พร้อมกล่าวอีกว่าได้พูดคุยกับฝ่ายชายตลอดหลังจากที่เลิกรากัน และฝ่ายชายได้ไปมีแฟนใหม่ อีกทั้งยังส่งข้อความมาด่าตนอย่างรุนแรง
นายอธิปยอมรับว่าหลังจากที่เลิกรากับฝ่ายหญิง แล้วตนได้ไปคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งในเฟซบุ๊ก จึงได้ตั้งสถานะคบหากัน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เรื่องการส่งข้อความด่าทอตนยืนยันว่าส่งจริง เนื่องจากฝ่ายหญิงเข้ามายุ่งเกี่ยวกับแฟนคนใหม่ ส่วนเรื่องที่ตนไม่ยอมรับลูกในท้อง เนื่องจากตนคิดฝ่ายหญิงอาจจะท้องกับชายอีกคน
วันที่เกิดเหตุ คุณปิ่นได้พูดคุยกับพี่ชาย ว่าตนท้องกับนายอธิป แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้ฟ้องให้พี่ชายไปทำร้ายนายอธิป ตนรับรู้เหตุการณ์อีกทีเมื่อมีคนโทรมาให้ไปที่โรงพยาบาล จึงได้ทราบว่านายอธิปถูกพี่ชายของตนและพวกรุมทำร้ายร่างกาย พร้อมกล่าวว่าตนยินดีที่จะปรับความเข้าใจกับครอบครัวฝ่ายชาย เพราะไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะบานปลายขนาดนี้
นายเอกภพแนะนำทั้งสองฝ่ายว่าให้ใช้ลูกของทั้งคู่เป็นที่ตั้ง การพูดคุยต้องเห็นแก่ลูกที่จะเกิดมาเป็นสำคัญ ทุกอย่าง แม้แต่คดีความสามารถให้อภัยกันได้ ถ้าทั้งสองครอบครัวหันหน้ามาพูดคุยกัน ทุกอย่างก็จะสามารถจบลงได้ด้วยดี