แก๊งพี่ชายฉุน หนุ่มทำน้องสาวท้องไม่รับ ยกพวกรุมสกรัมจมกองตีน แม่ฝ่ายชายสุดทน ขอแฉกลับ !

จากกรณีไรเดอร์หนุ่ม ถูกแก๊งพี่ชายของอดีตแฟนรุมกระทืบ บาดเจ็บสาหัส มูลเหตุจากทำแฟนเก่าท้อง แต่ตนยังไม่มั่นใจ เพราะฝ่ายหญิงเองก็มีใหม่ จนนำไปสู่การทำร้ายร่างกายครั้งนี้    

 

 

            วันที่ 8 มิ.ย. 2565 อธิป พลจันทึก หรือเอ็ม ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ล่าสุด เพิ่งไปสถานีตำรวจมา โดยมีการสอบปากคำ และให้ชี้ตัวผู้ต้องหา โดยตอนนี้รู้ตัวแล้ว 4 คน จากคนที่ทำร้ายทั้งหมด 5 คน สถานการณ์ตอนที่เกิดเหตุ ตนเพิ่งส่งอาหารเสร็จ แล้วกลับเข้ามาที่บ้าน ก็เจอฝั่งผู้ต้องหามาดึงตนออกไปทำร้ายร่างกาย โดยไม่ได้มีท่าทีว่าจะคุยเลย จากนั้นตนจึงควักมีดที่พกไว้ออกมากวัดแกว่งเพื่อจะป้องกันตัว โดยเป็นมีดที่พกไว้เพื่อตัดของต่างๆ ระหว่างส่งอาหาร ตอนนี้ก็ได้แจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว ทางฝั่งผู้ต้องหาก็จะแจ้งความกลับเช่นกัน เนื่องจากถูกมีดตวัดใส่ จนได้รับบาดเจ็บ

 

            ส่วนอดีตแฟนสาวคู่กรณี ตั้งแต่หลังเกิดเหตุก็ยังไม่ได้คุยกัน แต่ก่อนหน้านี้ได้มีการคุยกันแค่เรื่องหนี้ที่ตนติดอดีตแฟนสาวไว้ ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์ ทางอดีตแฟนสาวให้เพื่อนของเขามาบอกว่าเมนส์เริ่มไม่มา พอตรวจเสร็จ ก็ขึ้นสองขีด และส่งรูปมาให้เรา ตนก็ได้แสดงเจตนาว่าจะอยากคุยเรื่องความรับผิดชอบกับทางพี่สะใภ้ของคู่กรณี แต่ตนก็บอกว่ายังไม่มั่นใจ ขอคุยกับทางครอบครัวก่อน เพราะระหว่างที่คบกันเกิดการนอกใจขึ้น ซึ่งการที่ตนไม่มั่นใจ และไม่ได้แสดงความรับผิดชอบเต็มที่ คิดว่าทำให้เขาไปบอกพี่ชาย       

 

 

            กันยา พลจันทึก แม่ผู้เสียหาย เผยว่า เห็นสภาพลูกแล้วตนทำใจไม่ได้ เลี้ยงลูกมาตนไม่เคยตีลูกเลย เรื่องการตั้งท้อง พี่สะใภ้เขาโทรมาคุย แต่ตนก็บอกให้เจ้าตัวเขาเคลียร์กัน เพราะแม่ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่กันแบบไหนยังไง แต่พอเคลียร์กันแล้วทำไมไม่มาปรึกษาตน ตนเปิดใจคุยได้ไม่ได้ปิดกั้นเลย ไม่เห็นต้องมาทำกันแบบนี้เลย 

 

            ด้าน ปิ่น น้องสาวผุ้ก่อเหตุ และอดีตแฟนผู้บาดเจ็บ เล่าว่า มีการคุยกันกับทางบ้านเอ็ม โดยถามว่าจะเอายังไง ให้เอาออกหรือเก็บไว้ แต่ใจตนยังไงก็เก็บไว้ ทางคุณแม่เอ็มพูดว่า ถ้าตนอยู่กับแม่ แม่ก็ยอมรับได้ แต่แม่ไม่รู้ว่าไปได้อะไรกับใครมาหรือเปล่า ส่วนทางเอ็มก็ขอปฏิเสธไม่รับ ต่อให้ออกมาเป็นลูกเขา เขาก็ไม่รับ แล้วถามต่อว่า ถ้าออกมาเป็นลูกเขา เขาจะเสียใจไหม เขาบอกว่าเขาไม่เสียใจ

 

 

            ทั้งนี้ตนมั่นใจว่าเอ็มเป็นพ่อเด็ก เพราะทางเอ็มเป็นคนเผลอหลั่งในมาเอง ตนป้องกันแล้วแต่ว่ามันพลาด ช่วงเวลาที่เขาปล่อยมา ตนดูแลตนเองมาตลอด ไม่ได้ไปหาใคร ส่วนคนใหม่ที่เอ็มพูดถึง ตนคบเพียงแค่ 1 เดือน พอเอ็มมาง้อเมื่อเดือน ก.พ. ก็อยู่กับเขามาตลอด และเมื่อเดือน พ.ค. ตนก็ตัดสินใจเลิกกับเขา เพราะทนอยู่กับคนไม่ทำมาหากินไม่ได้ หลังจากเลิกรากันไปตนก็รู้สึกเวียนหัว จึงตรวจครรภ์ พบว่าตั้งท้องขึ้นมา 

 

            ส่วนเรื่องพี่ชาย ตอนแรกตนคิดว่าพี่สะใภ้บอกพี่ชายตนแล้วเรื่องตั้งครรภ์ แล้วตนเผลอพูดเรื่องท้องออกมา จนพี่ชายเกิดความสงสัย ว่าเป็นใครที่ไหน ทำไมไม่มาขอโทษขอขมาแม่ ตนก็ได้บอกที่อยู่ไปเพราะตนเคยอยู่ด้วยกันที่นี่ แต่ตอนนี้เลิกรากันไปแล้ว มารู้อีกทีคือพี่สะใภ้โทรมาหาว่าให้ไปที่ รพ. หน่อย  

 

            ทั้งนี้ ถ้าเขาไม่ยอมรับไม่เป็นไร แต่ขอให้มาขอโทษแม่ของตน แสดงความรับผิดชอบแบบลูกผู้ชายหน่อย         

 

            ด้าน เอ็ม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเลิกกับอดีตแฟนแล้วไปมีใหม่จริง แต่แฟนใหม่คนนี้มีสถานะแค่คนคุย แต่ทางอดีตแฟนอาจจะเข้าใจผิดเพราะมีการตั้งสถานะเป็นแฟนกันในเฟซบุ๊กเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจเฉยๆ 

 

 

            เรื่องที่ส่งข้อความด่ารุนแรงไปก็จริง โดยตอนนั้นตนกับอดีตแฟนมีการคุยกันและทะเลาะกันรุนแรง จนอดีตแฟนทักไปคุยกับคนคุยใหม่ ตนก็ได้ทำการห้าม แต่เขาไม่ฟัง จึงเกิดการส่งข้อความไปด้วยความโมโห  

 

            ตอนนี้ตนก็ทั้งรัก และเจ็บ กับตัวอดีตแฟนอยู่ แต่ตนก็อยากให้คุยกันด้วยเหตุผล ไม่มีการทะเลาะกัน ตบตีกัน เรื่องที่ดี ตนก็จำ ส่วนเรื่องการนอกใจมันติดอยู่ในใจตน จนมาเกิดขึ้นอีก 4-5 ครั้ง ตนพยายามคิดว่าเขาไม่ตั้งใจ แต่ที่ผ่านมาก็แสดงว่าเขาตั้งใจ  

 

            เรื่องลูกนั้น ตนอยากให้ชัดเจน เพราะว่ามันก็มีปมในใจ ว่าใช่ลูกของตนหรือเปล่า แม้เปอร์เซนต์จะมากจะน้อยตนก็ยินดีที่จะคุย และหากเป็นจริงก็จะรับผิดชอบ  

 

            ขณะเดียวกัน ปิ่น กล่าวเสริมว่า ตนก็ยังรักเอ็มอยู่ แต่รักมันกินไม่ได้ ตนทนอยู่กับคนไม่ทำมาหากินไม่ได้ ตลอดเวลาตนเป็นคนหาเงินตลอด เขาเพิ่งมาทำงานตอนเลิกกัน ตอนยอมรับว่าพยายามจะมีแฟนใหม่ แต่ทุกครั้งก็กลับมาหาเขา เพราะยังรักเขาอยู่

 

            ตอนนี้ที่ตนต้องการ คืออยากให้เอ็มหยุดใส่ร้ายตนได้แล้ว ตนติดต่อไปตลอด แต่เขาปฏิเสธกลับมา ตนก็ไม่รู้จะทำยังไง หลังจากนี้หากลูกคลอดออกมาจะตรวจดีเอ็นเอ ตรวจได้ แต่เอ็มจะไม่มีบทบาทกับลูกคนนี้ อย่างไรก็ตามตนก็พร้อมที่จะคุยตกลงกัน ไม่ปิดกั้น 

 

            สุดท้าย เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า อยากให้ทั้งคู่ คุยกันในเวลาที่อารมณ์เย็นแล้ว หนักนิดเบาหน่อยค่อยๆคุยกัน ส่วนเรื่องลูกนั้นจำเป็นต้องทั้งพ่อและแม่ อยากให้เอาลูกเป็นที่ตั้ง อะไรที่เคยบาดหมางกัน เข้าใจผิดซึ่งกันและกัน ทุกอย่างมันอภัยให้กันได้ แม้กระทั่งเรื่องคดีความที่เกิดขึ้นมาแล้ว ถ้าต่อไปเกิดเป็นลูกของทั้งน้องเอ็มและปิ่น ยังไงครอบครัวของทั้ง 2 ฝ่ายต้องไปมาหาสู่อยู่แล้ว  

 

            ส่วนเรื่องคดีความของน้องเอ็ม มันเป็นคดีความไปแล้วก็จริง แต่ว่าในกระบวนการพิจารณาของศาล ท่านก็ดูจากเจตนา และการสำนึกผิดในการกระทำ ถ้าทางผู้ก่อเหตุสำนึกผิด ก็ลองหันหน้ามาคุยกัน